เมอร์เซเดส-เบนซ์ พูดไว้ชัดเจนเมื่อตัดสินใจพัฒนา "เอ แพลตฟอร์ม" ว่า อนาคตของตลาดรถพรีเมียมจะมุ่งไปที่ตลาดคอมแพคท์มากขึ้น โดยประเมินว่ารถกลุ่มนี้จะเพิ่มจาก 6.57 ล้านคันในปี 2555 เป็น 10.62 ล้านคัน ทั่วโลก ดังนั้นจึงต้องเตรียมความพร้อมรองรับ โลกยานยนต์จึงได้เห็นรถใหม่จากค่ายดาวสามแฉกออกสู่ท้องถนนแล้ว 3 รุ่นด้วยกัน จากเป้าหมาย 5 รุ่นย่อย บนแพลตฟอร์มเดียวกัน นอกจากนี้ตัวบนของคอมแพคท์ อย่าง ซี-คลาส ก็เพิ่งได้รับการปรับปรุงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู ก็มีอาวุธรับมือกับการแข่งขันในตลาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนา ซีรีส์ 1 ให้ลงตัวมากขึ้น และยังมีรถในเครืออย่างมินิ เป็นตัวเสริมอีกราย ขณะที่ซีรีส์ 3 ก็ยังสามารถสร้างยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำ ข้ามไปที่เกาะอังกฤษ รถหรูชื่อดังและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่าง จากัวร์ ก็ขยับตัวรับกับทิศทางใหม่นี้เช่นกัน ผู้บริหารจากัวร์พูดในเวทีแถลงข่าวริมน้ำแซน ฝรั่งเศส ก่อนเข้าร่วมงานปารีส มอเตอร์โชว์ ว่าอนาคตรถคอมแพคท์ จะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทำให้จากัวร์ตัดสินใจพัฒนารหัสใหม่ขึ้นมา และเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วสำหรับ "เอ็กซ์อี" ในระดับราคาที่จะทำให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น โดยมันมีค่าตัวเริ่มต้นประมาณ 2.7 หมื่นปอนด์ หรือประมาณ 1.37 ล้านบาท จากัวร์บอกว่า เอ็กซ์อี จะเป็นรถพรีเมียมขนาดกลางของตลาดโลก และเป็น driver's car พูดง่ายๆ ก็คือเจ้าของขับเอง โดยพัฒนาให้ตอบสนองการขับขี่มากที่สุด โดยมีจุดเด่นหลักคือ ตัวถังโมโนค็อคจากอะลูมิเนียมเกรดใหม่ โดยบอกว่าเป็นครั้งแรกของรถในตลาดนี้ ที่ใช้อะลูมิเนียมที่ให้ความแข็งแกร่งระดับสูง คือรุ่น RC 5754 เป็นวัสดุหลักในการผลิต และยังตอบสนองเป้าหมายที่กำหนดว่าก่อนปี 2563 วัสดุที่ผลิตรถจะต้องสามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่ หรือ รีไซเคิลได้อย่างน้อย 75% ส่วนแนวทางการสร้างรถ เน้นทั้งเรื่องของการออกแบบ มีไดนามิคที่ดี โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำสุดในบรรดารถจากัวร์ อยู่ที่ 0.26 คงความคลาสสิกกับระบบขับเคลื่อนล้อหลังเอาไว้ แต่ขณะเดียวกันก็เพิ่มลูกเล่น และเทคโนโลยีเข้าไปตามสมัยนิยมของรถยนต์ในปัจจุบัน เช่น ความสามารถในการใช้งานแอพพลิเคชั่นของสมาร์ทโฟนไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการ ไอโอเอส หรือว่าแอนดรอยด์ เช่น การจัดการประชุมสายผ่านโทรศัพท์ ค้นหาจุดจอดรถบริเวณใกล้เคียง จองโรงแรม ฟังก์ชันจุดกระจายสัญญาณไวไฟ ก็ช่วยให้คนในรถสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยอุปกรณ์ต่างๆได้สะดวก ส่วนที่ช่วยเหลือผู้ขับขี่ เช่น ระบบแสดงผล หรือ HUD ซึ่งปัจจุบันก็ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมอยู่แล้ว แต่จากัวร์บอกว่า เอ็กซ์อีพิเศษตรงที่เป็นเลเซอร์ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของวงการ สิ่งที่ได้มาก็คือ ให้ภาพเล็กลง ไม่รบกวนสายตา แต่ว่าเห็นได้ชัดเจนขึ้นเนื่องจากความสว่างเพิ่มขึ้น 3 ตัว ติดตั้งกล้องที่เรียกว่า สเตอริโอ คาเมร่า ซึ่งจะทำให้การตรวจจับเส้นทางด้านหน้าเป็นแบบ 3 มิติ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย