รีวิว Huawei Mate 30 Pro: กล้องมีดี แต่ HMS ไม่ใช่ GMS ทำแทนไม่ได้

หัวข้อกระทู้ ใน 'เทคโนโลยี' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 6 พฤศจิกายน 2019.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    อย่างที่ทราบกันว่า Huawei Mate 30 Pro แม้เรื่องกล้องและประสิทธิภาพจะดีแค่ไหนก็ตาม แต่ด้วยปัญหาระหว่างสหรัฐและจีนทำให้ไม่ได้มี Google Mobile Services ติดมาด้วย ซึ่งก็อาจเป็นปัจจัยให้ใครหลาย ๆ คนเลือกจะไม่ซื้อเรือธงรุ่นนี้รวมถึงมีความสงสัยว่า Huawei Mobile Services และ App Gallery มันจะสามารถทดแทนกูเกิลที่ขาดหายไปได้มากน้อยแค่ไหน

    ผู้เขียนเองใช้ชีวิตกับระบบ Google Mobile Service มาตลอดจนตอนแรกก็นึกภาพไม่ออกว่า Huawei Mate 30 Pro ที่ไม่มีระบบของกูเกิล จะเป็นอย่างไร รีวิวนี้เลยจะเน้นไปที่ประสบการณ์ในงานในแง่นี้เป็นหลักครับ

    [​IMG]

    ไม่มีกูเกิลแล้วอยู่ยาก


    Huawei AppGallery คือสโตร์เดียวใน Mate 30 Pro ที่ใช้โหลดแอพ ซึ่งตอนนี้มีจำนวนน้อยกว่าและ API ของหลาย ๆ แอพยังไม่ปรับให้เข้ากับ Huawei Mobile Service (HMS) ตอนโหลดมาส่วนใหญ่จึงทำงานไม่เต็มที่หรือไม่ทำงาน เช่น Major ที่ดูตัวอย่างและอ่านเรื่องย่อของหนังได้แต่กดจองหนังไม่ได้, Wongnai จะอ่านรีวิวร้านอาหาร ดูสูตรทำอาหารได้แต่เดลิเวอรีไม่ทำงานเพราะต้องการ GMS

    [​IMG]

    LINE ตัวเต็ม, LINE TV แอพเด้งทันทีแม้โหลดไฟล์ apk หรือมาจากสโตร์อื่นก็ตาม ส่วน Play Tube ที่ใช้แทน YouTube มีโฆษณาพ่วงเยอะจนต้องลบทิ้งเหมือนยุค Android Market

    พอไม่มีระบบของกูเกิลเลยทำให้ใช้ชีวิตลำบากขึ้นมากและทำงานไม่สะดวก พอเชื่อมกับ Google Account ของเราไม่ได้ทำให้แก้งานใน Google Docs, ดูตารางงานใน Google Calendar หรือหาเส้นทางการเดินทางที่เร็วสุดใน Google Maps ไม่ได้ ไม่มีแอพเรียกแท็กซี่อย่าง Grab, Line Taxi ทำให้เดินทางลำบากและเสียเวลามากขึ้นกว่าเดิม

    เทียบแล้ว Huawei AppGallery คือ Android ในยุคเริ่มต้นที่มีแอพดีและไม่ดีผสมกันอยู่ ไม่มีระบบ Google Play Protect มาคัดแอพที่ไม่ดีออกจึงต้องระวังตอนโหลดแอพมาใส่ในเครื่อง ไม่มีระบบอำนวยความสะดวกเช่นการกรอกและบันทึกรหัสผ่านของเว็บไซต์ต่าง ๆ เก็บไว้, ไม่มีการดึงเบอร์โทรที่เคยบันทึกไว้ใน Google Account กลับมา ต้องใช้แอพ Phone Clone ที่ในเครื่องเพื่อดึงข้อมูลใน Android เครื่องเก่ากลับมาเท่านั้น

