นายกรัฐมนตรี ยันไร้ม็อบต่อต้านที่อิตาลี ตปท. เข้าใจสถานการณ์ในไทยมากขึ้น ขณะกล่าวผ่านรายการคืนความสุขฯ ขอหยุดทะเลาะร่วมปฏิรูปประเทศ เข้มโกง ลุยทุ่งยางแดงโมเดลแก้ใต้ มีแผนแก้ปัญหาน้ำแล้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า การเดินทางเข้าร่วมประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 10 ณ นครมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี ไม่มีการเดินทางมาต่อต้านตนเองตามกระแสข่าวที่เกิดขึ้นในโซเชียลมีเดีย โดยการเดินทางปฏิบัติภารกิจยังไม่พบการเคลื่อนไหวประท้วงต่อต้าน ทราบจากการรายงานของสื่อเท่านั้น และไม่ทราบว่าจุดที่มีการประท้วงอยู่ในพื้นที่ใดของประเทศอิตาลี เพราะประเทศอิตาลีมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมบังคับใช้อย่างเคร่งครัด ซึ่งประเทศไทยก็เตรียมที่จะออกกฎหมายในลักษณะดังกล่าวเพื่อให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ดีใจที่มีคนไทยในอิตาลีเดินทางมาให้กำลังใจโดยขอให้รัฐบาลเข้มแข็ง พร้อมกันนี้ขอให้ทุกฝ่ายยุติการเคลื่อนไหวเพื่อให้รัฐบาลเดินหน้าทำงาน จึงขอให้ทุกคนที่เคลื่อนไหวและหลบหนีกลับประเทศมาสู้คดี โดยยืนยันจะให้ความยุติธรรม ดังนั้นหากผู้ที่หลบหนีกลับมาสู้คดีในประเทศ กระทรวงยุติธรรมจะดูแลให้ความเป็นธรรม นายกฯ ขอหยุดทะเลาะ เร่งแก้คอร์รัปชั่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวผ่านรายการคืนความสุข ให้คนในชาติ ที่บันทึกเทปไว้ก่อนเดินทางไปร่วมประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป (อาเซม) ครั้งที่ 10 ที่ประเทศอิตาลี ว่า การที่เข้ามาบริหารประเทศ ประมาณ 5 เดือน ทั้ง ในฐานะ คสช. และมาเป็นรัฐบาลนั้น มุ่งหวังให้ประเทศของเรานั้นมีความเจริญมั่นคงอย่างยั่งยืน จำเป็นต้องใช้อำนาจที่มีอยู่แก้ปัญหาในอดีต พร้อมกับเดินหน้าประเทศไปให้ได้ ขอหยุดทะเลาะกัน และเพื่อให้เกิดประโยชน์ส่วนรวม ก็อยากฝากประเทศชาติไว้กับนักการเมืองในอนาคต มาร่วมกันพัฒนาประเทศต่อไปขอให้นึกถึงประเทศชาติอย่างแท้จริง และไม่ได้ให้ความสำคัญหรือให้คุณค่ากับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของคนที่หนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ แต่อยากจะขอให้กลับมาสู้คดี เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศดีกว่า ทั้งนี้ รัฐบาล และ คสช. ได้พิจารณาปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาที่สำคัญ ๆ ของชาติไว้แล้ว ซึ่งจะต้องดำเนินการโดยรีบด่วนที่สุด ซึ่งเรื่องสำคัญคือต้องแก้การทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้การใช้งบประมาณของชาติไม่มีประสิทธิภาพ มีรั่วไหล อะไรที่ผิดก็ต้องดำเนินการ แต่ไม่ต้องรีบร้อน เพราะถ้าเร็วไปก็ไม่รับกันอีก ฉะนั้นต้องสร้างความเข้มแข็งในด้านกระบวนการยุติธรรมให้ได้ด้วย นายกฯ แจงผลเยือนเมียนมาร์ - มีแผนแก้ปัญหาน้ำแล้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวผ่านรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ที่บันทึกเทปไว้ก่อนเดินทางไปร่วมประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป (อาเซม) ครั้งที่ 10 ที่ประเทศอิตาลี โดยในช่วงแรก เป็นการสรุปผลการเดินทางเยือนเมียนมาร์ ว่าได้เข้าพลหารือกับ นายเต็ง เส่ง ในกรอบความร่วมมือด้านต่าง ๆ เช่น ความมั่นคง ยาเสพติด แรงงาน การค้ามนุษย์ เพื่อร่วมมือกันในการพัฒนาในด้านต่าง ๆ ไปพร้อมกัน กับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน รวมถึงมีการหารือต่อเนื่องเกี่ยวกับโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ที่ต่างฝ่ายต่างมีความเห็นตรงกันว่า มีผลดีต่อทั้ง 2 ชาติ และเตรียมที่จะมีการลงนามในการเปิดสัมปทานระยะแรกอย่างเป็นทางการ ในเดือน พ.