บ้านปูตั้งเป้าปริมาณขายถ่านหินปีหน้า 50 ล้านตัน เล็งยื่นขอสร้างโรงไฟฟ้าในจีนและอินโดฯ บ้านปูตั้งเป้าปริมาณขายถ่านหินปีหน้า 50 ล้านตัน จากปีนี้อยู่ที่ 48.8 ล้านตัน ขณะที่ประเมินราคาเฉลี่ยถ่านหินน่าจะ 70 ดอลลาร์ต่อตันใกล้เคียงปีนี้พร้อมเตรียมขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีอีก 1,100 MW เล็งยื่นขอสร้างโรงไฟฟ้าในจีนและอินโดฯ นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) BANPU กล่าวว่าบริษัทตั้งเป้าปริมาณยอดขายถ่านหินปีหน้าอยู่ที่ 50 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่ 48.8 ล้านตัน เนื่องจากเหมืองที่จีน จะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านตัน เป็น 9 ล้านตัน จากที่บริษัทใช้เทคโนโลยีเข้าเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตจากปีนี้มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 7-8 ล้านตัน ส่วนเหมืองที่อินโดนีเซียและออสเตรเลียคาดว่าจะมีกำลังการผลิตใกล้เคียงกับปีนี้ ขณะที่ทิศทางราคาถ่านหินในปีหน้า คาดว่าราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ 70 ดอลลาร์ต่อตันใกล้เคียงกับปีนี้ "ปริมาณยอดขายถ่านหินที่เพิ่มขึ้นจะมาจากเหมืองที่จีน จากที่ได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพกำลังการผลิตทำให้ผลิตถ่านหินได้เพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านตัน จากปีนี้อยู่ที่ 7-8 ล้านตัน โดยจากราคาถ่านหินที่มีการปรับตัวลดลงนั้น เชื่อว่าจะทำให้อินเดียมีการสั่งซื้อถ่านหินที่มากขึ้น โดยปีนี้บริษัทยังมองว่าราคาถ่านหินเฉลี่ยอยู่ที่ 70 ดอลลาร์ต่อตัน แม้ปัจจุบันจะอยู่ที่ 65 ดอลลาร์ต่อตัน ส่วนจีนมีการประกาศเกณฑ์นำเข้าถ่านหินที่ต้องมีคุณภาพสูงและมีการเก็บภาษีนำเข้าถ่านหินนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบกับบริษัท" นายชนินท์กล่าว ทั้งนี้ แผนการเสนอขายหุ้นกู้จากที่บริษัทฯได้ขออนุมัติวงเงินไว้มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท บริษัทจะมีการทยอยออกหุ้นกู้ในช่วงจังหวะที่เหมาะสม เพื่อปรับโครงสร้างทางการเงินให้บริษัทฯมีภาระการจ่ายดอกเบี้ยคงที่เพิ่มเป็น 74% จากปัจจุบัน 64% เพราะมองว่าทิศทางอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มขาขึ้น แต่เชื่อว่าการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย จะยังไม่เร็ว เพราะเศรษฐกิจโลกยังไม่ได้ฟื้นตัวดีอย่างที่คาด ส่วนแผนการลงทุน 5 ปี (2559-2563) ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำแผนคาดว่าน่าจะเสร็จประมาณต้นปีหน้า นายชนินท์กล่าวว่าบริษัทเตรียมที่จะขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าของ บริษัท บีแอลซีพี พาวเวอร์ จำกัด (BLCP) อีก 1,100 เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในการซื้อเครื่องจักรและทำประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะมีความชัดเจนในต้นปีหน้า และมีแผนยื่นขออนุญาตสร้างโรงไฟฟ้าที่ประเทศที่จีนอีก 1 แห่ง จากปัจจุบันที่มีอยู่ 3 แห่ง กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 100 เมกะวัตต์ และยังนี้มีแผนที่จะเข้าประมูลโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ประเทศอินโดนีเซียโดยร่วมกับพันธมิตร ส่วนความคืบหน้าการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่น คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในต้นปีหน้า นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคที ซีมิโก้กล่าวว่าแนวโน้มกำไรที่คาดจะเป็นจุดต่ำสุดในปี 2557 และแนวโน้มกำไรปี 2558-59 ที่คาดจะมีสัดส่วนของกำไรที่มีคุณภาพจากธุรกิจไฟฟ้ามากขึ้น หลักๆ มาจากโรงไฟฟ้าหงสา รวมทั้งมีปัจจัยหนุนใหม่ จากความเป็นไปได้ของการเปิดประมูลโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศไทย และการขยายการลงทุนในโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่น กรณีศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้บริษัทบ้านปูไม่ต้องชำระค่าเสียหายให้กับกลุ่มงานทวี กรณีโครงการโรงไฟฟ้าหงสา สปป.ลาว ที่นายศิวะ งานทวีและพวกเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง โดยให้เหตุผลว่าบริษัทกระทำการโดยสุจริตทั้งก่อนและหลังการเข้าทำสัญญาร่วมพัฒนาโครงการ และบริษัทไม่ได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ แต่ฝ่ายโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาเอง ศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งให้กลับคำพิพากษาของศาลแพ่งเมื่อเดือนก.ย.2555 ที่สั่งให้บริษัทชำระค่าเสียหาย 32-33 พันล้านบาท รวมค่าเสียหายด้านข้อมูล 4 พันล้านบาท บวกดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี ตั้งแต่วันยื่นฟ้องจนถึงวันชำระหมด รวมถึงค่าเสียโอกาส 860 ล้านบาทต่อปี ในช่วงปี 2558-70 และ 1.38 พันล้านบาทต่อปี ในช่วงปี 2571-82 ซึ่งถือว่าเป็นบวกทางจิตวิทยา แต่คดีความยังไม่สิ้นสุด Tags : บ้านปู • โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี • BANPU • นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ • กโรงไฟฟ้าหงสา • จีน • อินโดฯ