อีซีบีซื้อหุ้นกู้ตลาดรองเร่งฟื้นฟูศก. "ยูโรโซน" เอเปคชี้เศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยงขาลง สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าแหล่งข่าวหลายคนเผยว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กำลังพิจารณาที่จะซื้อหุ้นกู้ในตลาดรอง และอาจตัดสินใจเรื่องนี้ในเดือนธ.ค. โดยอาจเริ่มเข้าซื้อต้นปีหน้า ที่ผ่านมาผู้กำหนดนโยบายพากันหาทางอย่างหนักในการฟื้นฟูเศรษฐกิจยูโรโซน ซึ่งแทบไม่ขยายตัวและเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำเพียง 0.3% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของอีซีบีที่ 2% โดยล่าสุดมีข่าวว่าอีซีบีกำลังศึกษาความเป็นไปได้ของการเข้าซื้อหุ้นกู้ ซึ่งหากอีซีบีเข้าซื้อหุ้นกู้จริงจะถือเป็นการขยายโครงการเข้าซื้อสินทรัพย์ภาคเอกชนที่เริ่มต้นเมื่อวันจันทร์ (20 ต.ค.) ภายใต้ความหวังว่ามาตรการเหล่านี้จะส่งเสริมการปล่อยกู้แก่ธุรกิจต่างๆ อันจะส่งผลต่อเนื่องในการช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจยูโรโซน อีซีบีได้เริ่มเข้าซื้อตราสารหนี้ประเภท covered bonds เมื่อวันจันทร์ แต่มีความวิตกว่ามาตรการเหล่านี้มีผลกระทบพอที่จะพยุงเศรษฐกิจหรือไม่ แหล่งข่าวคนหนึ่งเผยว่าแรงกดดันให้เข้าซื้อหุ้นกู้มีสูงมาก แต่โฆษกของอีซีบีกล่าวว่าผู้มีหน้าที่รับผิดชอบยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องนี้ แหล่งข่าวเผยว่า ผู้กำหนดนโยบายของอีซีบีอาจหารือความเป็นไปได้ของการซื้อหุ้นกู้ในการประชุมเดือนธ.ค. และการประชุมเดือนธ.ค.เช่นกันอาจตัดสินใจเดินหน้าเข้าซื้อ แต่การเคลื่อนไหวนี้ยังไม่ชัดเจน กระนั้นหากมีการตัดสินใจเดินหน้าแผนการนี้ในการประชุมเดือนธ.ค. ก็น่าจะเข้าซื้อในตลาดรองในช่วงไตรมาสแรกของปี 2558 ทั้งนี้ อีซีบีได้ลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือระดับต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์แล้ว เพื่อให้ธนาคารต่างๆ สามารถกู้เงินโดยเสียต้นทุนที่ถูก ทั้งยังเริ่มเข้าซื้อพันธบัตรที่มีสินทรัพย์คุณภาพสูงหนุนหลัง อย่างไรก็ตาม นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี ย้ำว่าลำพังอีซีบีไม่สามารถแก้ปัญหายูโรโซนได้ พร้อมเรียกร้องให้ประเทศที่เผชิญวิกฤติ จัดการปฏิรูปเศรษฐกิจให้เข้าที่เข้าทาง การเข้าซื้อหุ้นกู้จะเปิดโอกาสให้อีซีบีกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากขึ้น ทั้งยังเข้ากับเป้าหมายของการฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยไม่ต้องซื้อพันธบัตรรัฐบาล อันเป็นสิ่งที่ผู้ว่าการธนาคารกลางเยอรมนีคัดค้านเพราะเห็นว่าเท่ากับเป็นการที่อีซีบีเข้าอุ้มรัฐบาลของประเทศต่างๆ การซื้อหุ้นกู้สามารถช่วยดึงอัตราดอกเบี้ยระยะยาวในยูโรโซนให้ลดลงได้ รวมถึงช่วยส่งเสริมให้ธนาคารต่างๆ ปล่อยกู้มากขึ้นอีก นอกจากนั้น ตลาดหุ้นกู้ยังมีขนาดใหญ่กว่าตราสารหนี้ประเภท covered bonds