ย. นี้ พร้อมกันนี้ ยังได้อธิบายถึงแผนการแก้ปัญหาภัยแล้ง ปี 2557-58 ว่า ครม. ได้มีการมติอนุมัติงบประมาณเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ว สำหรับการเพาะปลูกข้าวนาปรังในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำแม่กลอง จำนวน 398,347 ราย ใน 26 จังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกรวม 11.97 ล้านไร่ ด้วยงบกระตุ้นเศรษฐกิจตามมติ ครม. และงบกลาง รวมทั้งสิ้น 2,401 ล้านบาท โดยมีมาตรการแก้ไขปัญหาประกอบด้วย 1 มาตรการหลัก และ 6 มาตรการเสริม ต่อไป นายกฯ คุยผู้นำอังกฤษ ย้ำดูแลคดี 2 นักท่องเที่ยวเต็มที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าในเวทีการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 10 ณ นครมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี ได้มีโอกาสพบกับผู้นำประเทศอังกฤษ ที่ได้ฝากความห่วงใยเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า ซึ่งตนได้ชี้แจงว่าได้สั่งการเจ้าหน้าที่ดูแลคดีนี้อย่างเต็มที่ มีรองนายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติติดตามดูแลและรับผิดชอบคดีเป็นพิเศษ ซึ่งผู้นำประเทศอังกฤษมีความเข้าใจมากขึ้น ส่วนเรื่องของความรู้สึกเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความคิดที่ต้องใช้เวลาให้สถานการณ์คลี่คลายลง แต่สิ่งสำคัญต้องดูแลและเพิ่มมาตรการเรื่องความปลอดภัย เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีก ขณะเดียวกันในการเดินทางมาประชุมครั้งนี้ได้พบผู้นำประเทศต่าง ๆ ตนได้ให้ความสำคัญเรื่องการท่องเที่ยว และแม้ว่าจะมีข่าวความรุนแรงเหตุการณ์ในประเทศ แต่อยากให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปดูด้วยตนเองว่าไทยกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนช่วยกันอย่าสร้างปัญหาความขัดแย้งให้เกิดขึ้น นายกฯ มั่นใจ หลายชาติเชื่อมั่นอาเซียน ขยายฐานการค้า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในโอกาสเดินทางมาร่วมประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 10 ณ นครมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี โดยได้เสนอแนวคิดต่าง ๆ ด้านเศรษฐกิตความมั่นคง การเมืองและสังคมที่จะเชื่อมโยง 2 ภูมิภาค ครอบคลุมปัญหาภัยพิบัติ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก ซึ่งมีความจำเป็นต้องเตรียมความพร้อม ไม่ใช่เฉพาะอาเซียนและยุโรปเท่านั้น แต่ต้องรับผิดชอบต่อประชาคมโลกในทุกมิติ โดยเฉพาะเรื่องการขาดแคลนอาหารและพลังงานในอนาคต ที่ต้องเตรียมความพร้อมไว้ในการหามาตรการออกมาช่วยเหลือ ในช่วงที่พืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ตนจึงได้เสนอมุมมองและแนวคิดการดูแลภาคการเกษตรของอาเซียน เพื่อให้มีความสำเร็จในการดูแลด้านอาหาร ทำให้ผลผลิตมีราคาสูงขึ้น สำหรับปัญหาความขัดแย้งทั่วโลก พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ไทยพร้อมปฏิบัติตามมติของสหประชาชาติ แต่จะไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร พร้อมสนับสนุนการแก้ไขปัญหาด้วยการเจรจาโดยเฉพาะปัญหาในทะเลจีนใต้ที่ต้องแก้ด้วยสันติวิธี ทั้งนี้ ยังระบุว่า การเดินทางมาร่วมประชุมครั้งนี้ได้หารือทวิภาคีกับผู้นำหลายประเทศโดยเฉพาะอาเซียน