ดันส่งออก58โตนำ'จีดีพี'

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 19 ตุลาคม 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    "ฉัตรชัย"สรุปเป้าส่งออกจันทร์นี้ ดันส่งออก58โตนำ"จีดีพี" หวังตลาดรัสเซีย-อินเดีย เพิ่มยอดส่งออกต่อเนื่อง

    รมว.พาณิชย์ ระดมทูตพาณิชย์ทั่วโลก 66 แห่งพร้อมภาคเอกชนประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจ พร้อมวางยุทธศาสตร์ส่งออกปีหน้า สรุปตัวเลขส่งออกทางการจันทร์นี้ หวังปี 58 โตกว่า"จีดีพี" ที่ประเมินกัน 4-5% เดินหน้ารุกตลาดใหม่ เพิ่มการค้าชายแดน ขณะที่ทูตพาณิชย์กัดฟันเร่งส่งออกท่ามกลางเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ยอมรับการระบาดเชื้อไวรัสอีโบล่ากระทบหนักตลาดแอฟริกา นักธุรกิจหนีร่วมงานแสดงสินค้าอาหารในแอฟริกาใต้ช่วงเดือน พ.ย.

    พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดการประชุมประเมินสถานการณ์การส่งออกปีนี้และเป้าหมายยุทธศาสตร์การส่งออกปี 2558 ร่วมกับ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยมีผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ 66 แห่งจาก 43 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วม เพื่อระดมความคิดเห็นและรับทราบข้อมูลจากทูตพาณิชย์ รวมถึงจากภาคเอกชน อาทิ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ และสภาหอการค้าไทย เป็นต้น

    ที่ประชุมประเมินเบื้องต้นว่า ขณะนี้เศรษฐกิจในหลายประเทศยังคงมีปัญหา ดังนั้นการผลักดันตัวเลขการส่งออกของไทยจะเน้นการขยายขอบเขตไปยังตลาดใหม่ โดยรักษาตลาดเก่า และการค้าในตลาดกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ประเทศรัสเซีย รวมถึงกลุ่มประเทศอาเซียน โดยจะเน้นการค้าตามแนวชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศให้เติบโตได้ เนื่องจากประเทศไทยมีข้อได้เปรียบด้านยุทธศาสตร์ที่เป็นศูนย์กลางอาเซียน และสินค้าไทยมีความนิยมเป็นที่ต้องการของประเทศเพื่อนบ้าน

    "ฉัตรชัย"ประกาศเป้าส่งออกจันทร์นี้

    พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวภายหลังการประชุมว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถกำหนดเป้าการส่งออกได้ แต่จะเร่งรัดให้การส่งออกไทยเติบโตมากที่สุด แม้การประเมินตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี ในปี 2558 จะเติบโตอยู่ที่ 4-5% แต่ตนมีเป้าหมายอยากจะผลักดันทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเลขการส่งออกปี 2558 โตกว่าจีดีพีของประเทศ

    ดังนั้นแนวทางและยุทธศาสตร์การผลักดันการส่งออกในปี 2558 จะนำไปสรุปร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่ 20 ต.ค.นี้ ก่อนประกาศทิศทางการส่งออกปี 2558 ที่ชัดเจนต่อไป

    อนึ่งช่วงต้นปี 2557 หลายสำนักคาดการณ์การส่งออกของไทยจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 5% แต่เมื่อมีปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัวกว่าคาดการณ์ ได้มีการปรับลดตัวเลขการส่งออกลง โดยเอกชนระบุว่าการส่งออกปีนี้ติดลบ

    "อีโบลา"กระทบหนักตลาดแอฟริกา

    นายจักรินทร์ โกมลศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงพริทอเรีย ประเทศแอฟริกาใต้ กล่าวว่า ผลกระทบจากปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาต่อการค้าระหว่างไทย-แอฟริกา คือ นักธุรกิจไทยมีความกังวลอย่างมาก จนมีการยกเลิกการเดินทางไปติดต่อธุรกิจ ยอมรับว่าการค้าในภาพรวมระหว่างไทยและแอฟริกาทั้งภูมิภาคน่าจะซบเซา ทำให้แนวโน้มการส่งออกไปตลาดนี้ไม่สดใส

    เช่น ผลกระทบการจัดงานแสดงสินค้าอาหารที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกาใต้ ในเดือน พ.ย.นี้ ปกติจะมีนักธุรกิจไทยตอบรับร่วมงาน 8-9 ราย แต่ปีนี้เหลือเพียง 1 ราย

    "ต้องการสื่อสารว่านักธุรกิจที่มีความกังวลกับการระบาดของโรคอีโบลา ทั้งที่ความเป็นจริงประเทศแอฟริกาใต้อยู่ห่างจาก 3 ประเทศที่มีการระบาดของโรคถึง 7,000 กิโลเมตร หรือเทียบระยะห่างก็เหมือนไทยกับญี่ปุ่น จากปัญหาขณะนี้ทำให้มูลค่าส่งออกปีนี้ลดลงจากเดิม 3% เหลือเพียง 1% เท่านั้น อย่างไรก็ตามในส่วนของสินค้าไทยยังมีแนวโน้มที่ดีในแอฟริกาใต้ โดยเฉพาะธุรกิจด้านบริการ ทั้งสปาและอาหาร" นายจักรินทร์ ระบุ

