'อลงกรณ์ พลบุตร' ยัน 20 สปช. ไม่ล็อกสเปก ปัดตั้งธงจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ จ่อสัมมนาหลังตั้ง 36 อรหันต์ ขณะที่ 'มานิจ' หวังผลักดันเรื่องสิทธิ เสรีภาพสื่อ กับการรับผิดชอบสังคม ในการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ นายอลงกรณ์ พลบุตร เลขานุการคณะกรรมาธิการประสานงานกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ วิป สปช. ชั่วคราว ระบุว่า การสรรหาบุคคลเพื่อทำหน้าที่เป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญในสัดส่วนของ สปช. 20 คน เมื่อวานนี้ มองว่าเป็นภาพลักษณ์ใหม่ ที่มีความหลากหลายในด้านสาขาครบ 11 สาขา และระดับภาคครบ 4 ภาค อีกทั้ง ยังมีผู้หญิงกว่า 20% โดยเป็นผู้ที่มีความรู้ด้านกฎหมาย การเมือง เศรษฐกิจ สังคม ซึ่งต่างจากเมื่อก่อนที่มักจะมีเฉพาะนักกฎหมายและข้าราชการระดับสูง พร้อมยืนยันว่าไม่มีการล็อกสเปกอย่างแน่นอน ขณะที่นักวิชาการหลายคนมองว่า สัดส่วน สปช. 20 คน เป็นการสะท้อนภาพลักษณ์ว่า มีการร่างรัฐธรรมนูญไว้แล้วนั้น ขออย่าคิดไปเอง เพราะเรื่องยังไม่เกิดขึ้นและพิมพ์เขียวเป็นของประเทศ ไม่ใช่ คสช. อย่างไรก็ตาม การสัมมนาเพื่อหาข้อเสนอแนะในการร่างรัฐธรรมนูญ ขณะนี้ยังไม่ได้หยิบยกเข้ามาในที่ประชุม โดยจะรอให้แต่งตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จก่อน 'มานิจ'หวังผลักดันเรื่องสิทธิเสรีภาพสื่อในรธน.ฉบับใหม่ นายมานิจ สุขสมจิต สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านสื่อมวลชน ซึ่งได้รับคัดเลือกเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ผลักดันการร่างรัฐธรรมนูญ โดยต้องการให้สื่อมีสิทธิเสรีภาพควบคู่กับรับผิดชอบ ไม่ก้าวล้ำเสรีภาพของผู้อื่น เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และต้องการให้เป็นหัวใจของคนทำงานด้านสื่อสารมวลชน โดยการร่างรัฐธรรมนูญนั้น ได้มีการวางโครงการทำงานแล้ว และมีการประชุมคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญให้เร็วที่สุด ด้าน นายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิก สปช. ในฐานะ เลขานุการวิป สปช.ชั่วคราว กล่าวว่า หลังจากได้ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญแล้ว สปช. ก็จะเสนอกรอบในการทำงานของ กมธ.ยกร่างภายใน 60 วัน เพื่อให้ กมธ.ยกร่างไปใช้ในการยกร่าง อีก 120 วันต่อไป รวมถึงจะมีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพื่อประสานงานและติดตามการยกร่างรัฐธรรมนูญต่อไป ซึ่งคาดว่าการตั้งกรรมาธิการต่างๆ น่าจะเสร็จในสัปดาห์หน้าหลังจากกรรมาธิการยกร่างข้อบังคับ นำร่างข้อบังคับเข้าสู่ที่ประชุมในสัปดาห์หน้า เพื่อทำงานคู่ขนานกันต่อไป