    ส่วนแอพที่สมบูรณ์เพียงหยิบมือ เช่น K PLUS ของธนาคารกสิกรไทยที่ทำงานสมบูรณ์เป็นปกติ จึงกดเงินไม่ใช้บัตร, ตรวจสอบยอดเงินคงเหลือจนกระทั่งสั่งชำระยอดเรียกเก็บของบัตรเครดิต เช่นเดียวกับ TrueMoney ที่ใช้จ่ายเงินใน 7-11 รวมทั้งสั่งเติมเงินจากบัญชีที่ผูกเอาไว้ได้เหมือนเดิม

    [​IMG]

    ทดลองกดเงินไม่ใช้บัตรด้วย Mate 30 Pro

    เกมที่ทดลองโหลดมามี Honkai Impact 3 กับ Laplace M ทั้งสองเกมยังทำงานตามปกติเหมือนในมือถือที่มี GMS แต่จากที่ทดลองเล่น การล็อคอินทั้งสองเกมเปลี่ยนจาก Google Account, Facebook หรือ Twitter มาใช้ Huawei ID เพียงอย่างเดียว

    [​IMG]

    แอพของกูเกิลทั้งหมด ทั้ง Google Drive, Google Docs, Google Calendar ต้องใช้ผ่านเบราเซอร์เท่านั้น ต่อให้ลงผ่าน apk พอเข้าแอพก็เด้งทันที Google Maps ลงชื่อใช้ไม่ได้ จึงเปิดดูแผนที่คร่าว ๆ เท่านั้นรวมทั้งล็อคอินผ่านเว็บก็ไม่มี API Location ใช้ระบุพื้นที่ที่เราอยู่ การใช้แอพของกูเกิลที่ค่อนข้างสำคัญและมีการใช้งานประจำผ่านเบราว์เซอร์จะไม่ค่อยสะดวกนักเมื่อเทียบกับใช้งานผ่านแอพ

    [​IMG]

    ส่วนแอพทดแทนที่ลองโหลดมา เช่น Moovit แทน Google Maps ใช้หาเส้นทางเดินทางได้แค่มีสถานที่บนแผนที่น้อยกว่า, อีเมล์ใช้แอพของ Huawei หรือ Aquamail ยังเชื่อมกับบัญชี Gmail ตามปกติ เบราว์เซอร์มี Opera mini ส่วนตัวคิดว่าการแสดงเนื้อหาบนเบราว์เซอร์ใน Mate 30 Pro ดูดีกว่า Opera mini ที่เว้นประโยคไม่สวยจนแตกเป็นย่อหน้าย่อย ๆ หรือเว้นวรรคห่างเกินไป

    YouTube มีแอพตัวแทนชื่อ HD Tube Play Video ใน AppGallery ระบบเหมือน YouTube เวอร์ชั่นเก่า มีแถบ Trending, Subscriptions, Bookmarked Playlist และพิมพ์หาคลิปหรือช่องที่ต้องการและโหลดมาเก็บในเครื่องได้ แอพรองรับการเล่นคลิปที่ Full HD 60fps เท่านั้น

    [​IMG]

    ส่วน Facebook, Facebook Messenger, Twitter, Instagram ไม่มีให้โหลดใน AppGallery ต้องไปหาโหลดจากสโตร์เถื่อนมาติดตั้ง ซึ่งผู้เขียนไม่แนะนำเพราะอาจเกิดอันตรายกับข้อมูลส่วนตัวได้ ในแง่การใช้งานเหมือนปกติ ส่วนการเช็คอินสถานที่ใน Facebook ต้องพิมพ์หาสถานที่เนื่องจากไม่มี API Location จึงดึงข้อมูลสถานที่ของเราขึ้นมาแสดงไม่ได้

