'ประยุทธ์-อาเบะ'ถกทวิภาคี ร่วมพัฒนาอาเซียน นายกฯโอดยึดอำนาจ ชีวิต-ครอบครัวไม่มีความสุข ยันอยู่ไม่เกินกำหนด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้หารือทวิภาคีกับนายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในโอกาสเดินทางเข้าร่วมประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป หรืออาเซม ครั้งที่ 10 ที่ประเทศอิตาลี โดยพร้อมร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจและสร้างความสัมพันธ์ทุกระดับ นายอาเบะหวังว่าจะมีโอกาสให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีไทยหากเดินทางเยือนญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังกล่าวยกย่องความพยายามในการปฏิรูปของไทย และยกย่องความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรีไทย เนื่องจากเห็นว่าการปฏิรูปเป็นเรื่องท้าทาย และขอให้ปฏิรูปและสร้างความปรองดองให้สำเร็จ เป็นประชาธิปไตยโดยเร็ว และต้องรับฟังเสียงประชาคมโลกไปพร้อมกันด้วย ทั้งนี้ญี่ปุ่นมีความเข้าใจ และไม่มีเจตนากดดันประเทศไทยเรื่องการเมือง นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ยังกล่าวยกย่องความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรีไทยอีกครั้ง ที่พยายามแก้ปัญหาของประเทศได้อย่างรวดเร็ว พร้อมระบุว่า จะส่งผู้เชี่ยวชาญวิจัยและพัฒนา ผ่านช่องทางการทูต และขอให้ใช้เทคโนโลยีเรื่องรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่มีความปลอดภัยสูงของญี่ปุ่นมาไทย พร้อมหวังว่าจะได้รับความร่วมมือด้านความมั่นคง ด้านพลเอกประยุทธ์ กล่าวว่าขณะนี้ไทยกำลังเดินหน้าปฏิรูปประเทศ และหวังให้ทัดเทียมญี่ปุ่น พร้อมขอเป็นส่วนหนึ่งของญี่ปุ่นที่จะเดินหน้าลงทุนในภูมิภาคอาเซียน พลเอกประยุทธ์ กล่าวถึงการเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยของไทยนั้น ไม่ต้องกังวลเพราะขณะนี้ไทยอยู่ในช่วงโรดแมพระยะที่ 2 และพร้อมรับคำแนะนำจากประเทศต่างๆ ขณะเดียวกันไทยจะเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ เร่งการค้าการลงทุน พัฒนาระบบสาธารณูปโภค และที่สำคัญจะเร่งเดินหน้าเรื่องการลงทุนกับญี่ปุ่น ทั้งเรื่องของระบบราง ดาวเทียม การบริหารจัดการน้ำ พร้อมชื่นชมนักลงทุนญี่ปุ่นที่ไม่ทอดทิ้งไทยในช่วงที่ลำบาก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะพิจารณากรณีเดินทางเยือนญี่ปุ่นในเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้รัฐบาลไทยพร้อมรับคำแนะนำจากญี่ปุ่นและเวทีนานาชาติ พร้อมขอให้ญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนด้านเทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนาแปรรูป สินค้าให้มีนวัตกรรม โดยนายกรัฐมนตรีของไทย บอกว่าจะรีบตั้งคณะกรรมการพิจารณาโดยเร็ว ทั้งเรื่องความร่วมมือด้านพลังงาน จะปรับปรุงกระบวนการดำเนินธุรกิจ แบบวันสต็อบเซอร์วิส เพื่อลดขั้นตอน และกำลังปรับบีโอไอให้เหมาะสมเข้ากับแต่ละประเทศ พลเอกประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ได้ไปหารือกับพม่าเรื่องโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย และ ยินดีมากที่ญี่ปุ่นพร้อมลงทุนกับไทย และต้องการให้ญี่ปุ่น มามีบทบาทในโครงการนี้เพราะมีความสำคัญกับอาเซียน และระบุว่ายังพร้อมให้ร่วมมือด้านความมั่นคงและจะเร่งรัดผ่อนปรนเงื่อนไขการนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นด้วย ระบุชีวิตอันตราย-ไม่มีความสุข นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ร่วมประชุมสภาธุรกิจเอเชีย-ยุโรป ที่ประเทศอิตาลี โดยมีนายสุรพิทย์ กีรติบุตร เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโรม เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเมื่อเดินมาถึงวันนี้แล้ว ต้องสู้เดินหน้าต่อไป เพราะถ้าไม่สำเร็จก็ไม่รู้จะอยู่ยังไง ชีวิตผมก็อันตรายเหมือนกัน ครอบครัวก็ไม่มีความสุข วันนี้ถามว่าลูกเมียไปไหนได้บ้าง ไม่ได้กลัวแต่ก็ต้องระวัง ตั้งแต่เข้ามาผมไม่เคยกล่าวโทษให้ร้ายใครแต่ถ้ามาพาดพิงมากก็อดไม่ได้ เพราะรักเกียรติยศศักดิ์ศรี ผมอาจพูดจาไม่ไพเราะมากนัก ก็เป็นธรรมดาที่มีคนรักและไม่รัก "แต่ผมเชื่อว่าคนในประเทศไทยเข้าใจ การเข้ามาเป็นรัฐบาลเพื่อขับเคลื่อนประเทศที่หยุดชะงักให้เดินหน้า จากการปลดล็อก ถ้าไม่ทำอะไรประเทศถอยหลัง ติดขัด จากการก้าวเข้ามาเป็นคสช.