ค่ายรถมองตลาดปี2558 ฟื้นตัวเล็กน้อยหลังปรับฐานตลาด เคลียร์สต็อก รัฐกำหนดทิศทางเศรษฐกิจ มั่นใจเห็นภาพชัดปลายปี หลังผู้บริโภครู้อนาคตรายได้ โบนัส ชี้ปีนี้แคมเปญแรงไร้ผล เร่งปรับแผนสร้างกิจกรรมเจาะตรงลูกค้า ร่วมมือไฟแนนซ์เพิ่มความยืดหยุ่นเงื่อนไขซื้อขาย ด้านรถบรรทุกขยับราคา เร่งการซื้อ ตลาดรถยนต์ปีนี้ หดตัวอย่างรุนแรง ม.ค.-ส.ค.มียอดขายรวม 579,273 คัน ลดลง 38% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว แต่หลังจากสถานการณ์ต่างๆ ในประเทศดีขึ้น ทั้งการเมือง แนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจ การเข้าสู่ช่วงฤดูกาลขายปลายปี และงาน มหกรรมยานยนต์ ซึ่งคาดว่าจะกระตุ้นได้ส่วนหนึ่ง คาดว่าจะช่วยให้ตัวเลขการถดถอยทั้งปีอยู่ที่ 30% แต่ทำให้ค่ายรถต่างๆพลาดเป้าจำนวนมาก และต้องปรับแผนการตลาด ทำใจรับปี57แคมเปญไม่ช่วย ล่าสุดนายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ผู้นำตลาด ระบุว่าตลาดน่าจะทำได้เพียงแค่ 900,000 คัน ขณะที่การผลิตอยู่ที่ 2,100,000 คัน น้อยกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นปี 2,400,000 คัน เนื่องจากได้รับปัจจัยลบหลายอย่าง และต้องการให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ ในการหามาตรการกระตุ้นตลาด ทั้งนี้ในด้านยอดขายในประเทศ ช่วงต้นปีทุกค่ายตั้งเป้ารวมกัน 1,200,000 คัน แต่ได้มีการปรับลดลงมาเป็นระยะๆ ตามสถานการณ์ยอดขายที่เกิดขึ้น เหลือ 1,100,000 คัน และ 1,000,000 ล้านคัน นายสฤษฎร์พร สกลรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาดและวางแผนผลิตภัณฑ์ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ค่ายรถต่างๆ ได้ทยอยปรับเป้าลงให้สอดคล้องกับตลาดรวม เนื่องจากมีปัจจัยลบเข้ามากระทบหลายเรื่อง ทำให้ผู้บริโภคไม่ให้ความสำคัญกับสินค้ารถยนต์ แม้จะมีแคมเปญส่งเสริมการขายที่รุนแรงตลอดทั้งปีก็ตาม "การที่มีการปรับลดเป้าผลิต เป้าจำหน่าย ก็คงเป็นเพราะมีการประเมินตัวเลขเป็นระยะๆ และหากพูดกันถึงการผลิต 2.1 ล้านคันในปีนี้ แม่ว่าช่วงปลายปีเชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้น แต่ตัวเลขก็คงไม่สามารถปรับขึ้นได้ เพราะวางแผนใหม่กันไปแล้ว ทำให้ขยับตัวได้ยาก" นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า กล่าวว่า ปัญหาใหญ่ของปีนี้คือมีปัจจัยลบตั้งแต่ต้นปี แม้จะพยายามกระตุ้นตลาด แต่จะเห็นได้ว่าแม้จะมีแคมเปญที่รุนแรงในช่วง 6-7 เดือนที่ผ่านมา แต่ยอดจำหน่ายก็ลดลงมาโดยตลอด ดังนั้นเชื่อว่าช่วงเวลาที่เหลือในปีนี้ จะไม่มีแคมเปญที่แตกต่างหรือรุนแรงไปกว่าปัจจุบัน แต่จะรอให้กำลังซื้อฟื้นตัวจึงเริ่มกิจกรรมการตลาดจริงจังอีกครั้ง เชื่อปี58ดีขึ้น แต่ไม่มาก นายวัลลภกล่าวว่า ตลาดรถยนต์จะเริ่มปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้ หลังจากที่ปัจจัยรอบด้านเข้าสู่ภาวะปกติ เศรษฐกิจและความเชื่อมั่นมีแนวโน้มดีขึ้น ขณะที่ปัจจัยภายใน ค่ายรถต่างๆ เริ่มปรับสมดุลสต็อกได้แล้ว รวมกับปัจจัยเบี่ยงเบนอย่างกำลังซื้อเทียม หายไป ทำให้มองเห็นกำลังซื้อที่แท้จริงได้ชัดเจน นอกจากนี้ช่วงปลายปี ผู้บริโภคจะมีกำลังซื้อเพิ่มเติมจากโบนัสปลายปี