มติ ป.ป.ช. ยัน สปช. ไม่ต้องยื่นทรัพย์สิน ชี้ ไม่ได้แสวงหาประโยชน์ ใช้ความรู้ปฏิรูปประเทศ ขณะ 7 พ.ย. ถกร่วม อสส. คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ของ 'ยิ่งลักษณ์' รับหลายคดีช้ามีอุปสรรคใหญ่ห่วงโกงทำปท.เสียหาย ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ได้เปิดเผยมติที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการพิจารณา ว่า สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. จะต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือไม่ว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้สมาชิก สปช. ไม่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน เพราะถือว่าเป็นตำแหน่งทางวิชาการ ไม่ได้เข้ามาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ แต่เข้ามาเพื่อใช้ความรู้ ความสามารถในการปฏิรูป เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ ส่วนความคืบหน้าคดีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้น ทาง ป.ป.ช.จะมีการประชุมร่วมกับคณะทำงานร่วมของสำนักงานอัยการสูงสุด อีกครั้งในวันที่ 7 พ.ย.นี้ ซึ่งหากทางอัยการสูงสุด ยังไม่สั่งฟ้อง ทาง ป.ป.ช. จะดำเนินการฟ้องเอง ป.ป.ช. ผลงาน 8 ปี รับร้องเรียน 3.4 หมื่นเรื่อง ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. พร้อมด้วย คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แถลงผลการดำเนินงานของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ครบรอบ 8 ปี ระหว่างวันที่ 6 ต.ค. 2549 - 6 ต.ค. 2557 โดยมีเรื่องร้องเรียนที่อยู่ในความรับผิดชอบทั้งหมด 34,528 เรื่อง สามารถดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 25,012 เรื่อง โดยเป็นเรื่องที่ไม่รับพิจารณา 130 เรื่อง ส่งกลับไปยังพนักงานสอบสวน 31 เรื่อง ส่งให้ผู้บังคับบัญชา หรือพนักงานสอบสวนดำเนินการ 157 เรื่อง อยู่ในอำนาจดำเนินการของ ป.ป.ท. 224 เรื่อง ส่งให้พนักงานสอบสวนตาม พ.ร.บ.เสนอราคาฯ 4 เรื่อง แสวงหาข้อเท็จจริงแล้วไม่รับไว้ดำเนินการไต่สวน 1,471 เรื่อง ไต่สวนแล้วข้อกล่าวหาไม่มีมูล 64 เรื่อง และสามารถชี้มูลความผิดได้ จำนวน 101 เรื่อง ปปช.รับหลายคดีช้ามีอุปสรรคใหญ่ห่วงโกงทำปท.เสียหาย นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้กล่าวถึงการดำเนินการของ ป.ป.ช. ในรอบ 8 ปี ที่ผ่านมา ว่า มีอุปสรรคใน 2 เรื่องใหญ่ ที่จะโดนสังคม และสื่อมวลชนวิพากวิจารณ์มาก คือ ความล่าช้าของการดำเนินคดี ซึ่งต้องยอมรับว่ามีความล่าช้าเกิดขึ้นจริง เนื่องจากบางคดีต้องใช้เวลาในการแสวงหาข้อเท็จจริง แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะหาวิธีการแก้ไข และอีกประการคือเรื่องมาตรฐานและความยุติธรรม ขอย้ำว่า ป.ป.ช. ดำเนินการยึดตามหลักกฎหมาย หลักฐานพยาน และข้อเท็จจริงทุกคดี นอกจากนี้ นายปานเทพ กล่าวอีกว่า ทาง ป.ป.ช. จะให้ความสำคัญในการทำงานร่วมกับทางรัฐบาล ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง