แบงก์ชาติ แจงต่างชาติ มั่นใจเงินสำรองระหว่างประเทศ มีเพียงพอรับมือความผันผวนทุนเคลื่อนย้าย เมื่อวันที่ 10-11 ต.ค.ที่ผ่านมา นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ได้เข้าร่วมประชุมสภาผู้ว่าการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารโลก(เวิลด์แบงก์) ประจำปี 2557 ที่กรุงวอชิงตัว ดีซี โดยผู้ว่าการธปท.ได้พบกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจไทย นายจิรเทพ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า หนึ่งในประเด็นที่ผู้สื่อข่าวต่างประเทศให้ความสนใจ คือ เรื่องเสถียรภาพเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศที่อาจผันผวนในปี 2558 จากอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันในประเทศอุตสาหกรรมหลัก รวมทั้งความเสี่ยงทางการเมืองระหว่างประเทศ(Geopolitical risks) นั้น ปัจจุบันไทยมีเงินสำรองระหว่างประเทศเพียงพอและมีระบบอัตราแลกเปลี่ยนที่ยืดหยุ่นที่ช่วยเป็นด่านแรกในการดูแลความผันผวนนี้ได้ สำหรับเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ล่าสุด ณ วันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา เงินสำรองระหว่างประเทศมีจำนวน 1.61 แสนล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกันยังมีฐานะซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิ 2.43 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังมีคำถามถึงเรื่องความมั่นใจของผู้ประกอบการและผู้บริโภคที่ดีขึ้นว่า เป็นเพียงชั่วคราวหรือไม่ ซึ่งผู้ว่าการธปท. ชี้แจงว่า สถานการณ์การเมืองที่คลี่คลายลงน่าจะทำให้การบริโภคกลับสู่แนวโน้มปกติ อีกทั้งความต้องการใช้จ่ายที่ชะลอไว้ในช่วงก่อนหน้านี้(pent up demand) น่าจะกลับมาเป็นปกติด้วย ส่วนภาคเอกชนจะได้อานิสงส์จากการกระตุ้นการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ตามศักยภาพในปี 2558 นอกจากนี้ รัฐบาลเร่งดำเนินการปฎิรูปรัฐวิสาหกิจ ปรับโครงสร้างพลังงาน รวมทั้งดูแลภาคเกษตรโดยไม่ใช้นโยบายการอุดหนุนราคา ทั้งหมดนี้จะช่วยสนับสนุนความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้ดีขึ้น ในภาพรวมในช่วงปีหน้ายังไม่เป็นห่วงเรื่องความมั่นใจทางธุรกิจ เพราะการปฎิรูปการเมืองเดินตามโรดแมพ 3 ช่วงตามที่ประกาศไว้ สำหรับประเด็นความกังวลเกี่ยวกับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศนั้น ผู้ว่าการธปท. ได้ชี้แจงว่า หากมองจากตัวเลขโครงการที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนและเป็นโครงการที่สำคัญ เช่น อีโคคาร์ การแปรรูปอาหาร และที่เกี่ยวกับการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน(renewable energy) โดยเป็นนักลงทุนจากหลายประเทศไม่ใช่เฉพาะจากญี่ปุ่นเท่านั้น นอกจากนี้ภาพรวมการเคลื่อนย้ายเงินทุนต่างประเทศสุทธิรวมตั้งแต่ต้นปีเป็นบวก นายจิรเทพ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการดูแลเศรษฐกิจปี 2558 ผู้ว่าการธปท.ยืนยันว่า นโยบายการเงินขณะนี้มีความเพียงพอในการช่วยดูแลเศรษฐกิจ และไม่มีแรงกดดันเงินเฟ้อถึงแม้จะมีการปรับราคาพลังงานบ้าง มองไปข้างหน้า ธปท. จะติดตามทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อย่างใกล้ชิด แต่ก็เป็นข้อมุลที่ทุกคนรู้อยู่แล้ว “หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยสอดคล้องกับเศรษฐกิจที่เร่งตัวขึ้น ก็ไม่น่ามีปัญหาเพราะการค้าระหว่างประเทศจะเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนเศรษฐกิจจีนที่อาจชะลอลงบ้างจะถูกชดเชยด้วยการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ เพราะทั้งสองประเทศมีสัดส่วนในตลาดการส่งออกของไทยใกล้เคียงกัน”นายจิรเทพกล่าว ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ได้ประเมินการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีหน้าไว้ที่ 4.8% ส่วนปีนี้ประเมินว่าการเติบโตจะอยู่ที่ 1.5% Tags : ธปท. • ประสาร ไตรรัตน์วรกุล • แบงก์ชาติ • ทุนสำรอง