ก.ล.ต.ปรับผู้กระทำความผิดคดี "ปั่นหุ้น" ฟัน "เพิ่มสิน-สหวิริยาสตีล-ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล-อาร์พีซี" เพิ่ม รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการเปรียบเทียบปรับ ก.ล.ต. ได้เปรียบเทียบปรับผู้กระทำความผิดฐานสร้างราคาหุ้นใน 4 บริษัท ได้แก่ บริษัทเพิ่มสิน สตีลเวิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PERM บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ SSI บริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์ จำกัด (มหาชน) หรือ RPC และ บริษัท ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล จำกัด (มหาชน) หรือ UKEM โดยได้ทำการเปรียบเทียบปรับรวมเป็นเงิน 24,678,974.91 บาท สำหรับกรณีหุ้นยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล (ยูเคม) ก.ล.ต.มีคำสั่งเปรียบเทียบผู้กระทำผิด 10 ราย ได้แก่ นางสาวอำไพ รัตนนาวิน นางสาวศรีอุบล อินทรอำนวย นางสาวปรีชญา วงศ์ไพฑูรย์ปิยะ (ปัจจุบันนามสกุล ทีฆาสุรัตน์) นางสาวนงลักษณ์ (ปัจจุบันชื่อ พันธุ์วดี) พานิชยาภรณ์ นายบดินทร์ เหลืออรุณ นายสุพร บุญทรง นางสาวศิริพร เกศเกษี นายวีรยุทธ แซ่อึ้ง นางสาวน้ำค้าง ฉันทชาติ และ นายสินโชค ศรินนภากร กรณีสร้างราคาหุ้นยูเคม เป็นจำนวนเงินรวม 19,948,269.33 บาท สืบเนื่องจาก ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์ว่าระหว่างวันที่ 21 ก.ค. ถึงวันที่ 20 ส.ค. 2551 นางสาวอำไพ นางสาวศรีอุบล นางสาวปรีชญา นางสาวนงลักษณ์ นายบดินทร์ และบุคคลอีก 4 ได้รู้เห็นหรือตกลงร่วมกันสร้างราคาหุ้น ผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของบุคคลรวม 7 บัญชี โดยร่วมกันทำการซื้อขายหุ้นอย่างต่อเนื่องในลักษณะอำพราง ผลักดันและพยุงราคา จับคู่กันเองระหว่างบัญชี รวมทั้งทำราคาปิดจาก 2.60 บาทต่อหุ้นในวันที่ 18 ก.ค.2551 มาปิดที่ 6.20 บาทต่อหุ้นในวันที่ 20 ส.ค.2551 เพิ่มขึ้น 3.60 บาท หรือ 138.46 % ทำให้การซื้อขายหุ้นยูเคม ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เพื่อชักจูงให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาและปริมาณซื้อขายหุ้นยูเคม และเข้าซื้อขายหุ้นดังกล่าว โดยได้รับความช่วยเหลือสนับสนุนจากนายสุพร นางสาวศิริพร นายวีรยุทธ นางสาวน้ำค้าง นายสินโชค และบุคคลอีก 2 ราย ก.ล.ต. กล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้วเช่นกันเมื่อวันที่ 9 ก.ย.2557 เนื่องจากไม่ยินยอมเข้ารับการเปรียบเทียบ กรณีของสภาพการซื้อขายหุ้น เพิ่มสิน สตีลเวิคส์ ที่ผิดปกติอันเนื่องมาจากการซื้อขายของบุคคลกลุ่มหนึ่ง เมื่อวันที่ 7 ม.ค.2556 เกิดจากนายเสริมเกียรติ กังเสถียร นายวิเชียร เอื้อศิริพันธ์ และนายประทีป วงศ์กุลนิษฐ์ ได้รู้เห็นหรือตกลงกันใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเอง ซื้อขายหุ้น เพิ่มสิน ในลักษณะต่อเนื่อง ผลักดันราคา และส่งคำสั่งซื้อขายเพื่อจับคู่กันเองระหว่างบัญชีโดยสลับกันทำหน้าที่เป็นผู้ซื้อ-ผู้ขาย ในลักษณะอำพราง ทำให้การซื้อขายหุ้นเพิ่มสินผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เพื่อให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาและปริมาณซื้อขายหุ้นเพิ่มสิน และเข้าซื้อขายหุ้นดังกล่าว เข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 243(1) ประกอบมาตรา 244 และมาตรา 243(2) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ส่วนในกรณีของการสร้างราคาหุ้น เอสเอสไอ ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า เมื่อวันที่ 16 ก .ย.2556 นายอานนท์ชัย วีระประวัติ ได้ซื้อขายหุ้น เอสเอสไอจำนวน 130.12 ล้านหุ้น ด้วยการส่งคำสั่งซื้อขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ตในลักษณะต่อเนื่องกันทั้งสิ้น 299 คำสั่ง การกระทำของนายอานนท์ชัยดังกล่าวทำให้การซื้อขายหุ้น เอสเอสไอ ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เพื่อชักจูงให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่ามีผู้ต้องการซื้อขายหุ้น เอสเอสไอในช่วงเวลานั้นเป็นจำนวนมากและเข้าซื้อขายตาม จึงได้เปรียบเทียบปรับนายอานนท์ชัย เป็นเงิน 768,925 บาท กรณีหุ้นอาร์พีซี ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท อาร์พีซีจี จำกัด (มหาชน) ซึ่ง ก.ล.ต.ได้เปรียบเทียบปรับนายสุมิตร ชาญเมธี นายสัจจา เจนธรรมนุกูล ในฐานะตัวการ กรณีใช้ข้อมูลภายในซื้อหุ้น อาร์พีซี เพื่อตนเอง และนางปิยะนุช เจนธรรมนุกูล ในฐานะผู้ช่วยเหลือสนับสนุน เป็นจำนวนเงินรวม 1,887,659.33 บาท Tags : ก.ล.ต. • ปั่นหุ้น • เพิ่มสิน • สหวิริยาสตีล • ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล • อาร์พีซี