    LINE ต้องเป็น LINE Lite เพราะเวอร์ชั่นเต็มทำงานไม่ได้ แอพสามารถใช้โทรแบบเสียงหรือวิดีโอ, โหลดสติกเกอร์ที่เคยซื้อไว้กลับมาเท่านั้นไม่มีซื้อเพิ่ม ไม่มีธีมให้เปลี่ยนเป็นหน้าต่างสีขาวอย่างเดียว ส่วน LINE TV ไม่ทำงาน

    ประสิทธิภาพและการใช้งานจริง


    ระบบปฏิบัติการของ Huawei Mate 30 Pro เป็น EMUI 10 พัฒนาจาก Android 10 ถูกปรับแต่งมาดี ไม่มีอาการแอพค้างหรือปิดตัวกะทันหัน ไม่ปิดแอพที่ทำงานอยู่เบื้องหลังถี่เกินไปเหมือน EMUI เวอร์ชั่นก่อน ๆ เวลาใช้จริงแอพไม่กระตุกและตอบสนองเร็วมาก สลับระหว่างแอพและเปิดกลับมาได้เร็ว

    สีหน้าจอสดมาก ใช้นาน ๆ ตาไม่ล้าเพราะมีฟังก์ชั่นปรับโทนแสงตามสภาพแวดล้อม ส่วนขอบหน้าจอโค้งลงสองข้างไม่เกิดอาการลั่นระหว่างใช้ การแตะสองครั้งแล้วเลื่อนนิ้วเพื่อปรับเพิ่มลดเสียงอาจไม่ชินในตอนแรก พอคุ้นแล้วกลับสะดวกกว่าปุ่มแบบเดิมมาก ข้อเสียคือถ้าหน้าจอดับอยู่จะเพิ่มลดเสียงไม่ได้เลย

    [​IMG]

    ระบบยืนยันตัวมีระบบสแกนใบหน้าหรือสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ส่วนใหญ่ผู้เขียนมักใช้สแกนใบหน้าบ่อยกว่าเพราะเมื่อไหร่ที่จอติดแล้วหน้าเราอยู่ในระยะราวหนึ่งฟุตเครื่องจะปลดล็อคทันที สแกนนิ้วมักใช้ตอนวางเครื่องไว้บนโต๊ะทำงานและปลดล็อคเร็วเท่าสแกนใบหน้า ถึงสแกนแบบไม่เต็มนิ้วก็ยังทำงาน

    แบตเตอรี่ของ Mate 30 Pro ถ้าปล่อยไว้รอรับสายอย่างเดียว เชื่อว่าแบตเตอรีทำให้เครื่องติดราว 2-3 วัน ถ้าถอดปลั๊กตอน 7 โมงเช้าใช้เข้าเว็บและเล่นเกมตามปกติ พอกลับถึงบ้านตอนสองทุ่มเหลือแบตราว 45% ถ้าใช้เครื่องไม่บ่อย ไม่จำเป็นต้องพกแบตเตอรีสำรอง

    [​IMG]

    กล้องที่ DXOMARK ยกให้ดีสุดในโลก ณ ตอนนี้


    DxoMark 121 คะแนนของ Mate 30 Pro ถือว่าเป็นคะแนนที่สูงสุดในตอนนี้แล้ว ทางผู้เขียนทดสอบโดยใช้โหมด Auto และเปิดตารางเก้าช่องในการถ่ายเท่านั้น จุดเด่นคือโฟกัสและชัตเตอร์เร็วมาก

    ภาพที่ถ่ายจาก Mate 30 Pro เป็นภาพที่มีรายละเอียดดีมาก สีจากกล้องหลักตรงตามที่ตาเห็นและออกโทนเข้ม ส่วนเลนส์ ultra-wide ถ่ายภาพโทนเหลืองและสว่าง

    ระบบ Master AI ในระบบปฏิบัติการ EMUI 10 ทำงานและเปลี่ยนโหมดกล้องไปอยู่ในโหมดที่เหมาะสมได้เร็ว เมื่อกล้องเห็นว่าในภาพเป็นคน, ต้นไม้หรืออาหาร กล้องจะเปลี่ยนโหมดอัตโนมัติ ทำให้สีสันเข้มขึ้น ในบางครั้งผู้เขียนพบว่า Master AI มีโอกาสทำสีเพี้ยนอยู่บ้าง

