นายกรัฐมนตรี ถึงทำเนียบ ประชุม กพช. รัฐมนตรีเกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัย เข้มงวด มีกลุ่มพลังงานยื่นหนังสือ จี้ ยับยั้งการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 สำหรับวาระงานภายในทำเนียบรัฐบาลวันนี้ ในเวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล โดยมีวาระการประชุมที่น่าจับตา อาทิ การกำหนดอัตราราคารับซื้อไฟฟ้าจากผู้ประกอบการที่ลงทุนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนและพลังงานชีวมวล การรายงานเรื่องการเร่งเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 และความคืบหน้าแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (พีดีพี) ปี 2558-2579 อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ ทางกลุ่มเครือข่ายปฏิรูปพลังงานจะเดินทางมาที่ประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อติดตามผลการประชุมในวันนี้ด้วย นายกฯ ถึงทำเนียบ เข้าประชุม กพช. ความเคลื่อนไหวที่ทำเนียบรัฐบาล ในเช้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัสหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้เดินทางเข้ามาที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว เพื่อเตรียมเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ที่ตึกสันติไมตรี ขณะเดียวกัน บรรดารัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่างทยอยเดินทางเข้ามาที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเข้มงวดตามปกติ อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ ช่วงเวลา 10.00 น. กลุ่มปฏิรูปพลังงาน นำโดย พ.ท.พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี ได้นัดหมายรวมตัวทำเนียบรัฐบาล คัดค้านสัมปทานปิโตรเลียม รอบที่ 21 และทวงถามการยื่นหนังสือ เมื่อ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา ม็อบพลังงานขอนายกฯทบทวนเปิดสัมปทาน-จี้ปลด "ณรงค์ชัย" บรรยากาศบริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล ฝั่งตรงข้ามสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) กลุ่มต่อสู้พลังงานภาคประชาชน นำโดย พ.ท.พญ.กมลพันธ์ ชีวพันธ์ศรี เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ยับยั้งการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 รวมถึงการปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี เอ็นจีวี และราคาน้ำมันดีเซล ขณะเดียวกันขอให้ปลด นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และ นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เนื่องจากไม่ได้ทำงานเพื่อประเทศชาติ ทั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 จำนวน 1 กองร้อย พร้อมนำรถควบคุมผู้ต้องขัง จำนวน 2 คัน และรถติดเครื่องขยายเสียง 1 คัน มาควบคุมสถานการณ์อย่างเข้มงวด ซึ่งยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนสื่อมวลชนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอความร่วมมือให้ติดตามสถานการณ์บริเวณฝั่งสำนักงาน ก.พ.ร.