    รับตลาดส่งออกจีนปีนี้โตได้แค่1%

    นางชไมพร เจือเจริญ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่า การส่งออกตลาดจีนภาพรวมปี 2557 คาดว่าจะเติบโต 1% ส่วนปี 2558 คาดว่าจะเติบโต 1.5% สาเหตุที่ตลาดจีนขยายตัวไม่สูงมาก เป็นเพราะนโยบายเศรษฐกิจจีนยังชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจ คาดว่าจีดีพีปีนี้จะขยายตัว 6-7% ส่วนปีหน้าจะขยายตัว 7.5% อย่างไรก็ตาม สินค้าไทยที่ยังมีโอกาสในจีนคือประเภท สปา อาหาร ที่จะยังคงเดินหน้าส่งเสริมกิจกรรมอย่างเข้มข้นต่อไป

    นายธราดล ทองเรือง ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย กล่าวว่า ภาพรวมการส่งออกตลาดเอเชียใต้ปี 2557 คาดว่าจะเติบโต 3% ส่วนปี 2558 ตั้งเป้าจะขยายตัว 5% โดยการส่งออกไปยังอินเดียซึ่งเป็นตลาดสำคัญของภูมิภาคนี้ ปี 2557 คาดว่าจะเติบโต 8% ส่วนปี 2558 เติบโต 10% ที่มองว่าตลาดอินเดียขยายตัวได้ดีเพราะเศรษฐกิจอินเดียพึ่งพาการบริโภคภายในประเทศ ทำให้อินเดียไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

    ทั้งนี้ สินค้าสำคัญ ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ ผลไม้สดแช่แข็งและแห้ง เครื่องปรุงรสอาหาร โดยจะมีกิจกรรมการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า การจัดมุมโปรโมทสินค้าไทยในห้างสรรพสินค้า ขณะที่สินค้าและบริการที่มีศักยภาพ เช่น รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศ และธุรกิจร้านอาหารไทย เป็นต้น

    หวังตลาดยุโรปหนุนส่งออกไทย

    นางสุจิตรา ถนอมทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี กล่าวว่า ภาพรวมการส่งออกตลาดยุโรปปี 2557 เบื้องต้นยังประเมินว่าขยายตัว 5% เช่นเดียวกับปี 2558 เนื่องจากการผลักดันผ่านการหาตลาดใหม่ เช่น เมืองใหม่ๆ ในยุโรปที่ยังไม่มีการนำเข้าสินค้าไทย และการหาสินค้าใหม่ๆ เข้าไปทำตลาด ทำให้เชื่อว่าจะทำให้ทิศทางการส่งออกไปตลาดเยอรมนีมีแนวโน้มดีขึ้น โดยกลุ่มสินค้าสำคัญ ได้แก่ ยานยนต์ อาหาร รวมถึงธุรกิจบริการ เช่น สปา เป็นต้น

    นางกัลยาณี ศิริกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย กล่าวว่า ปี 2557 จะขยายตัว 5% โดย 8 เดือนแรกสามารถผลักดันการส่งออกให้ขยายตัวได้ 3.6% จึงเชื่อว่าทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด ส่วนปี 2558 คาดว่าจะมีอัตราขยายตัวที่ดีขึ้นและเติบโตมากกว่า 5% เนื่องจากไทยสามารถส่งออกสินค้าอาหารไปรัสเซียได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะข้าว ไก่สดและแปรรูป

    ล่าสุดรัสเซียได้ส่งทีมตรวจมาตรฐานสุขอนามัยสินค้าไก่มายังไทย เพื่อเตรียมการนำเข้าจากไทย ในส่วนสินค้าอุตสาหกรรมคาดว่าในช่วงที่รัฐมนตรีการค้ารัสเซียจะเดินทางมาไทย ช่วงวันที่ 9-10 ม.ค.2558 คาดว่าจะมีข้อสรุปที่ดีในการนำเข้ายางพาราจากไทยเพิ่ม

    รายงานข่าวจากที่ประชุมแจ้งว่า ตลาดทวีปอเมริกาเหนือ ปี 2557 จะขยายตัว 2.9% ส่วนปี 2558 จะขยายตัวในทิศทางเดียวกัน เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้น

    ส่งออก8เดือนไทยยังติดลบ

    สำหรับตัวเลขการส่งออกล่าสุดของเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่าติดลบถึง 7.4% ถือเป็นการติดลบมากที่สุดในรอบ 32 เดือน นับจากเดือน ธ.ค.2554 ที่ติดลบถึง 8.15% โดยมูลค่าการส่งออกช่วงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาอยู่ที่ 18,943 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 17,791.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดลบ 14.17% ส่งผลให้มีดุลการค้าเกินดุล 1,146.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

    โดยการส่งออก 8 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ส.ค.) มีมูลค่าการส่งออก 150,543.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดลบ 1.36% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้ามีมูลค่า 150,263.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดลบ 12.69% ส่งผลให้มีดุลการค้าขาดดุลมูลค่า 1,146.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

    สาเหตุที่มูลค่าการส่งออกของเดือน ส.ค.ติดลบ 7.40% เป็นเพราะการส่งออกของกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมลดลง 8.7% เป็นการลดลงของเครื่องใช้ไฟฟ้า 2.6% ยานพาหนะ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ 8.9% ซึ่งหดตัวสูงในตลาดส่งออกสำคัญ คือ อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย รวมถึงตลาดใหม่บางประเทศ

    Tags : พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ • พาณิชย์ • ส่งออก • ทูต • จีดีพี • รัสเซีย • อินเดีย

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้