'พาณิชย์'เผยต่างชาติแห่เจรจาซื้อข้าวไทย

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 12 พฤษภาคม 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    "พาณิชย์"เผยต่างชาติแห่ซื้อข้าวไทยกว่า10ประเทศชี้สต็อกข้าวรัฐส่อไม่พอขาย จับตาราคาขยับขึ้นต่อเนื่องหลังภัยแล้งกระทบผลผลิต

    นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีประเทศต่างๆ ติดต่อเพื่อขอซื้อข้าวไทยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เป็นลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ โดยมีประเทศในเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ที่ได้ติดต่อขอซื้อข้าวไทยรวมประมาณเกือบ 10 ประเทศ ซึ่งหากสามารถเจรจาขายได้ทั้งหมด น่าจะระบายข้าวในสต็อกออกไปได้อีกไม่ต่ำกว่า 4-5 ล้านตัน ทำให้ข้าวในสต็อกเหลืออีกไม่มาก

    ทั้งนี้ การเจรจาขาย มีทั้งขายแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) ขายให้กับโบรกเกอร์ และขายให้กับภาคเอกชน ซึ่งกรมฯ มีหลักในการขาย คือ จะขายในราคาตลาด ให้ส่วนลดตามความเหมาะสม หากซื้อในปริมาณมาก แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการขายในราคาต่ำเพราะจะส่งผลกระทบต่อราคาข้าวในประเทศ ที่ขณะนี้กำลังปรับตัวสูงขึ้น

    "กรมฯ ประเมินว่า แนวโน้มราคาข้าวกำลังปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะผลผลิตส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ไม่ว่าจะเป็นของไทยเอง หรือของคู่แข่ง นั่นหมายความว่า ปีนี้ปริมาณข้าวในตลาดโลกจะลดลง และในส่วนของไทยเอง เหลือข้าวไม่มากแล้ว โดยเฉพาะข้าวของรัฐบาล เพราะหลังจากที่ไม่มีโครงการรับจำนำ ก็ไม่มีข้าวเข้าสู่สต็อกเลย" นายสุรศักดิ์กล่าว

    สำหรับแผนการระบายข้าวสต็อกรัฐบาลให้ได้เดือนละ 8 แสนตันถึง 1 ล้านตัน ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ซึ่งเร็วๆ นี้ กรมฯ จะเปิดประมูลข้าวรายภูมิภาครอบต่อไปที่จังหวัดเชียงราย และนครสวรรค์ รวมถึงการเปิดประมูลข้าว 4.5 แสนตัน ในวันที่ 14 พ.ค.นี้

    ก่อนหน้านี้ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ และปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ได้ระบุไว้ว่าไทยมีสต็อกข้าวคงเหลือตอนสิ้นโครงการรับจำนำประมาณ 19 ล้านตัน เป็นข้าวที่ขายไปแล้ว 6 ล้านตัน คงเหลือข้าวในสต็อกอีก 13 ล้านตัน และในจำนวนนี้เป็นปลายข้าวประมาณ 3.5 ล้านตัน เท่ากับว่าเหลือต้นข้าวเพียง 9.5 ล้านตันเท่านั้น หากขายหมด สต็อกข้าวของรัฐบาลก็แทบจะไม่เหลือ โดยจะมีการกันไว้เป็นสต็อกสำรองส่วนหนึ่ง

    นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ข้าวในตลาดโลกก็ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวมาก เพราะหลายประเทศได้ซื้อข้าวไว้แล้ว ทำให้ไม่มีแรงกดดันที่จะต้องมาซื้ออีก และยังทราบดีว่ารัฐบาลไทยมีสต็อกข้าวเก็บไว้ จำเป็นต้องระบายออกมา เพื่อนำเงินมาจ่ายให้กับชาวนา ซึ่งเป็นแรงกดดันอีกทางของรัฐบาล

    ส่วนการประมูลข้าวสารสต็อกรัฐบาลเป็นการทั่วไป ในวันที่ 14 พ.ค. ปริมาณ 4.5 แสนตัน คาดว่าจะมีเอกชนเข้าร่วมเสนอราคาไม่มาก เนื่องจากขณะนี้ข้าวในตลาดมีปริมาณมาก เพราะผลผลิตข้าวเปลือกนาปรังทยอยออกสู่ตลาด และราคาไม่ได้สูงจนเกินไป โดยราคาข้าวสารขาว 5% อยู่ที่กก.ละ 11-11.30 บาทเท่านั้น คาดว่าเอกชนที่จะเข้าไปร่วมประมูล อาจมีเสนอซื้อข้าวสต็อกรัฐในราคาต่ำกว่าตลาด จึงขึ้นอยู่กับรัฐว่าจะตัดสินใจเรื่องราคาตามที่เอกชนเสนอซื้อหรือไม่

    แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าว กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ว่ามาเลเซียอาจจะไม่ซื้อข้าวจากรัฐบาลไทยปริมาณ 8 แสนตัน ที่อยู่ระหว่างการเจรจา หากไม่ได้ราคาตามที่มาเลเซียเสนอซื้อ เนื่องจากก่อนหน้านี้ มาเลเซียได้มีการนำข้าวจากไทยผ่านโบรกเกอร์ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วจนถึงปัจจุบันปริมาณ 8 แสนตัน ถึง 1 ล้านตัน ในราคาเฉลี่ยตันละ 375 ดอลลาร์สหรัฐ โดยข้าวที่มาเลเซียต้องการเป็นข้าวฤดูกาลใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เสนอซื้อต่ำกว่าราคาตลาด

    "ที่ไทยสามารถขายข้าวให้มาเลเซียได้ เพราะมีบริษัทผู้ส่งออกไทยที่ได้ข้าวสต็อกรัฐบาล ไปเสนอขายในราคาถูกแค่ 375 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ต่ำกว่าราคาตลาดขณะนั้นที่ตันละ 400-420 ดอลลาร์สหรัฐ เอกชนรายนั้นได้ขายข้าวผ่านโบรกเกอร์และขายให้กับมาเลเซียเป็นจำนวนมากแล้ว จึงทำให้การซื้อข้าวรอบนี้ มาเลเซียจึงมีอำนาจต่อรอง เพราะมีข้าวอยู่ในมือจำนวนมาก" แหล่งข่าวกล่าว

    Tags : พาณิชย์ • ข้าวไทย • ต่างชาติ
     

แบ่งปันหน้านี้