โบรกประเมินหุ้นกลุ่มขนส่ง

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 13 ตุลาคม 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    บล.เอเซียพลัส คาด ทางด่วนกรุงเทพ กำไรเด่นสุด พร้อมชู บีทีเอส เด่นกว่า บีเอ็มซีแอล'

    บล.เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) เผยแพร่บทวิเคราะห์หุ้นกลุ่มขนส่งทางบก คาดว่าบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BECL มีแนวโน้มกำไรเติบโตโดดเด่นที่สุดในกลุ่ม

    โดยในไตรมาส 3 ปีนี้ บริษัททางด่วนกรุงเทพจะมีกำไรมากที่สุดในรอบปี จากปัจจัยหลักคือการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม คือ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP ซึ่งสามารถผลิตและจำหน่ายไฟได้สูงสุดในช่วงฤดูฝน โดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 23%

    ขณะที่การดำเนินงานจากธุรกิจหลัก คาดปริมาณผู้ใช้ทางด่วนจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวตามลำดับจากช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ที่ได้รับผลกระทบจากการเมือง โดยปริมาณรถยนต์เดือน ก.ค. และ ส.ค. ที่ผ่านมา เฉลี่ยอยู่ที่วันละ 1.1 ล้านคัน กลับมาทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

    นอกจากนี้จากคาดการณ์ค่าใช้จ่ายในการบริหารและการบำรุงรักษาน้อยที่สุดในรอบปี เพราะเป็นช่วงฤดูฝน ส่วนในไตรมาส 4 จะอ่อนตัวลงเล็กน้อยตามปกติ แต่ทั้งนี้ หากเทียบกำไรปกติจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ทั้งไตรมาส 3 และไตรมาส 4

    ทางด้านบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS แม้ปริมาณผู้โดยสารจะมีแนวโน้มลดลงจากครึ่งปีแรก ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการชุมนุมทางการเมือง แต่จะมีผลกระทบน้อยลง เนื่องจากบริษัทได้ขายสิทธิ์ในการรับรู้รายได้ค่าโดยสาร ให้กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท หรือ BTSGIF ไปแล้วเมื่อเดือน เม.ย. ปี 2556 และคงเหลือสัดส่วนการลงทุนเพียง 1 ใน 3 ของมูลค่ากองทุน

    ในส่วนของธุรกิจโฆษณาจากบริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ซึ่งกลายเป็นธุรกิจหลักของบริษัท เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้ถึง 43% ของรายได้รวม คาดว่าธุรกิจโฆษณาจะกลับมาฟื้นตัวเต็มที่และเติบโตโดดเด่น ทั้งจากไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันของปีก่อน

    เนื่องจากปลายปีเป็นช่วงที่ต้องจัดกิจกรรมการตลาดกระตุ้นยอดขาย ประกอบกับน่าจะมีงบโฆษณาคงค้างมาจากครึ่งปีแรก โดยในเดือน ก.ค. และส.ค. ที่ผ่านมามีแนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับ และน่าจะเป็นการเติบโตจากไตรมาสก่อนหน้า เป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน อย่างไรก็ตามยังทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

    สำหรับบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL คาดว่าจะขาดทุนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในครึ่งปีหลังปีนี้ โดยปัจจัยหลักเกิดจากภาระค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มที่เกิดจากการเตรียมจ่ายส่วนแบ่งรายได้แบบคงที่ แก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)

    จากปัจจุบันที่จ่ายเฉพาะแบบแปรผันตามรายได้ โดย 1% ของรายได้เท่ากับประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยเพิ่มเป็นปีละกว่า 1,000 ล้านบาท และขึ้นสูงสุดถึง 5,000 ล้านบาท ในช่วงท้ายของอายุสัมปทาน ขณะที่ปริมาณผู้โดยสารคาดจะลดลงจากครึ่งปีแรก ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการชุมนุมทางการเมือง

    ทั้งนี้ บล.เอเชียพลัส ยังมองว่าบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) น่าจะมีความสามารถในการทำกำไรได้ดีกว่า บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

    โดยคาดในปีสุดท้ายของสัมปทานคือปี 2572 บีทีเอสจะทำกำไรได้เกือบ 1 หมื่นล้านบาท บนสมมติฐานเดินรถ 4 เส้นทาง และรายได้เพิ่มขึ้นราวปีละ 6% ยกเว้นช่วงปี 2560-2563 ซึ่งรายได้จะเพิ่มขึ้นปีละ 25% ต่อปีเพราะมีการเปิดส่วนต่อขยายหลายเส้น

    ส่วนบีเอ็มซีแอลจะมีกำไรประมาณ 2.8 พันล้านบาท บนสมมติฐานเดินรถ 2 เส้นทาง และรายได้ช่วงปีหลังๆ เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับบีทีเอส ยกเว้นปี 2560-2563 เพิ่มขึ้นราวปีละ 40% โดยกำไรจะแตะระดับ 2 พันล้านบาทตั้งแต่ปี 2561 หลังเปิดบริการสายสีม่วงและน้ำเงินส่วนต่อขยาย

    ทั้งนี้เป็นเพราะต้นทุนการดำเนินงานของบีเอ็มซีแอล มีมากกว่าจากค่าเครื่องปรับอากาศภายในสถานี ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง รวมถึงส่วนแบ่งรายได้ที่ต้องจ่ายให้ภาครัฐ เพราะรถไฟฟ้าใต้ดินมีรัฐบาลเป็นผู้ลงทุนหลัก ต่างจากบีทีเอสซึ่งลงทุนเองทั้งหมด ทำให้กำไรขั้นต้นของทั้งสองบริษัทจะแตกต่างกันไม่ต่ำกว่า 10% และช่วงห่างดังกล่าวจะมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงปีหลังๆ ตามส่วนแบ่งรายได้ที่ต้องจ่ายมากขึ้น

    Tags : บล.เอเชียพลัส • หุ้นกลุ่มขนส่ง • ทางด่วนกรุงเทพ

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้