"ซีไอเอ็มบี" แนะเอกชนออกสร้างฐานผลิตใน "ซีแอลเอ็มวี" เพื่อกระจายสินค้าไปทั่วโลกภายใต้แบรนด์ไทย นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการสำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ปัจจัยเสี่ยงของไทยจากการเปิดกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) คือ ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากการเริ่มเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุของไทย ยิ่งกดดันต่อการปรับตัวของการอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น ที่ถือเป็นจุดด้อยของไทย ที่ต้องเร่งปรับตัวเช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอ รองเท้า หรือกลุ่มอาหารบางประเภท ที่อาจต้องย้ายไปชายแดนประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้มากขึ้น แต่อีกด้านในการเปิดเออีซีก็ทำให้ภาคเอกชนตื่นตัวในการออกไปขยายธุรกิจมากขึ้น โดยในอีก 3-5 ปีข้างหน้ามีโอกาสที่ผู้ประกอบการอาจจะขยับฐานการผลิตไปพึ่งแรงงานและทรัพยากรของประเทศเพื่อนบ้านได้ด้วย โดยเฉพาะภาคส่งออกไทยที่จะได้ประโยชน์จากการเปิดเออีซี ด้วยการสร้างฐานผลิตในต่างประเทศและส่งสินค้ากลับมาไทย รวมถึงการส่งออกไปในภูมิภาคอื่นๆ ด้วย นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสในการสร้างแบรนด์สินค้าไทย และแบรนด์อาเซียนด้วย ทั้งนี้ กลุ่มประเทศที่น่าสนใจ คือ กลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี อินเดีย อินโดนีเซีย ซึ่งในเอเชียกลุ่มเหล่านี้น่าจะให้ประโยชน์กับไทยได้ สำหรับจุดเด่นของไทยที่จะได้อานิสงส์จากการเปิดเออีซี คือ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมการรักษาพยาบาล ยังเป็นหลักที่ไทยสามารถใช้ประโยชน์จากจุดแข็งนี้ได้ ด้วยการเชื่อมโยงภาคท่องเที่ยว การรักษาพยาบาลได้มากขึ้น โดยใช้ไทยเป็นฐานการลงทุน และฐานในการรับลูกค้าในธุรกิจเหล่านี้ได้ และเชื่อมไปสู่ภูมิภาค "ในแง่ความพร้อมที่จะออกไปตั้งฐานการผลิตในอุตสาหกรรมเหล่านี้ในต่างประเทศนั้น ไม่น่าห่วง เพราะผู้ประกอบการไทยมีความสามารถในการปรับตัวไปอยู่ประเทศอื่น แต่อาจจะต้องปรับปรุงกฎหมายและหลักเกณฑ์ต่างๆ บ้าง แต่ไทยถือว่ามีจุดแข็งและจุดเด่นจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่จะช่วยผลักดันธุรกิจไทยข้ามฟากไปสู่ประเทศอื่นได้ ไม่ว่าการให้ประโยชน์จากภาษี หรือ หลักเกณฑ์อื่นๆ ที่จะช่วยนักลงทุนไทยให้แข็งขันได้ เช่น อาจจะลดภาษีให้กับบริษัทที่ทำอาร์แอนด์บีหรืองานสำรวจและวิจัย เป็นต้น" อย่างไรก็ดี แนวโน้มการส่งออกไทยในระยะต่อไปอาจจะมีปัญหาจากกลุ่มที่พึ่งพาแรงงานสูง และโครงสร้างการผลิตสินค้าไทยที่มีข้อจำกัดทำให้ได้ประโยชน์จากการส่งออกที่เป็นที่ต้องการของสินค้าโลกได้น้อยลง เหล่านี้ถือเป็นโจทย์สำคัญที่ทางการไทยต้องหาทางแก้ไข และสนับสนุน เพื่อช่วยในการปรับตัวของภาคธุรกิจเช่นกัน สำหรับเศรษฐกิจปีหน้าธนาคารยังมองว่าน่าจะเติบโตที่ 4.5% โดยหวังน่าเศรษฐกิจจะได้รับการสนับสนุนของภาคการผลิตที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีขึ้นได้ ส่วนแรงงานแม้จะขาดแคลนตึงตัวขึ้นแต่ก็มีรายได้ที่ดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวในประเทศและการส่งออกด้วย Tags : ซีไอเอ็มบี • อมรเทพ จาวะลา • เออีซี • ฐานการผลิต • แรงงาน