    [​IMG]

    ภาพจากเลนส์หลัก

    [​IMG]

    ภาพจากเลนส์ ultra-wide

    [​IMG]

    สายถ่ายสัตว์เลี้ยงจะเห็นว่าขนของแมวที่ถูกถ่ายเป็นตัวอย่างแยกเป็นเส้น ๆ พอซูมแล้วโฟกัสไม่หลุด

    [​IMG]

    ถ่ายด้วยโหมดปกติ

    [​IMG]

    ถ่ายภาพด้วย Night mode

    ผู้เขียนเห็นว่า Night mode ทำงานดีและภาพสว่างขึ้นมาก แต่ต้องถือกล้องนานขึ้นโดยเครื่องจะขึ้นตัวเลขนับเวลาถอยหลังให้เราราว 4-6 วินาที เหมาะกับการถือถ่ายสิ่งที่อยู่นิ่ง

    การซูมมีแบบออปติคัลด้วยเลนส์ระยะ 3X, 5X และดิจิทัลซูมสูงสุด 30X น้อยกว่า P30 Pro ที่ซูมไปถึง 50X กลับกันผู้เขียนคิดว่าการซูม 30X มีระยะไกลพอควรและภาพไม่แตกเกินไป

    [​IMG]

    ระยะปกติ

    [​IMG]

    ระยะซูม 3X

    [​IMG]

    ระยะซูม 5X

    [​IMG]

    ระยะซูม 30X แบบดิจิทัล

    วิดีโอของ Mate 30 Pro ตั้งค่าบันทึกสูงสุดถึง 4K 60fps เข้ารหัสไฟล์แบบ H.265 ไฟล์จึงไม่ใหญ่มาก ตอนตั้งค่า เริ่มโดยเข้าโหมดเตรียมถ่ายวิดีโอและเลื่อนฟังก์ชั่นวิดีโอบิวตี้ไปที่ 0 ก่อน เครื่องถึงเปิดให้เราบันทึกไฟล์แบบ 4K 60fps

    กล้องของ Mate 30 Pro ที่ลองถ่ายคือจับโฟกัสเร็วและซูมลื่นทีเดียว


    *ตัวอย่างวิดีโอ 4K 60fps *

    ส่วนการถ่ายคลิปสโลว์โมชั่น 7680fps อยู่ที่คำสั่งอื่น ๆ ริมขวาสุด เลือกที่สโลวโมชั่นแล้วตั้งค่าความช้าตอนบันทึกไว้ที่ 256X จะได้คลิปแบบตัวอย่างข้างล่าง


    สำหรับคลิปสโลว์โมชั่น 7680fps ทำงานคล้าย Night mode เพิ่มเติมคือกล้องจะสแกนหาสิ่งที่เคลื่อนไหวแล้วถ่ายครั้งเดียว ใช้เวลาประมวลผล 1-2 วินาที ก่อนบันทึกเป็นคลิป

    สรุป


    [​IMG]

    Huawei Mate 30 Pro ที่ไม่มี Google Play Services ติดตั้งมา คิดว่าไม่เหมาะใช้เป็นเครื่องหลักในตอนนี้ เพราะไม่มีบริการของกูเกิลเลย จึงต้องเสียเวลาหาแอพมาใช้และปรับตัวเยอะมากจึงหวังว่าถ้าบริษัทสหรัฐรวมถึงกูเกิลได้ใบอนุญาตทำการค้ากับ Huawei แล้วมี Google Play Service เมื่อไหร่ จะเป็นมือถือที่น่าใช้ที่สุดรุ่นหนึ่ง

    Topics: HuaweiMobileSmartphoneReview
     

แบ่งปันหน้านี้