คาดหุ้นไทยยังผันผวน-แนะชะลอลงทุน

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 12 ตุลาคม 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังแกว่งตัวผันผวน เพื่อรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐรอบใหม่ช่วงปลายเดือนต.ค. แนะชะลอการลงทุน

    นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสำนักวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นไทยส่วนใหญ่จะแกว่งตัวในแดนลบ เพราะได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ที่ปรับลงแรงเกือบ 2% หลังนักลงทุนกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว โดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน

    ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ นักลงทุนยังรอติดตามการดำเนินการผลักดันนโยบายด้านเศรษฐกิจที่รัฐบาลต้องทำงานแข่งกับเวลามากขึ้น ว่าผลการดำเนินงานคืบหน้าไปแค่ไหน มีประสิทธิภาพหรือไม่

    แนวโน้มในสัปดาห์หน้า ประเมินว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังแกว่งตัวผันผวน เพื่อรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รอบใหม่ช่วงปลายเดือน ต.ค. โดยเฉพาะท่าทีส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งคาดว่าเฟดยังไม่น่าจะส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่คาดการณ์ นอกจากนั้นต้องติดตามตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นด้านต่างๆ ที่จะประกาศออกมาทางฝั่งยุโรปด้วย

    ส่วนปัจจัยทางเทคนิค มองว่า หุ้นไทยยังอยู่ในจังหวะของการปรับฐาน โดยการแกว่งตัวลงไม่น่าจะหลุดแนวรับ 1,530 จุด แต่หากหลุด มองไปที่แนวรับ 1,500 จุด ซึ่งเป็นแนวรับที่ดัชนีไม่น่าจะหลุดต่ำไปกว่านี้ แต่หากเกิดการแกว่งตัวขึ้น มองว่าไม่น่าจะไต่ระดับขึ้นทะลุแนวต้าน 1,570 จุดได้

    "เราแนะนำให้ชะลอการลงทุน แม้ว่า ณ ระดับราคาปัจจุบันค่อนข้างน่าสนใจที่จะทยอยสะสมหุ้นได้ แต่ระยะเวลายังไม่เหมาะสม เพราะปัจจัยสำคัญที่ยังรออยู่คือการประชุมเฟดช่วงปลายเดือนนี้ ฉะนั้นจังหวะเวลาที่เหมาะสมควรจะเป็นช่วงครึ่งหลังของเดือนมากกว่าในการทยอยซื้อ ส่วนนักลงทุนที่ถือหุ้นอยู่ อาจจะหาจังหวะขายในช่วงดัชนีไต่ระดับเข้าใกล้แนวต้าน 1,570 จุด เพื่อจะซื้อกลับในช่วงที่อ่อนตัวอีกครั้ง โดยยังคงเป้าหมาย SET (ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย) ปีนี้ที่ 1,650 จุด พร้อมประเมินแนวรับ 1,530-1,535 จุด แนวต้าน 1,570 จุด"

    ด้านบทวิเคราะห์ของ บล.เอเซียพลัส ระบุว่า เมื่อพิจารณาค่า current PEG Ratio หรืออัตราส่วนที่ใช้ประเมินมูลค่าหุ้น (current P/E หารด้วย EPS Growth ปี 2557) ของตลาดหุ้นไทย อยู่ที่ 6.68 เท่า ถือว่าอยู่ในระดับสูงเป็นลำดับต้นๆ เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในภูมิภาค ใกล้เคียงกับตลาดหุ้นมาเลเซียที่ 7.27 เท่า และฟิลิปปินส์ 7.23 เท่า

    อย่างไรก็ตาม ค่า PEG Ratio ในปี 2558 ของตลาดหุ้นไทยน่าจะมีแนวโน้มลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำเพียง 1 เท่า น้อยกว่าตลาดหุ้นมาเลเซีย 1.57 เท่า และฟิลิปปินส์ 1.1 เท่า ซึ่งจากการคำนวณดังกล่าว ทำให้ยังมีความเป็นไปได้ที่ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสที่จะปรับฐานลงต่อ โดยเป้าหมายของการปรับฐานน่าจะมีแนวรับที่บริเวณ 1,503-1,521 จุด แต่เมื่อผ่านจุดของการปรับฐานราคาไปแล้ว ก็เชื่อว่าทิศทางของตลาดหลักทรัพย์ไทยในปี 2558 ก็จะกลับมาสดใสได้อีก

    ช่วงนี้จึงเป็นโอกาสเหมาะสมในการทยอยลดหุ้นเก็งกำไร และไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ แล้วสลับมาทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี อาทิ INTUCH (FV100 บ.), STPI (FV28.46 บ.), PTTEP (FV 195 บ.) และKBANK (FV 260 บ.) เป็นต้น

    Tags : อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล • หุ้นไทย

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้