ซึ่งทุกประเทศบอกว่าเป็นเวลาที่ดีที่สุดของอาเซียนที่จะขยายฐานการค้าอาเซียนให้เดินหน้าไปได้ ซึ่งประเทศเหล่านี้ยังเชื่อมั่นในความมั่นคงและเสถียรภาพในไทย และเข้าใจปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศไทย และขอให้รัฐบาลไทยไม่ต้องกังวลเพราะวันนี้โลกเข้าใจประเทศไทยมากขึ้นและพร้อมมาลงทุนในไทย แต่ไทยต้องเตรียมความพร้อมรองรับ และได้ยืนยันว่าการดำเนินการใด ๆ ของรัฐบาลต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส รบ. กระตุ้น ศก.เต็มที่ ยกเว้นภาษี หนุนท่องเที่ยว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวผ่านรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ที่บันทึกเทปไว้ก่อนเดินทางไปร่วมประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป (อาเซม) ครั้งที่ 10 ที่ประเทศอิตาลี ว่า ครม. ได้เห็นชอบอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวงตามที่กระทรวงการคลัง เสนอว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร คือมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ เพื่อเป็นการส่งเสริมและฟื้นฟูการท่องเที่ยวโดยให้ความช่วยเหลือ ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ตลอดจนกระตุ้นเศรษฐกิจมีการยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลบางประเภท ส่วนเรื่องของการท่องเที่ยว ต้องมีมาตรการสร้างแรงจูงใจ ขณะเดียวกัน ก็ต้องควบคุมปริมาณนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพด้วย เพื่อให้เกิดความมั่นคงยั่งยืนด้านการท่องเที่ยว และมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวในภาพรวม ต้องการส่งเสริมด้วยมาตรการเชิงรุก สร้างความมั่นใจ อุ่นใจ จัดทำแผนรักษาความปลอดภัย สนับสนุนแหล่งท่องเที่ยว มีแผนเผชิญเหตุของเจ้าหน้าที่ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินภัยธรรมชาติ การติดตั้งระบบ CCTV เพื่อป้องกันป้องปรามแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ตลอดจนมีการจัดระเบียบสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อความเรียบร้อยและสวยงามด้วย นายกฯ หวังใช้ "ทุ่งยางแดงโมเดล" แก้ 3 จ.ใต้ ให้ได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวผ่านรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ที่บันทึกเทปไว้ก่อนเดินทางไปร่วมประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป (อาเซม) ครั้งที่ 10 ที่ประเทศอิตาลี ว่า การแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นปัญหาที่บั่นทอนมานานแล้ว และเป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยวของประเทศ ในขณะที่เป็น คสช. และเร่งรัดในรัฐบาลนี้ วันนี้ต้องมีมาตรการที่เข้มงวดกวดขันในทุกมิติ ทั้งความมั่นคงการพัฒนา การสร้างความเข้าใจ สิ่งสำคัญคือการศึกษา ซึ่งได้มอบหมายให้กับรัฐมนตรีช่วยมหาดไทยและฝ่ายความมั่นคงทุกหน่วยงาน ลงไปขับเคลื่อนให้ได้ในการบูรณาการ ทั้งการพัฒนา และสร้างความมั่นคง สร้างความเข้าใจ ตามยุทธศาสตร์ทั้งหมด นายกฯ ยังกล่าวต่อไปอีกว่า วันนี้ เป็น ผอ.กอ.รมน. เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นสามารถบูรณาการทั้งหมด ทั้งคน แผนงาน งบประมาณทั้งหมดให้ได้ ประสานสอดคล้องกัน ขับเคลื่อนเรื่องทุ่งยางแดงโมเดลให้ได้โดยเร็ว และขยายไปในพื้นที่อื่น ๆ เชื่อว่าความร่วมมือร่วมกันกำลังของทหาร หน่วยทหาร ชาวบ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทั้งหมด บูรณาการกัน ก็จะลดเหตุร้ายลงได้