สมอ.ปรับโครงสร้างองค์กร เดินหน้าตั้งมาตรฐานอาเซียนในผลิตภัณฑ์รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เปิดทางสินค้าไทยเจาะเออีซี นายอุฤทธิ์ ศรีหนองโคตร เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) เปิดเผยว่า สมอ.ได้ปรับโครงสร้างการทำงานให้มีความคล่องตัว ตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ พ.ศ.2556 เพื่อให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพตามอำนาจหน้าที่มากขึ้น โดยกำหนดให้มีหน่วยปฏิบัติงานรวม 13 หน่วยงาน จากเดิมกำหนดไว้ 12 หน่วยงาน เนื่องจากแยกสำนักงานคณะกรรมการการมาตรฐานแห่งชาติออกมาเป็นหน่วยงาน จากเดิมเป็นคณะกรรมการฯที่มีหน้าที่พิจารณาวาระงานเป็นหลัก โดยโครงสร้างใหม่ได้ตั้งหน่วยงานใหม่ 5 กอง ได้แก่ 1.กองกำหนดมาตรฐาน 2.กองควบคุมมาตรฐาน 3.กองตรวจการมาตรฐาน1ทำหน้าที่ตรวจผลิตภัณฑ์เหล็ก ก่อสร้าง รถยนต์ 4.กองตรวจการมาตรฐาน 2 ทำหน้าที่ตรวจเครื่องใช้ไฟฟ้า และ5.กองตรวจการมาตรฐาน3 ทำหน้าที่ตรวจของเล่น เคมีภัณฑ์ เพื่อให้การทำงานเกิดความชัดเจน ไม่ทำงานแบบหลายหน้าที่ในกองเดียวแบบในอดีต "โครงสร้างใหม่ของสมอ.เริ่มบังคับใช้ได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว พบว่า ประสบความสำเร็จดี แต่จะติดตามผลการทำงานระยะยาวอีกครั้ง แต่มั่นใจว่าจะทำให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นแน่นอน เพราะหน่วยงานหนึ่งจะไม่ทำหน้าที่ทั้งผู้กำหนดมาตรฐาน ผู้อนุญาตและผู้ติดตาม ที่อาจไร้ประสิทธิภาพ และส่อให้เกิดภาพลบต่อองค์กร" นายอุฤทธิ์กล่าว นอกจากนี้ได้สั่งการให้กองกำหนดมาตรฐานปรับปรุงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมทั้งหมด ทั้งมาตรฐานทั่วไป มาตรฐานบังคับ และผลิตภัณฑ์ชุมชน เนื่องจากบางผลิตภัณฑ์อาจล้าสมัย ขณะที่เทคโนโลยีพัฒนาไปมากแล้ว และต้องการให้กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มขึ้นทุกปี เพื่อดูแลผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยสูงสุด ในส่วนของการปรับตัวเพื่อเข้าสู่มาตรฐานอาเซียนนั้น ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานวางแผนการพัฒนาเพื่อเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี)ปี 2558 โดยช่วงต้นเดือนนี้ สมอ.จะเข้าร่วมประชุมการกำหนดมาตรฐานเออีซีใน 2 ผลิตภัณฑ์หลักที่เป็นที่ต้องการของตลาด และมีการวางแผนยกระดับอย่างต่อเนื่อง คือ กลุ่มยานยนต์ 19 รายการ อาทิ ยางรถยนต์ กระจก เข็มขัดนิรภัย และกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า 30-40 รายการ ซึ่งผลิตภัณฑ์ของไทยส่วนใหญ่เป็นมาตรฐานสากลแล้ว ดังนั้นในการประชุมฯสมอ.จะพยายามผลักดันให้ประเทศสมาชิกเออีซีพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้พร้อมและเกิดมาตรฐานทัดเทียมกัน Tags : สมอ. • มาตรฐาน • อาเซียน