นายกรัฐมนตรี ขอหยุดวิจารณ์ฆ่าฝรั่ง ให้ ตำรวจทำงาน ปัดห้าม 'ยิ่งลักษณ์' เป็น ปธ.งานบั้งไฟพญานาค จ.หนองคาย เผย เยือนเมียนมาร์ ประสบความสำเร็จ ร่วมมือทุกมิติ จ่อเปิดด่านสิงขร เสริมการค้า ยัน รบ. ลงทุนโปร่งใส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวถึงกรณีที่ สื่อต่างประเทศ อ้างว่าผู้ต้องหาแรงงานต่างด้าวที่ถูกจับกุมในคดีสังหารนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 2 ราย ที่เกาะ เต่า จ.สุราษฎร์ธานี กับคำให้การว่าขอให้หยุดวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้ก่อน และปล่อยให้ทางเจ้าหน้าตำรวจ ที่ได้ทำงานตามกระบวนการและขั้นตอน ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่าคดีนี้เป็นคดีสำคัญคงจะไม่มีใครกล้าจับผิดตัว เนื่องจากจะมีความผิดและผู้ต้องหาคงจะไม่ย้อมถูกบังคับให้มีความผิดมากขนาดนี้ ดังนั้น ขอให้ใจเย็น และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม ได้อธิบายให้ทางเมียนมาร์เข้าใจในเรื่องนี้แล้ว นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธว่า ไม่ได้สั่งการห้าม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานบั้งไฟพญานาค ที่ จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากถือว่าเป็นประชาชนเพียงแต่กรณีที่จะเดินทางไปต่างประเทศที่ต้องมาขออนุญาตก่อน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ผลการเยือนประเทศเมียนมาร์ครั้งนี้ถือว่าเรียบร้อยและประสบความสำเร็จ โดยมีความร่วมมือกันในทุกมิติ ทั้งเรื่องความมั่นคงตามแนวชายแดน แรงงานต่างด้าว เขตแดน ปัญหายาเสพติด โดยมีความเห็นร่วมกันว่า จะไม่ให้เรื่องเขตแดนเป็นอุปสรรคของทั้งสองประเทศ โดยจะมีการเปิดด่านสิงขรเพิ่มเติม ซึ่งจะสร้างรายได้ในเรื่องการค้าเพิ่มมากขึ้น ส่วนทางด้านเศรษฐกิจทางเมียนมาร์ ได้ขอความร่วมมือกวดขันการค้าตามแนวชายแดนในช่องทางปกติ ส่วนเรื่องโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย นั้น เป็นเรื่องของทางเมียนมาร์ ที่จะตัดสินใจในกรณีต่าง ๆ ซึ่งทางไทยก็พร้อมจะสนับสนุน เนื่องจากเป็นผลประโยชน์โดยรวมของอาเซียน ขณะเดียวกัน ยืนยันว่า การลงทุนของรัฐบาลไทย จะดำเนินการอย่างโปร่งใส