หุ้น 4 บริษัทที่โยงคดีปั่นหุ้น หลัง ก.ล.ต.เปรียบเทียบปรับ เปิดเทรดราคาดิ่ง "อาร์พีซี"อ่วมสุด จากกรณีที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ดำเนินการปรับเงินผู้กระทำผิดใน 4 หลักทรัพย์ แบ่งเป็นกรณีการสร้างราคาหุ้น 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท เพิ่มสินสตีลเวิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PERM บริษัท ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล จำกัด (มหาชน)หรือ UKEM บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ SSI และกรณีการใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้น บริษัท อาร์พีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ RPC โดยมีการปรับเงินรวมกันทั้งสิ้น 24,.67ล้านบาท ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นล่าสุดนั้นพบว่า ราคาหุ้นเพิ่มสิน ล่าสุดปิดตลาดที่ราคา 3.16 บาทลดลง 0.18 บาทคิดเป็น 5.39% หุ้นยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล ปิดที่ราคา 1.60 บาท ลดลง 0.01 บาท คิดเป็น 0.62% หุ้นสหวิริยาสตีล ปิดตลาด0.34 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง และหุ้นบริษัทอาร์พีซีจี ปิดตลาดที่ 1.43 บาท ลดลง 0.11 บาทคิดเป็น 7.14% นายพีระเจต สุวรรณนภาศรี กรรมการ บริษัท ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ก.ล.ต.ได้มีการเปรียบเทียบปรับกับผู้ที่กระทำผิดในการสร้างราคาหุ้นของบริษัทนั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 2-3 ปีก่อน ส่วนของบริษัทนั้นไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนให้เกิดการสร้างราคาหุ้น "กรณีที่ก.ล.ต.เปรียบเทียบปรับผู้กระทำความผิดเกิดขึ้นมาเมื่อ 2-3 ปีก่อน ซึ่งในช่วงนั้น มีข่าวลือเกี่ยวกับบริษัทค่อนข้างมาก และทางทีมผู้บริหารได้แจ้งเตือนกับนักลงทุนไปหลายครั้งให้ติดตามข่าวสารที่แท้จริงจากบริษัทเท่านั้น" นายพีระเจต กล่าวต่อว่า ในการสร้างราคาของนักลงทุนหรือนักปั่นหุ้นนั้น บริษัทมองว่ากลุ่มคนเหล่านี้เป็นนักลงทุนประเภทหนึ่งที่ชอบราคาหุ้นที่เคลื่อนไหวรุนแรง บริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่สนับสนุนกับนักลงทุนประเภทนี้ ส่วนการดำเนินการเอาผิดเป็นเรื่องของก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์ และผู้ที่กระทำความผิด ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท ซึ่งในระยะหลังนั้นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์หลายบริษัทมีการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่หวือหวามากกว่าปกติ บางบริษัทมีคำสั่งซื้อหุ้นจำนวนมากผิดปกติ และไม่มีฝั่งที่ต้องการขายหุ้น ทำให้ราคาปรับตัวขึ้นไปแตะระดับซิลลิ่งได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึง กระแสข่าวลือในห้องค้าหลักทรัพย์มีจำนวนมาก ลักษณะดังกล่าวอาจไม่ส่งผลดีกับความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นแต่ละบริษัทได้ หลังจากนี้ในส่วนของผู้บริหารบริษัทนั้น ยังคงเดินหน้าทำธุรกิจต่อไป เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีกับผู้ถือหุ้น และให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับผู้ถือหุ้นเพื่อป้องกันความเสียหาย ในส่วนความเชื่อมั่นในผู้ถือหุ้นนั้น บริษัทเชื่อว่านักลงทุนมีความเข้าใจที่ดีกับบริษัทอยู่แล้ว และข่าวดังกล่าวไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น นายชูเกียรติ ยงวงศ์ไพบูลย์ ประธานกรรมการ และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพิ่มสินสตีลเวิคส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากมีกระแสข่าวการปรับเงินกับผู้กระทำผิดในการปั่นหุ้นของบริษัทนั้น ยอมรับว่าตกใจอย่างมาก ซึ่งบริษัทไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการสร้างราคาหุ้น และไม่รู้จักกับ ทั้ง 3 บุคคลที่เป็นผู้กระทำความผิด "พอเห็นข่าวดังกล่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ยอมรับว่าตกใจอย่างมาก เพราะผมไม่เคยรู้จักกับผู้ที่กระทำความผิดและไม่สนับสนุนกับการสร้างราคาหุ้นอยู่แล้ว และส่วนตัวก็ไม่ได้เล่นหุ้น ในช่วงราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปสูง ทางบริษัทได้แจ้งเตือนกับนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง และได้ชี้แจ้งถึงพัฒนาการของธุรกิจให้กับตลาดหลักทรัพย์ได้รับทราบมาโดยตลอด ซึ่งการสร้างราคาหุ้นนั้นจริงๆ แล้วไม่เกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียน" สาเหตุที่หุ้นถูกปั่นราคาในครั้งนี้มองว่าเกิดจากระดับราคาปิดกำไรต่อหุ้น (พี/อี) ของบริษัทอยู่ในระดับต่ำ และราคาหุ้นไม่สูงมากนัก ทำให้สามารถสร้างราคาได้ง่าย หลังจากเกิดกระแสข่าวดังกล่าวขึ้น ย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นกับถือหุ้นแน่นอน หลังจากนี้ทางบริษัทจะนำเรื่องดังกล่าว เพื่อเข้าหารือกับคณะกรรมการอิสระอย่างเร่งด่วน เพื่อหาแนวทางในการกู้ชื่อเสียงของบริษัท ด้านสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นร่างประกาศการป้องกันและจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์และการลงทุนของผู้ประกอบธุรกิจ โดยก.ล.ต. จัดทำร่างประกาศแก้ไขหลักเกณฑ์ปรับปรุงเพิ่มเติมจากการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักการไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยร่างประกาศครอบคลุมเรื่องการป้องกันการใช้ข้อมูลภายใน การทำธุรกรรมเพื่อลูกค้ากับบุคคลที่เกี่ยวข้อง การจัดทำและเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และการซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเอง Tags : ก.ล.ต. • ตลาดหุ้น • ปั่นหุ้น