โดยภาพที่ตรวจจับได้ จะส่งไปยังระบบประมวลผลเพื่อเตรียมความพร้อมของระบบการทำงานต่างๆ เช่น เบรก ฉุกเฉินหรือการเตือนการเปลี่ยนเลน และเป็นครั้งแรกของจากัวร์ที่ใช้พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าที่ปรับตั้งให้ใช้พลังงานน้อย และยังคำนวณออกมาด้วยว่า สามารถช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 3% ด้านการขับขี่รถมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด มีโหมดขับขี่ให้เลือก 4 แบบคือ อีโค นอร์มอล วินเทอร์ และไดนามิค และระบบที่เรียกว่า All Surface Progress Control (ASPC) เช่น ทางที่มีหิมะปกคลุม ซึ่งจากัวร์นำเสนอกับสื่อมวลชนให้เห็นถึงความแตกต่างในการไต่เนินทีเต็มไปด้วยหิมะ ถ้าไม่มีระบบนี้ก็มักจะล้อหมุนฟรี และรถไหลลง แต่เอเอสพีวี ช่วยให้รถค่อยๆคลานผ่านอุปสรรคขึ้นไปได้ และเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายคือเป็นรถที่เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่จะต้องตามมา คือผู้บริโภคจะต้องมองเรื่องของค่าใช้จ่ายหลังการซื้อ ซึ่งเรื่องนี้จากัวร์บอกว่าได้วางแผนเรื่องนี้ในหลายๆด้าน เช่น การตรวจเช็คระยะที่ยืดออกไปเป็น 3.4 หมื่น กม. การออกแบบให้สามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนต่างๆที่เสียหายได้ง่าย และเบี้ยประกันภัยต่ำ สำหรับในบ้านเรา บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด ผู้แทนจำหน่าย บอกว่าจะนำ เอ็กซ์อี เข้ามาทำตลาดในปีหน้า ซึ่งก็ช่วยเติมสีสันให้กับตลาดใหญ่รถหรูมากขึ้น และก็น่าจะเป็นโอกาสที่จะช่วยให้จากัวร์ขยับออกจากการเป็นตลาดนิช มาสู่ตลาดแมสได้มากขึ้น ภารกิจฟื้นการผลิตสหราชอาณาจักร ในอดีต อังกฤษถือว่ามีอุตสาหกรรมยานยนต์ขนาดใหญ่ และมีรถที่ผู้คนคุ้นเคยหลายยี่ห้อด้วยกัน แต่ปัจจุบัน การผลิตลดลงเช่นเดียวกับความเป็นเจ้าของ หลังจากถูกต่างชาติเข้าซื้อกิจการ ซึ่งรวมถึงจากัวร์ และแลนด์โรเวอร์ ที่ซื้อโดยทาทาจากอินเดีย ส่วนหลังการซื้อจะมีการบริหารจัดการอย่างไร ขึ้นอยู่กับนโยบายของเจ้าของใหม่ โดยในส่วนของจากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ดูเหมือนว่าทางทาทาจะให้อิสระในการทำงานและพัฒนาตัวสินค้าต่อไป โดยมาเติมความคล่องตัวทางการเงินให้ และสำหรับการเคลื่อนไหวในการพัฒนารถรุ่นใหม่ครั้งนี้ "ราล์ฟ สเปท" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จากัวร์แลนด์โรเวอร์ บอกว่า เอ็กซ์อี และรถใหม่อีก 1 รุ่น คือ แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต จะเป็นหัวใจสำคัญของการฟื้นฟูกำลังการผลิตของสหราชอาณาจักร และในอนาคตบริษัทจะพัฒนารุ่นใหม่ๆที่สามารถดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้การพัฒนา เอ็กซ์อี ก็ทำให้เกิดการลงทุนเพิ่มเติมในโรงงาน 1,500 ล้านปอนด์ และมีการจ้างงานเพิ่มเติม 1,700 ตำแหน่ง และหากย้อนไปในช่วง 5 ปี มีการลงทุนไปแล้วกว่า 1 หมื่นล้านปอนด์และเพิ่มพนักงาน 2 เท่าตัว ด้านการตลาด ช่วง ม.ค.-ส.ค.ที่ผ่านมา จากัวร์ แลนด์โรเวอร์มียอดขายทั่วโลก 3.04 แสนคัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 13% ส่วนปีที่แล้ว ทำได้ 4.25 แสนคัน เพิ่มขึ้น 19%ซึ่งการผลิตส่วนใหญ่เป็นการผลิตเพื่อทำตลาดต่างประเทศ ซึ่งทำให้สัดส่วนรายได้จากการส่งออกอยู่ที่ 85% Tags : จากัวร์ • ยานยนต์ • ตลาดรถยนต์ • คอมแพคท์ • เมอร์เซเดส-เบนซ์