บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เล็งเก็บหุ้นวีจีไอ โกลบอล มีเดีย เพิ่มหากราคาเหมาะสม หวังครองสัดส่วนเท่าก่อนการปล่อยหุ้น 10% เพิ่มฟรีโฟลท นายกวิน กาญจนพาสน์ กรรมการ บริษัท บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) กล่าวว่า บริษัทมีแผนเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย (VGI) เพิ่ม จากปัจจุบันที่ถืออยู่ประมาณ 60.3% โดยมีเป้าหมายถือหุ้นในสัดส่วนเท่ากับที่เคยถือก่อนที่จะขายออกมาประมาณ 10% เพื่อเพิ่มฟรีโฟทให้กับหุ้นวีจีไอ โกลบอล มีเดีย เมื่อปลายปี 2556 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การเข้าถือหุ้นบริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย เพิ่มต้องมีราคาที่สมเหตุสมผลด้วย “ตอนนั้นที่ขายหุ้นบิ๊กล็อตออกมาราว 10% เพราะว่าหุ้นวีจีไอไม่มีสภาพคล่องเลย ซื้อขายไม่ได้ บริษัทก็เลยทำรายการบิ๊กล็อต แต่ก็ยังเชื่อว่า ไม่มีเหตุผลที่บริษัทจะขายหุ้นวีจีไอออกมาอีก ตรงกันข้ามจะเก็บเพิ่มด้วยซ้ำ เพราะบริษัทมีจุดเด่นคือไม่มีหนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับภาคธุรกิจในตอนนี้” อนึ่ง เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2556 บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ได้ขายหุ้นบริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย (VGI) สัดส่วน 6.7% ผ่านรายการบนกระดานรายใหญ่ (Big Lot Board) ที่ราคาหุ้นละ 12.30 บาท คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 2.71 พันล้านบาท โดยเป็นการทำในวงจำกัดแบบข้ามคืน (Overnight Placement) ให้แก่นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยราคาขาย ได้ถูกกำหนดโดยผ่านการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (book building) ภายหลังการเข้าทำรายการ บริษัทถือหุ้น VGI ทั้งทางตรงและทางอ้อมในสัดส่วน 55.8% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายทั้งหมดของ VGI จากก่อนหน้านี้ ถือหุ้นในสัดส่วน 62.5% สาเหตุของการขายหุ้น VGI เพื่อเพิ่มการกระจายการถือหุ้นรายย่อย (free float) และสภาพคล่อง (liquidity) ให้แก่หุ้น VGI และขยายฐานผู้ถือหุ้นทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ บริษัทมีความตั้งใจจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และถือหุ้น VGI ในระยะยาวโดยจะรักษาสัดส่วนการถือหุ้นใน VGI ให้คงเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มธุรกิจ สื่อโฆษณาต่อไป นักวิเคราะห์ บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยได้ปรับราคาเป้าหมายบริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย (VGI) ขึ้นเป็น 12.50 บาท จากเดิม 11.00 บาท หลังบริษัทเข้าถือหุ้น 24.43% ในบริษัท มาสเตอร์ แอด ( MACO) ซึ่งเชื่อว่าเป็นกลยุทธ์ที่ดี ด้วยจะทำให้ VGI สามารถกระจายการลงทุนในธุรกิจสื่อได้หลากหลายขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องให้บริษัทขยายฐานกำไรสุทธิ รวมถึงเพิ่มอำนาจต่อรองได้ในระยะยาว ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2558 ลง 10% เป็น 1,300 ล้านบาท และปรับลดกำไรสุทธิปี 2559 ลง 7% เป็น 1,600 ล้านบาท เนื่องจากความขัดแย้งทางการเมืองที่ยืดเยื้อยาวนานกว่าคาด ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโฆษณา โดยเฉพาะโฆษณาบนสื่อในห้างค้าปลีก โดยปรับลดสมมติฐานรายได้ลง 6% สำหรับทั้งสองปี เป็น 3,500 ล้านบาท และ 4,100 ล้านบาท ตามลำดับ และลดคาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) สำหรับทั้งสองปีลง เนื่องจาก GPM ของรายได้จากสื่อบนรถไฟฟ้ามีแนวโน้มลดลงในปี 2558 จากการรับรู้ค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้นของสื่อใหม่ๆ นอกจากนั้น คาดว่า VGI จะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก MACO จำนวน 48 ล้านบาท และ 58 ล้านบาท ในปี 2558 และ 2559 ตามลำดับ Tags : กวิน กาญจนพาสน์ • บีทีเอส • วีจีไอ