นอกจากนี้ยังรู้ถึงทิศทางรายได้ในปีหน้าว่าเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อรถและส่งผลดีต่อตลาดที่จะปรับตัวดีขึ้น แต่ไม่มากนัก โดยคาดว่าจะทำได้ประมาณ 900,000-1,000,000 คัน จากปีนี้ที่เชื่อว่าจะทำได้ 880,000 คัน "ปีหน้าปัจจัยลบไม่มี ต่างจากปีนี้ที่มีปัจจัยลบมาตั้งแต่ต้นปี ทำให้ฉุดกำลังซื้อลงไปมาก" ด้านการกระตุ้นตลาด เมื่อกำลังซื้อฟื้นตัว ค่ายรถก็จะจัดกิจกรรมต่างๆ อย่างจริงจังอีกครั้ง แต่จะไม่เน้นรูปแบบแคมเปญแรงเหมือนปีนี้ โดยเน้นกิจกรรมที่เข้าถึงตัวลูกค้า สร้างความสัมพันธ์ หรือสร้างความพึงพอใจในด้านบริการหลังการขายเป็นหลัก เช่น การจัดงานเลี้ยง กิจกรรมด้าน ซีอาร์เอ็ม เป็นต้น "แคมเปญเป็นสิ่งคู่กับตลาดรถ แต่รูปแบบที่รุนแรงจะลดลง โดยขณะนี้ก็เริ่มลดลงแล้ว เพราะนอกจากไม่ได้ผลเท่าที่ควรแล้ว ยังเป็นเพราะหลายค่ายเริ่มเคลียร์สต็อกได้แล้ว หลังจากกำหนดเป้าหมายผิดพลาด ทำให้มีรถล้นสต็อกจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา" ร่วมสถาบันการปรับความยืดหยุ่นแคมเปญ นายสฤษฎร์พรกล่าวว่า รูปแบบการจัดแคมเปญจะต้องมีความยืดหยุ่น สอดคล้องกับผู้บริโภคยุคใหม่ ที่มีความต้องการแตกต่างหลากหลาย เช่น บางครั้งลูกค้าไม่ได้สนใจที่ส่วนลดเท่ากับเงื่อนไขการซื้อรถ เช่น อัตราเงินดาวน์ ดอกเบี้ย หรือ ออพชั่นที่แตกต่างออกไป ซึ่งจุดนี้มีปัจจัยหลักที่เกี่ยวข้องซึ่งผู้ประกอบการต้องทำให้ได้ คือการสร้างความมั่นใจกับพันธมิตรสถาบันการเงิน รวมไปถึงการสร้างความมั่นใจด้านการบริการหลังการขาย ซึ่งเชื่อว่าหากทำได้จะเป็นโอกาสที่ดีเนื่องจากตลาดจะเติบโตขึ้น โดยจะเริ่มเห็นสัญญาณตั้งแต่ช่วง พ.ย.-ธ.ค.และจะชัดขึ้นหลังจากต้นปีหน้า เมื่อทั้งผู้บริโภค และองค์กรธุรกิจมีการกำหนดแผนงานปี 2558 ที่ชัดเจน ทำให้ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมได้ นายประพัฒน์ เชยชม รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายการตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ค่ายรถยนต์มีการปรับตัวมาโดยตลอด ทั้งกลยุทธ์และการจัดการ เนื่องจากคาดเดาภาวะตลาดได้ยาก ส่วนในปีหน้าตลาดน่าจะดีขึ้น แต่รูปแบบการแข่งขันยังคงรุนแรงเหมือนเดิม และเชื่อว่าอาจจะยังไม่เห็นปัจจัยที่จะมาเปลี่ยนแปลงสภาพวะตลาดไปจากเดิมมากนัก นางสาวอาภัสรา ประทีปะเสน ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เยอรมัน มอเตอร์ เวิร์ค จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์ออดี้ กล่าวว่าบริษัทจะให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ต่างๆ ให้มีความสอดคล้องกับตลาด เช่น การนำเสนอผลิตภัณฑ์ครบทุกเซกเมนต์ การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ด้านราคาโดย การกำหนดกลยุทธ์ด้านราคาให้สามารถแข่งขันได้ และทำการจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องในรูปแบบต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้และสร้างภาพลักษณ์ อีกทั้งยังเป็นการสร้าง แบรนด์ ออดี้เพื่อเข้าถึงลูกค้าให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย รถใหม่ดันตลาดปี 58 นอกจากนี้ในปีหน้า ตัวสินค้าจะเข้ามาเป็นปัจจัยหลักในการกระตุ้นตลาดเช่นกัน