'จาตุรนต์' ยื่นคำร้องให้ศาลพิจารณาเพิ่มเติม 2 ประเด็น คดีไม่อยู่ในอำนาจศาลทหาร กับ ประกาศ คสช. ขัดแย้ง รธน.ชั่วคราว ปี57 ขณะ ยังไม่รับ-ปฏิเสธ 3 ข้อหา รออัยการโจทก์ยื่นเอกสารคัดค้าน ขอศาล เดินทางไปต่างประเทศ 17-23 ต.ค. นี้ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังสอบคำให้การเพิ่มเติมต่อศาลทหาร ว่า วันนี้ศาลทหารได้นัดสอบคำให้การเพิ่มเติมต่อศาลทหาร โดยได้ขอยื่นคำร้องให้ศาลพิจารณาเพิ่มเติมใน 2 ประเด็น คือ 1. คดีดังกล่าวไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลทหาร เนื่องจากการกระทำของ นายจตุรนต์ ได้เกิดขึ้นก่อนที่จะมีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดังนั้น คดีนี้จึงควรอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลอาญา และประเด็นที่ 2 คือ ประกาศ คสช.ฉบับที่ 37 และฉบับที่ 38 ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2557 มาตรา 4 ที่ว่าด้วยเรื่องสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของประชาชน ที่ได้รับคุ้มครองใน ระบอบประชาธิปไตย และตามพันธกรณีระหว่างประเทศ ซึ่งประเทศไทยก็ได้เป็นภาคีของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ซึ่งถือเป็นกฎหมายระหว่างประเทศตามปฏิญญาสากล ทั้งนี้ การขึ้นพิจารณาในศาลทหารเพียงศาลเดียว ถือว่าไม่เป็นธรรม เนื่องจากศาลทหารจะพิจารณาในรวดเดียวจบ โดยไม่มีการอุทธรณ์หรือฎีกา เหมือนกับศาลอาญา ทั้งนี้ นายจาตุรนต์ กล่าวภายหลังสอบคำให้การเพิ่มเติมต่อศาลทหาร ว่า วันนี้ยังไม่ได้ให้การปฏิเสธหรือยอมรับใน 3 ข้อหา และระหว่างนี้ต้องรออัยการโจทก์ยื่นเอกสารคัดค้าน และรอทีมทนายความยื่นเอกสารเพิ่มเติมตามประเด็นที่แย้งเพิ่มไว้ โดยกำหนดยื่นภายใน 30 วันจากนี้ จากนั้นผู้พิพากษาศาลทหารจะพิจารณาประเด็นดังกล่าว และส่งต่อไปให้ศาลอาญาตีความว่าคดีควรอยู่ในการพิจารณาของศาลหรือไม่ รวมถึงศาลอาญาจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาในประเด็นประกาศ คสช. ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ด้วย โดยเชื่อว่าคดีของตัวเองควรขึ้นศาลยุติธรรม เพราะเป็นพลเรือนและกระทำก่อนประกาศ คสช. มีผลบังคับใช้ นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า ยังได้ยื่นคำร้องขออนุญาตเดินทางไปเมืองเฉินตู ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 17-23 ตุลาคม นี้ ซึ่งศาลทหารก็ได้อนุญาต โดยไม่มีเงื่อนไขใดเป็นพิเศษ แต่ต้องเข้ารายงานตัวต่อศาลทหารภายหลังเดินทางกลับ ในวันที่ 28 ตุลาคม นี้ ส่วนการนัดสอบคำให้การต่อศาล ยังไม่ได้กำหนดวันใหม่ เพราะต้องรอการพิจารณาในประเด็นที่ยื่นเเย้งไปอีกครั้ง แต่หากมีการพิจรณาแล้วว่าอยู่ในเขตอำนาจพิจารณาของศาลใดถึงจะเริ่มให้การต่อศาลนั้น ซึ่งต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน และคาดว่าน่าจะมีการสอบคำให้การอีกครั้งในปีหน้า