ไฮบริดแพร่หลายขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งในตลาดโลกและตลาดบ้านเรา เนื่องจากมันมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ใช้งานได้ดี ดูแลรักษาง่ายขึ้น และมีให้เลือกที่หลากหลาย ตั้งแต่หลักแสน จนถึงหลายล้านบาท รูปแบบของระบบทำงาน ก็เป็นที่สนุกสนานของบรรดาวิศวกรทั้งหลายที่จะต้องตีโจทย์ว่าการทำงานของแหล่งพลังงาน 2 ชนิดขึ้นไป จะเลือกใช้อะไรกับอะไร และมีส่วนส่งเสริมช่วยเหลือกันได้อย่างไรบ้าง ทำให้มีรูปแบบการทำงานที่หลากหลายอย่างมากในขณะนี้ ในส่วนของฮอนด้า ซึ่งรุ่นล่าสุดคือแอคคอร์ด ไฮบริด' class='anchor-link' target='_blank'>แอคคอร์ด ไฮบริด ที่หมายมั่นปั้นมือว่าจะผลักดันยอดขายให้ได้เหนือกว่าคู่แข่ง ก็มีรูปแบบการทำงานที่แตกต่างไปอีกแบบ โดยไฮบริดของแอคคอร์ดนั้น จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ตัวแรกทำหน้าที่เหมือนกับมอเตอร์ที่เราคุ้นเคยกันมานาน คือ รับพลังงานมาจากแบตเตอรี่ เพื่อขับเคลื่อนล้อ และชาร์จไฟกลับคืนแบตเตอรี่เมื่อผู้ขับเบรก หรือยกคันเร่ง วนไปวนมาอยู่อย่างนี้ ในส่วนของแบตเตอรี่ ก็จะได้พลังงานจากเครื่องยนต์ และการชาร์จกลับของมอเตอร์ไฟฟ้า แต่แอคคอร์ด เสริมมอเตอร์เข้ามาอีก 1 ตัว ตัวนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อน แต่ทำหน้าที่เป็นตัวกำเนิดไฟฟ้า หรือ มอเตอร์ เจนเนอเรเตอร์ โดยรับพลังงานจากเครื่องยนต์ แล้วแปลงเป็นไฟฟ้า ส่งเข้าไปให้แบตเตอรี่ แน่นอนว่าวิธีนี้ทำให้ไฟในแบตเตอรี่มีเติมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการขับเคลื่อนของ แอคคอร์ด จึงมี 3 รูปแบบหลัก คือ 1.มอเตอร์ขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ หรือเรียกว่า โหมด อีวี 2.มอเตอร์ขับเคลื่อน ขณะที่เครื่องยนต์ทำงานเพื่อปั่นมอเตอร์อีกตัวให้ผลิตกระแสไฟฟ้า เรียกว่าโหมดไฮบริด และ 3.เครื่องยนต์ขับเคลื่อนโดยตรง ก็แน่นอนต้องเรียกว่าเป็นโหมดขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ จะเห็นได้ว่าไม่มีช่วงไหนที่การขับเคลื่อนล้อจะทำพร้อมกันเลยระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องยนต์ ซึ่งดูจะแตกต่างจากที่คุ้นเคยอยู่ไม่น้อย แล้วทีนี้ระบบไฮบริดมีประโยชน์อย่างไร ฮอนด้าบอกว่าเป็นการดึงจุดเด่นของมอเตอร์ไฟฟ้าออกมาใช้ นั่นคือมีแรงบิดที่ดี ดังนั้นจะช่วยการเร่งความเร็วต่างๆ ทำได้ทันอกทันใจ โดยที่เครื่องยนต์ทำหน้าที่ป้อนพลังงานไฟฟ้าผ่านมอเตอร์ เจนเนอเรเตอร์ให้ เพราะลำพังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่อาจจะไม่เพียงพอได้ ขณะที่ความเร็วสูง หรือคงที่ ก็ใช้พลังงานจากเครื่องยนต์ไป ซึ่งแน่นอนว่ามันเพียงพอต่อการใช้งานอยู่แล้ว กับเครื่องยนต์ ขนาด 2.