เมื่อประมาณต้นเดือนกันยายนไมโครซอฟท์ได้ออกอัพเดตเวอร์ชัน 1.38 ให้กับ Visual Studio Code มาพร้อมกับการปรับปรุงหลายในหลายๆ ส่วน ความเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจอย่างแรกคือการปรับปรุง diff editor ที่มีไว้ให้ใช้เทียบความเปลี่ยนแปลงระหว่างโค้ดปัจจุบันที่กำลังรอการ commit เข้าระบบจัดการซอร์สโค้ด กับโค้ดเวอร์ชันก่อนหน้า โดยได้เพิ่มเมนูที่จะช่วยให้การย้อนไปกลับไปใช้โค้ดที่ถูกลบออกทำได้ง่ายกว่าเดิม เพียงแค่สลับไปใช้งาน diff editor แบบ inline (ผ่านการตั้งค่าหรือเมนู ... ทางมุมขวาบน > Toggle inline view) จากนั้นชี้เมาส์ไว้บนส่วนของโค้ดที่เคยตัดสินใจลบออก แล้วคลิกที่ไอคอนหลอดไฟด้านหน้าเพื่อเลือก ก็อปปี้โค้ดบริเวณ/บรรทัดที่ต้องการ หรือย้อนคืนการแก้ไข (revert) โค้ดเฉพาะส่วน อย่างที่สองเป็นการปรับปรุงฟีเจอร์ IntelliSense เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับการพัฒนาเว็บ ขณะเขียนโค้ดด้วยภาษา HTML หรือ CSS ด้วยการช่วยแสดงลิงก์เอกสารอ้างอิงบน MDN ทำให้นักพัฒนาสามารถคลิกเข้าไปศึกษาโค้ดได้จาก VS Code โดยตรง ส่วนการปรับปรุงอื่่นๆ ที่ไมโครซอฟท์ยกให้เป็นไฮไลท์ของอัพเดตครั้งนี้มีดังนี้ (หรือเข้าไปชมวิดีโอได้ที่นี่ครับ) ขยายการใช้งานตัวเลือก Preserve Case ไปยังช่องค้นหาคำแบบข้ามไฟล์หรือที่เรียกว่า Search and Replace ปรับปรุงหน้า Settings แบบ GUI ให้ช่วยแจ้ง error เมื่อกรอกตั้งค่าในรูปแบบ array ที่ผิดไปจากค่าที่ VS Code อนุญาต เพิ่มการตั้งค่า editor.cursorSurroundingLines ช่วยให้สามารถปรับแต่งจำนวนบรรทัดที่ต้องการให้ VS Code ช่วยแสดงผลเพิ่มเติม เมื่อเลื่อนเคอร์เซอร์ไปยังบนสุดหรือท้ายสุดของหน้า editor ปรับปรุงให้สามารถใช้ค่าติดลบกับคำสั่ง Go to Line เพื่อสั่งให้ VS Code ช่วยพาไปบรรทัดของโค้ดที่ต้องการโดยนับจากโค้ดบรรทัดล่างสุด (ตัวอย่างเช่นใช้ค่า -1 เพื่อไปยังบรรทัดสุดท้ายของโค้ด) ปรับปรุง Quick Fix ให้ช่วยเติม await เมื่อเขียนโค้ด asynchronous เพิ่มฟีเจอร์ Data Breakpoints ให้ตัวดีบักช่วย break หรือหยุดโปรแกรม เมื่อค่าของตัวแปรที่ติดตามถูกเปลี่ยนไปจากค่าเดิม (หมายเหตุ: ยังคงต้องรอให้ส่วนขยายสำหรับตัวดีบักแต่ละภาษาอัพเดตตาม) ปรับปรุงส่วนขยาย Remote Development ให้รองรับ Alpine Linux ที่มา - Visual Studio Code Topics: Visual Studio CodeDevelopmentMicrosoft