(คณะรักษาความสงบแห่งชาติ) ช่วงแรกก็หนักใจ แต่เมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องทำงาน ใครก็อยากทำอะไรให้ประเทศทั้งนั้น แต่ที่ผ่านมาติดกับดักคำว่าประชาธิปไตย" ย้ำไม่นั่งนายกฯเกินกรอบเวลา นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในด้านต่างๆ ขณะนี้ ว่าได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหลายคณะเพื่อเข้าไปศึกษาและต้องมีผลงานให้เห็น ที่สำคัญต้องลดความเหลื่อมล้ำของคนในสังคม โดยเฉพาะเรื่องที่ดินทำกิน และตลอด 5 เดือนที่ผ่านมาได้เร่งแก้ปัญหาเต็มที่ อย่างไรก็ตามหลายประเทศเข้าใจ และยังคงเข้ามาสานต่อด้านการค้าการลงทุน ทำให้สบายใจ ดังนั้นจึงต้องไปส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ๆ และส่งเสริมการค้าการลงทุน ซึ่งคณะกรรมการร่วมรัฐและเอกชน (กรอ.) ต้องร่วมมือกัน เอสเอ็มอีขนาดเล็กกลางใหญ่ต้องเกิดขึ้น และเชื่อมโยงกัน และต้องส่งเสริมการจ้างงานไทย ใช้ของไทย ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้ความช่วยเหลือภาคเอกชน ขณะเดียวกัน ต้องเชื่อมโยงกับประเทศต่างๆ พร้อมวางยุทธศาสตร์การทำงานให้ครอบคลุมทุกด้าน ซึ่งรัฐบาลก็จะเตรียมงบประมาณรองรับการดำเนินการ โดยรัฐบาลเดินหน้าด้วยแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และจะไม่ปล่อยให้มีการทุจริตคอร์รัปชันเกิดขึ้น ขณะเดียวกันจะให้โอกาสทุกฝ่ายในการต่อสู้คดี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปัญหาด้านความมั่นคง จำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ ควบคุมสถานการณ์ ลดความขัดแย้ง และเดินหน้าสู่การปฏิรูปประเทศ ให้สัมฤทธิผลใน 1 ปี หากไม่จบรัฐบาลใหม่ต้องรับไปดำเนินการ ย้ำว่าไม่ต้องการอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเกินกว่ากรอบเวลาที่วางไว้ ต้องปฏิรูปไม่ให้เกิดปฏิวัติอีก "ใครจะรักใคร่ผมไม่ว่า จะเกลียดผม แต่อย่าเกลียดประเทศตัวเอง อย่าเกลียดคนไทย ที่ผมต้องทำเพราะสถานการณ์สุกงอม ไม่ได้ยึดอำนาจรัฐบาล แต่รัฐบาลชั่วคราว ทำงานไม่ได้แล้ว ก็จำเป็น ไม่มีอะไรแก้ได้ ทหารมีหน้าที่ดูแลแผ่นดินรักษาสถาบันชาติพระมหากษัตริย์ ถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่ถูกละเมิด ทหารก็อยู่เฉยๆ รัฐบาลที่แล้วผมพูดกับนายกฯ ไม่รู้กี่ครั้ง ทุกเรื่องเตือนหมดทุกเรื่อง แต่ด้วยวิถีทางการเมือง ก็ช่วยไม่ได้ สิ่งที่ทำวันนี้ทำเพื่อไม่ให้เกิดการปฏิวัติอีกในอนาคต ต้องเอาประเทศชาติเดินหน้าไปให้ได้ ผมพร้อมจะลาออก อยากจะลาออกทุกวัน แต่เห็นประชาชนเดือดร้อนทนไม่ได้ และไม่ได้อยากอยู่เกินแม้แต่วันเดียว ทุกวันนี้ผมสู้รบทุกวัน ในบ้านกลับมาก็ทะเลาะกับเมีย เมียถามว่าทำไมอันนี้ไม่ทำ ผมบอกทำแล้ว บางเรื่องทำไม่ไหวก็หงุดหงิด สรุปว่าผมไม่มีความสุข ทุกคนไม่มีความสุข ผมจึงต้องคืนความสุขให้ประชาชน และได้รับความทุกข์ ไง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งด้วยว่า ข้าวในโครงการรับจำนำข้าว ไม่สามารถขายได้ เนื่องจากจะขาดทุน เพราะถ้าขายข้าวทั้ง 20 ล้านตัน จะขาดทุน 400,000-700,000 ล้านบาท หากปล่อยไปอีก 3 ปี อาจทำให้ประเทศล้มละลายได้ Tags : พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา • ชินโซะ อาเบะ • ญี่ปุ่น • ทวิภาคี • ประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป • ปฏิวัติ • อิตาลี