ธนาคารแห่งประเทศไทยเผยตัวเลขบัตรแบบแถบแม่เหล็กที่จะไม่สามารถใช้งานได้ในอนาคตว่าจนถึงตอนนี้ ยังเหลือ 12.1 ล้านใบ (บัตร ATM 6.3 ล้านใบ และบัตรเดบิต 5.8 ล้านใบ) ในจำนวนบัตรแถบแม่เหล็ก 12.1 ล้านใบนี้แบ่งเป็น 5 ล้านใบที่ไม่มีการแอคทีฟแล้ว กับ 7.1 ล้านใบที่ยังแอคทีฟอยู่ โดยตั้งแต่เดือนกันยายน - พฤศจิกายนที่ผ่านมา สถิติบัตรแม่เหล็กลดลงไป 4.5 ล้านใบ นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า อยากกระตุ้นให้ประชาชนไปเปลี่ยนเป็นบัตรชิปการ์ดที่ธนาคารก่อน 15 มกราคมนี้ ไม่เช่นนั้นจะใช้งานไม่ได้อีก ไม่เสียค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนเป็นชิปการ์ด บัตรแม่เหล็กเป็นบัตรที่เก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ในแถบแม่เหล็กโดยไม่มีการเข้ารหัส มีจุดอ่อนสำคัญคือเมื่อคนร้ายอ่านและเอาข้อมูลไปได้ ก็จะสามารถนำข้อมูลไปเขียนใส่บัตรใหม่เพื่อใช้งานได้ ที่ผ่านมาในประเทศไทยมีการทำสำเนาบัตรเช่นนี้ เช่น การแอบติดตั้งเครื่อง skimmer กับตู้เอทีเอ็มจนมีผู้เสียหายเป็นวงกว้าง การเปลี่ยนบัตรทั้งหมดไปเป็นบัตรชิปจะแก้ปัญหาการโจมตีเช่นนี้ได้ Topics: Bank of ThailandATMThailand