ซึ่งเป็นตราสารหนี้ที่ได้รับการหนุนหลังจากเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยและเงินกู้อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ก่อนหน้านี้ นายดรากี ย้ำว่า อีซีบีพร้อมใช้เครื่องมือใหม่ๆ เพิ่มเติม รวมถึงปรับขนาดของการเข้าแทรกแซง ในกรณีที่จำเป็น นายจาง เกาลี รองนายกรัฐมนตรี ของจีน กล่าวในการประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (เอเปค) ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังเผชิญความยากลำบาก เพราะยังมีความเสี่ยงขาลง ขณะที่การท้าทายที่บรรดาประเทศในเอเชียแปซิฟิกเผชิญนั้น รวมถึงการที่ธนาคารกลางสหรัฐจะยุติการเข้าซื้อพันธบัตรปลายเดือนนี้ ด้านนางศรีมุลยานี อินทราวาตี กรรมการผู้จัดการธนาคารโลก เตือนว่าโลกเผชิญความเสี่ยงต่างๆ รวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์อ่อนแอ การระบาดของไวรัสอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก ความไร้เสถียรภาพทางการเมืองผลจากการเกิดขึ้นของกลุ่มรัฐอิสลาม และความขัดแย้งในยูเครน พร้อมเสริมว่าภาพต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปและปีนี้อาจกลายเป็นปีที่น่าผิดหวังสำหรับเศรษฐกิจโลก "การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกถูกปรับลดลงหลายครั้ง ล่าสุดคาดว่าจะขยายตัว 2.6% ปีนี้" นางอินทราวาตี ระบุ พร้อมเสริมว่าสภาพดังกล่าวสะท้อนถึงการประเมินความเสี่ยงในโลกต่ำเกินไปอย่างเป็นระบบ ทั้งยังไม่มีการรับมือด้านนโยบายอย่างเพียงพอ ขณะที่ วอนพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ และนำสกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ในเอเชียปรับตัวขึ้นจากตลาดหุ้นภูมิภาคที่พุ่งขึ้น และความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีแผนจะซื้อหุ้นกู้ภาคเอกชน วอนแข็งค่าขึ้น 0.3% มาที่ 1,051.1 ต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.จากแรงซื้อของกลุ่มผู้ส่งออกเพื่อชำระบัญชีในช่วงปลายเดือน ขณะที่กองทุนต่างประเทศซื้อวอน ส่วนแรงขายตัดขาดทุนดอลลาร์ก็ได้หนุนวอนเช่นกัน ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น แต่รูเปี๊ยะห์สวนกระแสอ่อนค่าลงจากแรงซื้อดอลลาร์ของกลุ่มผู้นำเข้าเพื่อชำระบัญชี โดยเทรดเดอร์ขายทำกำไรรูเปี๊ยะห์ หลังจากที่แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ เมื่อวานนี้ (22 ต.ค.) นักบริหารเงินจากธนาคารพาณิชย์ กล่าวว่า ค่าเงินบาทวานนี้ ปิดตลาดที่ 32.33 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย เพราะตลาดยังกังวลในเศรษฐกิจโลก ทั้งเศรษฐกิจจีนและยุโรป ทำให้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าอีกครั้ง โดยต้องจับตาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเป็นหลัก หากฟื้นตัวดี ดอลลาร์จะกลับมาแข็งอีกครั้ง ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาทในระยะถัดไป หากอ่อนค่าหลุด 32.37 บาทต่อดอลลาร์ไปได้ อาจเห็นเงินบาทอ่อนไปถึงระดับ 32.50 บาทต่อดอลลาร์ได้ Tags : อีซีบี • ยูโรโซน • ธนาคารกลางยุโรป