"พลังงานบริสุทธิ์" เล็งขอไลเซ่นส์โซลาร์ฟาร์มเพิ่ม ระบุมีพื้นที่-ศักยภาพพร้อม "พลังงานบริสุทธิ์" เล็งขอไลเซ่นส์โซลาร์ฟาร์มเพิ่ม ระบุมีพื้นที่-ศักยภาพพร้อม นักวิเคราะห์ ประเมิน 3 บริษัท "พลังงานบริสุทธิ์-กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง-เด็มโก้" รับอานิสงส์ กพช.ขยายซื้อไฟจากโซลาร์ฟาร์มอีก 800 เมกะวัตต์ นายอมร ทรัพย์ทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA กล่าวว่า บริษัทเตรียมขอใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่ม หลังกพช.มีมติให้ขยายการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) อีก 800 เมกะวัตต์ โดยมั่นใจในความพร้อม ทั้งด้านพื้นที่ติดตั้งและศักยภาพในการผลิต ปัจจุบันบริษัท มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าอยู่แล้ว 278 เมกะวัตต์ มีราคาแอดเดอร์ ที่ 8 บาทต่อหน่วย สำหรับ 8 เมกะวัตต์ และ 6.50 บาทต่อหน่วย สำหรับ 270 เมกะวัตต์ ขณะที่ราคาการรับซื้อไฟฟ้ารอบใหม่นี้ กำหนดรูปแบบตามต้นทุนที่แท้จริง (Feed-in Tariff:FiT) ที่ราคา 5.66 บาทต่อหน่วย "อาจจะให้อัตรากำไรที่ลดลง แต่ไม่กังวล เพราะเป็นกฎที่ต้องปฏิบัติตาม หากรักษาต้นทุนให้เหมาะสม ก็สามารถทำได้มีอัตรากำไรสูง" นายอมร กล่าว ขณะนี้บริษัทจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้แล้ว 98 เมกะวัตต์ โดยปลายปีนี้ จะมีกำลังการผลิตจากโครงการลำปางเข้ามาเพิ่มอีก 90 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้ในปีหน้าบริษัท จะรับรู้รายได้พลังงานแสงอาทิตย์ 188 เมกะวัตต์เต็มปี และจะทำให้กำไรสุทธิเติบโตก้าวกระโดดจากปีนี้ ขณะที่ช่วงปลายปี 2558 โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ จ.พิษณุโลก จะแล้วเสร็จและเพิ่มกำลังการผลิตอีก 90 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้รวมทั้งหมดบริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 278 เมกะวัตต์ในปลายปี 2558 และมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมอีก 386 เมกะวัตต์ คาดจะจำหน่ายไฟเชิงพาณิชย์ได้ครบทั้งหมดในปี 2560 บริษัทตั้งงบลงทุน 17,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่พิษณุโลก กำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลมเฟสแรก 126 เมกะวัตต์ ส่วน บล.ทรีนิตี้ ประเมินว่า ผู้ประกอบการโซลาร์ฟาร์มส่วนใหญ่ สนใจยื่นเสนอขายไฟจำนวนนี้แน่นอน แต่ราคาการรับซื้อไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในกลุ่มนี้ ถูกกำหนดรูปแบบตามต้นทุน แท้จริง ที่ราคา 5.66 บาท/หน่วย จากเดิมที่ใช้เป็นค่า Adder ซึ่งจะอยู่ที่ 6.50 บาท/หน่วย จึงอาจจะทำให้การแข่งขันลดความน่าสนใจลงมา "จะมี 3 บริษัทที่มีศักยภาพสูงสุด ที่จะได้รับประโยชน์จากการขยายการซื้อไฟในครั้งนี้ นั่นคือ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง และบริษัท เด็มโก้" โดยบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ และบริษัทกันกุลเอ็นจิเนียริ่ง ถือว่าเป็นบริษัทที่มีศักยภาพมากกว่าบริษัทอื่น จากหนี้สินต่อทุนที่อยู่ในระดับต่ำ และโครงการที่อยู่ในมืออยู่ในระดับสูง ส่วนบริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง ก็เป็นผู้รับเหมาสร้างโรงไฟฟ้าด้วย จึงจะได้รับประโยชน์ 2 ต่อ ส่วนบริษัท เด็มโก้ เป็นผู้รับเหมาโรงไฟฟ้ารายใหญ่ ที่ได้รับงานต่อเนื่อง "สำหรับ 3 บริษัทนี้ดูดีที่สุด โดยเฉพาะกันกุลเอ็นจิเนียริ่ง ที่ได้รับประโยชน์ 2 ต่อ เพราะเป็นทั้งผู้ผลิตไฟ และรับเหมาสร้างโรงไฟฟ้าด้วย แต่ตอนนี้ยังต้องขอทบทวนราคาเป้าหมายใหม่ เพราะประเด็นเรื่องการขยายการรับซื้อไฟ อาจจะต้องมีการปรับค่า FiT หรือเพิ่มส่วนสนับสนุนเข้ามาเพื่อเป็นแรงจูงใจอีกครั้ง" นักวิเคราะห์ กล่าว Tags : นายอมร ทรัพย์ทวีกุล • พลังงานบริสุทธิ์ • ไฟฟ้า