'พรเพชร' เผย รอมติ สนช. ถอดถอน 'สมศักดิ์ - นิคม' พร้อมระบุ ได้สำนวน 'ยิ่งลักษณ์' คดีจำนำข้าวแล้ว ไม่นำถกร่วม ขณะที่ 'ทิชา' รายงานตัว สปช. คนที่ 249 แล้ว ยัน ทำเพื่อชาติ ด้าน 'บัญชา' ไม่กดดัน เป็น สปช. เผยมี ประธานในใจแล้ว นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งสำนวนคดีทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาถอดถอนว่า สำนวนดังกล่าวส่งมาถึงแล้ว แต่ตนยังไม่เห็น ซึ่งหลังจากนี้จะมีการพิจารณาดำเนินการภายในกรอบเวลา 30 วัน โดยจะไม่นำสำนวนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รวมถึงสำนวนถอดถอนอดีตสมาชิกวุฒิสภา 39 ราย ในกรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยมิชอบ มาพิจารณาร่วมกับสำนวนของ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร และ นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา ที่ถูกบรรจุเป็นวาระการประชุม สนช. ในวันที่ 17 ต.ค. นี้ นอกจากนี้ นายพรเพชร ยังกล่าวว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ วิป สนช. มีมติว่า สนช. มีอำนาจในการพิจารณาถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งหากมีการอ้างอิงถึงรัฐธรรมนูญ ในเรื่องของประเพณีการปกครอง ทาง สนช. ก็มีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 ที่ระบุขั้นตอนกระบวนการพิจารณาไว้อย่างชัดเจน ดังนั้น ที่ประชุมจึงเห็นตรงกันว่า เรื่องใดก็ตามที่เป็นหน้าที่ของสภาสูงและวุฒิสภามีหน้าที่พิจารณา สนช. ในฐานะที่ทำหน้าที่เสมือนวุฒิสภา ก็จำเป็นจะต้องดำเนินการ รายงานตัวสปช.วันสุดท้าย-"ทิชา"ยันทำเพื่อชาติ บรรยากาศการรับรายงานตัวสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. วันสุดท้าย ล่าสุด นางทิชา ณ นคร สมาชิก สปช. ได้เดินทางมารายงานตัวแล้ว โดย นางทิชา กล่าวถึงการเข้ามาเป็นสมาชิก สปช. ว่า ไม่ได้มาทำงานให้นายกรัฐมนตรี แต่ทำเพื่อประเทศชาติ ซึ่งต้องตระหนักว่าไม่ได้มาจากการเลือกของประชาชน แต่เข้ามาภายใต้สถานการณ์เฉพาะกิจ ดังนั้นจึงต้องเปิดพื้นที่ให้ประชาชนทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ทั้งนี้ มองว่ากรอบเวลา 1 ปี ในการปฏิรูปประเทศ ตามที่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวกำหนดจะไม่เพียงพอ ยอมรับว่าการปฏิรูปประเทศภายใต้สถานการณ์ไม่ปกติ ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย ซึ่งส่วนตัวรู้สึกกังวลกับความคาดหวังจากทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม นางทิชา ถือเป็นสมาชิก สปช. มารายงานตัวตามกำหนดเวลาเป็นคนสุดท้าย เนื่องจาก นายสุทัศน์ เศรษฐ์บุญสร้าง อดีตรองเลขาธิการอาเซียน ติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ จึงแจ้งขอรายงานตัวในวันที่ 20 ตุลาคม 'บัญชา' บอกมีประธาน สปช. ในใจแล้ว นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่าแนวทางการดำเนินงานที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ต้องรอหารือกับสมาชิกด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมก่อน ว่าจะมีแนวคิดในการปรับปรุงให้เกิดความยุติธรรมและเป็นที่ยอมรับของประชาชนได้อย่างไร ขณะที่ส่วนตัว ไม่กดดัน ซึ่ง สปช. ทุกคน เข้ามาทำหน้าที่ด้วยความปรารถนาดี และจะเร่งทำงานให้สัมฤทธิ์ผลตามกรอบระยะเวลา หากมีปัญหา เชื่อว่า ปชช. จะเข้าใจ ทั้งนี้ มีบุคคลที่จะเป็นประธาน และรองฯ ในใจแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ เป็นผู้ใหญ่ และประสานพูดคุยกับสมาชิกได้ สนับสนุน ขณะการเลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรงถือเป็นเรื่องใหญ่ จึงไม่ขอแสดงความเห็น พร้อมกันนี้ นายบัญชา ยังกล่าวอีกว่า ในฐานะที่เป็นทนายความ ต้องการยกระดับอาชีพดังกล่าวให้เกิดการยอมรับมากขึ้น ซึ่งผู้เป็นทนายความ ต้องมีคุณธรรม จริยธรรม และอยากให้เพิ่มโทษทนายความผู้กระทำผิดร้ายแรง กระทำทุจริต อาทิ รับสินบนในการวิ่งคดี โดยการถอนชื่อออกจากใบอนุญาต และประจานสู่สาธารณะเพื่อให้หลาบจำ และไม่ให้เกิดขึ้นอีก