โดยแหล่งข่าวจากโตโยต้ากล่าวว่าสถานการณ์ที่มีแต่ปัจจัยลบในขณะนี้ ทำให้ค่ายรถต้องมองไปยังปีหน้า โดยกลยุทธ์ของโตโยต้า จะเร่งส่งรถใหม่ ด้วยโคโรลล่า อัลติส ตามมาด้วยรุ่นตกแต่งพิเศษ และไฮลักซ์ วีโก้ใหม่ ฮอนด้า คาดหวังกับรถที่เปิดตัวในปีนี้จะส่งผลต่อเนื่องถึงปีหน้า ไม่ว่าจะเป็น ซิตี้, แจ๊ซ, โมบิลิโอ และคาดว่าปีหน้าจะเสริมตลาดด้วยรถเอสยูวี คนเมือง คือ วีเซล ที่มีกำหนดเปิดตัวไตรมาสสุดท้าย แหล่งข่าวจากมาสด้ากล่าวว่า สินค้าจะมีความสำคัญกับมาสด้ามาก หลังจากที่เทคโนโลยีใหม่ สกายแอคทีฟ ได้รับการยอมรับมากขึ้น ทำให้ขณะนี้ทั้งซีเอ็กซ์-5 และ มาสด้า 3 มียอดค้างส่งมอบ 1-2 เดือน ทำให้เชื่อว่าปีหน้าจะยังคงเป็นรถที่มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นตลาด นอกจากนี้ก็จะเสริมเทคโนโลยีนี้อีก 1 รุ่น คือ มาสด้า 2 ใหม่ "เราเชื่อว่านี่คือการเดินมาถูกทางแล้ว และเทคโนโลยีสกายแอคทีฟจะกลายเป็นสินค้าหลักที่ใช้ทำตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งปี ไม่เน้นการอัดแคมเปญให้กับสินค้ากลุ่มเหล่านี้" แหล่งข่าวระบุว่า นอกจากนี้มาสด้ามีโจทย์สำคัญอีกข้อหนึ่ง คือ การเข้าโครงการ อีโค คาร์ 2 ทันหรือไม่ ถ้ามาสด้า 2 เข้าได้ จะทำให้มีศักยภาพการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น แหล่งข่าวจากมิตซูบิชิระบุว่า ปีหน้าสิ่งที่เป็นความหวังใหญ่คือ รถปิกอัพ ไทรทันใหม่ ที่จะเปิดตัวช่วงปลายปีนี้ ขณะที่เชฟโรเล็ต เตรียมเปลี่ยนโฉมรถยนต์นั่ง เชฟโรเลต ครูซ เพื่อสร้างความสดใหม่ให้กับตลาด รถใหญ่ปรับราคาสอดคล้องตลาด นายสุขสมเกียรติ เสือกลิ่นศักดิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอส.เอส. เค.กรุ๊ป เซลส์แอนด์เซอร์วิส จำกัด ผู้จำหน่ายรถบรรทุกไอวีโก้ กล่าวว่า แม้ปีนี้ตลาดจะหดตัว แต่เชื่อการที่ไทยสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ รวมถึงมีแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุนภาครัฐ จะทำให้มีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปข้างหน้า ทำให้ช่วงปลายปีนี้ตลาดจะเริ่มฟื้นตัวมากขึ้น ส่วนแนวทางกระตุ้นตลาดรถบรรทุกซึ่งลูกค้ามองเรื่องต้นทุนเป็นปัจจัยหลัก ก็คือจะต้องนำเสนอสินค้าที่มีราคาเหมาะสม ไม่เป็นภาระมากเกินไป ซึ่งในส่วนของไอวีโก้ได้กำหนดราคาพิเศษสำหรับจากอิตาลีในระดับเดียวกับรถญี่ปุ่นเป็นเวลา 3 ปี และให้บริการดูแลรักษาฟรี 3 ปี เปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นฟรี 2 ปี นายภูริวัทน์ รักอินทร์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด กล่าวว่า บริษัทจะต้องหาสินค้าที่ตอบสนอง แต่จะไม่ใช้วิธีลดราคา เพราะจะทำให้โครงสร้างเสียหาย แต่จะใช้วิธีปรับรายละเอียดของรถ ลดสิ่งที่ไม่จำเป็น ซึ่งช่วยลดราคาได้มาก เช่น รุ่น 360 แรงม้า ปรับลดอุปกรณ์บางอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องกับทางเทคนิค ทำให้สามารถลดราคาได้ประมาณ 8% Tags : ตลาดรถยนต์ • กระตุ้นเศรษฐกิจ • มหกรรม • วัลลภ ตรีฤกษ์งาม • สฤษฎร์พร สกลรักษ์ • ประพัฒน์ เชยชม • อาภัสรา ประทีปะเสน • แหล่งข่าว • มาสด้า • สุขสมเกียรติ เสือกลิ่นศักดิ์ • ภูริวัทน์ รักอินทร์