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 165 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบ/นาที แล้วที่บอกว่าช่วงเร่งความเร็ว เช่น เร่งแซง ซึ่งมอเตอร์จะทำหน้าที่ขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียวนั้น จะไหวหรือไม่ เมื่อดูสเปคแล้วก็คงหมดข้อสงสัยครับ กับกำลังขนาด 169 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 307 นิวตันเมตร และหากต้องการเร้นกาย ก็สามารถกดปุ่มเลือกโหมดอีวี ซึ่งมันจะทำงานเฉพาะมอเตอร์ขับเคลื่อนเท่านั้น แต่ได้ระยะทางไม่มากนักประมาณ 2-3 กม. กำลังไฟในแบตเตอรี่จะหมด ทำให้เครื่องยนต์ต้องกลับมาทำงานอีกครั้ง และการเปลี่ยนระบบการทำงานไปมา ทำได้ดี นุ่มนวลลื่นไหล ไม่มีจังหวะสะดุดให้รู้สึกครับ และเมื่อขับขี่แล้วก็ต้องยอมรับครับ ความจัดจ้าน การตอบสนองช่วงแซงต่างๆ ทำได้ดีกว่ารุ่นพื้นฐานชัดเจน ช่วยให้ขับสนุกขึ้นมาก ขณะที่ช่วงล่างก็รองรับได้ดี อาจจะไม่ได้ตั้งมาโดยเน้นอารมณ์สปอร์ตมากเป็นพิเศษ แต่ยังเอาใจผู้ที่ชอบความสบายของผู้โดยสาร ทำให้ยังมีความนุ่มอยู่ไม่น้อย แต่ก็ถือว่าใช้ได้แหละครับ ทางคดโค้งก็เอาอยู่แม้ตัวถังจะโยนตัวอยู่บ้างก็ตาม แต่ถ้าหากว่าฮอนด้าจะเทใจให้สปอร์ต ปรับช่วงล่าง น้ำหนักพวงมาลัยให้รองรับเต็มที่ ผมว่าสนุกขึ้นเยอะเลยครับ ส่วนน้ำหนักที่เพิ่มเข้ามาจากแบตเตอรี่ และมอเตอร์ไฟฟ้า ไม่รู้สึกแตกต่างในการควบคุมรถแต่อย่างใด ในส่วนของแบตเตอรี่ แม้ว่าจะต้องการพื้นที่จัดเก็บแต่ว่าไม่ไปเบียดบังพื้นที่จัดเก็บสัมภาระด้านหลัง เพราะว่าฮอนด้าเลือกใช้พื้นที่ล้ออะไหล่แทน และก็ชดเชยให้ด้วยชุดซ่อมยางมาแทน แอคอร์ด ไฮบริด ยังมีตัวช่วยในการขับขี่อีกมากมาย เช่น เรดาร์ตรวจจับด้านหน้าเพื่อเตือนผู้ขับขี่ป้องกันการชน และหากกระชั้นชิดมากก็จะเพิ่มน้ำหนักเบรกเต็มที่ หรือจะเลือกใช้ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ หรือ ครููส คอนโทรล แบบแปรผัน คือเลือกได้ว่าจะให้ห่างจากคันหน้าเท่าไร ระบบนี้ก็ดีครับรถหลายยี่ห้อก็เอามาใช้ เพราะมันจะรักษาระยะห่างไว้ให้ ด้วยการเบรก หรือเร่งให้เอง แต่ระบบนี้อาจจะหลอกได้นะครับ ถ้าใครแซงทางโค้ง เพราะถ้าเรดาร์จับเจอรถที่อยู่ตรงไปด้านหน้า แม้จะอยู่คนละเลนกัน มันก็จะเบรกให้นะครับ ระบบอื่นก็เช่น กล้องตรวจจับจุดบอดด้านซ้าย จะแสดงภาพที่กว้างกว่าการมองจากกระจกพร้อมเส้นขีดบอกระยะ เพื่อให้รู้ว่ารถที่อยู่ด้านหลังทางซ้ายมือ ห่างจากเรามากน้อยแค่ไหน ระบบนี้จะทำงานเมื่อเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวซ้าย เพื่อเลี้ยว หรือเปลี่ยนช่องทาง และแสดงภาพผ่านจอมอเตอร์นิเตอร์ ส่วนการขับขี่กลางคืน เมื่อเปิดไฟเลี้ยว ก็จะมีไฟส่องสว่างไปยังด้านนั้นเพิ่มเติม ช่วยให้เห็นเส้นทางได้ชัดเจน ขณะที่กล้องถอยหลังที่ปรับได้ 3 ระดับ ให้ภาพชัดเจน และเส้นสายบอกระยะชัดเจน ช่วยให้ถอยได้ง่ายขึ้นมาก ผมขับแอคคอร์ด ไฮบริด' class='anchor-link' target='_blank'>แอคคอร์ด ไฮบริดประมาณ 500 กม. ตีว่า 400 กม.อยู่ต่างจังหวัด ซึ่งใช้ความเร็วพอควร และเป็นเส้นทางที่เป็นที่เข้าใจว่าระบบไฮบริดทั่วไป จะไม่แสดงศักยภาพความประหยัดออกมาได้เต็มที่เหมือนกับขับขี่ในเมือง และใช้ความเร็วพอควร ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองที่แสดงผ่านหน้าจออยู่ที่ 16 กม./ชม. แม้จะต่ำกว่าสเปคของโรงงาน แต่ประมวลผลโดยตัวผมเอง เทียบกับลักษณะการขับ เทียบกับรถระบบอื่นๆ ผมถือว่าน่าพอใจครับ Tags : แอคคอร์ด ไฮบริด • ฮอนด้า • ยานยนต์ • ตลาดรถยนต์ • แอคคอร์ด