แบงก์ชาติ เผยต่างชาติมั่นใจการปฏิรูปเศรษฐกิจ ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อดึงดูดทุนนอกเข้ามาลงทุน พร้อมประเมินการบริโภค-ลงทุนแนวโน้มดีขึ้น ขณะที่นักลงทุน ยืนยันลงทุนในไทยต่อเนื่อง "ตลาดหลักทรัพย์" รับต่างชาติยังไม่เข้าซื้อระยะสั้น เหตุหุ้นไทยราคาสูง หวังดูดเงินระยะยาว เสนอออกบอนด์ดอลลาร์หนุนการลงทุน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เดินทางไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจของไทยที่นครนิวยอร์กกลางสัปดาห์นี้ โดยได้มีการพบปะแลกเปลี่ยนร่วมกับนักลงทุนต่างประเทศประมาณ 30 คน นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธปท. ได้ยืนยันถึงบทบาทของ ธปท. ในการดูแลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและระบบสถาบันการเงินให้มีความเข้มแข็ง ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญการเติบโตที่ยั่งยืน นายประสาร ยังได้ให้ความมั่นใจแก่นักลงทุนในเรื่องความเพียงพอของเงินสำรองทางการ และความพร้อมในการดูแลการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศที่มีระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวเป็นกลไกหลักช่วยปรับตัวอยู่แล้ว "ประเทศไทยตอนนี้ อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ หลังจากความไม่แน่นอนทางการเมืองลดลง แผนต่างๆของรัฐบาลปรากฏให้เห็น จึงไม่มีเวลาใดที่ดีกว่านี้ สำหรับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ จะเข้าไปไขว่คว้าหาผลประโยชน์จากคลื่นแห่งการเติบโตลูกใหม่"นายประสาร กล่าว สำหรับความท้าทายเกิดขึ้นกับไทยขณะนี้ อยู่ที่การฟื้นฟูประเทศ ให้ขยายตัวได้ตามศักยภาพ หลังจากตลอด 7 ปีที่ผ่านมาไทยมีอัตราการขยายตัวต่ำ และเวลานี้เศรษฐกิจตื่นจากภาวะหดตัวรอบที่ 3 "แต่ทำอย่างไรให้เศรษฐกิจสามารถฟื้นจากการหดตัวกลับมาเติบโตได้ คำตอบส่วนหนึ่งนั้น ขึ้นอยู่กับโครงสร้างพื้นฐานแข็งแกร่ง และแบงก์ชาติ ก็มีบทบาทเป็นส่วนหนึ่งของกันชนคอยปกป้องพื้นฐานเหล่านี้ไว้ จนช่วยเศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็วจากภาวะถดถอยครั้งใหญ่ในปี2552 และจากอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี2554" นายประสาร กล่าว นายประสาร กล่าวด้วยว่า ธปท.มีบทบาทในการสนับสนุนให้ไทยเติบโตได้ต่อเนื่องในระยะยาว โดยการสร้างเสถียรภาพให้เศรษฐกิจของประเทศ เมื่อเสถียรภาพเป็นสิ่งต้องมี เพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตได้ยั่งยืนในระยะยาว และการพัฒนาโครงสร้างการเงิน ให้สามารถไขว่คว้าโอกาสเหล่านั้นไว้ "เราคาดว่าไทยจะขยายตัวราว 4.8%ปีหน้า ถือเป็นอัตราบ่งบอกว่ามีการฟื้นตัวสม่ำเสมอและเมื่อเศรษฐกิจกลับไปสู่ศักยภาพการเติบโตเต็มที่ ความเสี่ยงด้านการเงินกับเงินเฟ้ออาจปรากฏขึ้นมา ซึ่งธปท.จะดูแลให้เกิดเสถียรภาพด้วย" ห่วงปัญหาเงินผันผวน เศรษฐกิจไทยฟื้นตัว หลังภาคเอกชนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น แต่มีความเสี่ยงต้องแก้ไขและจับตาใกล้ชิดในปีหน้า ความเสี่ยงแรก ดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐปรับขึ้นสู่ระดับปกติ หลังเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะกระแสเงินทุนผันผวนในไทย แต่ผลกระทบโดยรวมกับไทยมีจำกัด เพราะตลาดรับข่าวตั้งแต่ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศของไทยยังอยู่ระดับสูง ช่วยให้เศรษฐกิจมีกันชนป้องกันภาวะเงินทุนไหลออกจากไทยได้ และการบริหารอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวช่วยป้องกันความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นได้ นายประสาร กล่าวว่า หนี้ภาคครัวเรือนในประเทศซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 83%ของจีดีพี ถือเป็นความเสี่ยงที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขในระยะยาว ถึงแม้ขณะนี้ยังคงควบคุมไว้ได้ "ในอนาคตข้างหน้า ธปท. ได้หยิบยกเรื่องนี้ เป็นวาระระดับชาติ ให้รัฐบาลประชาสัมพันธ์ความรู้ และวินัยทางการเงิน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะเกิดเสถียรภาพระยะยาว" ระบุปฏิรูปศก.ดึงดูดต่างชาติลงทุน นายจิรเทพ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธปท. กล่าวว่า ช่วงรอยต่อทางเศรษฐกิจและการเมืองขณะนี้ นักลงทุนต่างประเทศและทางการไทยเห็นพ้องกันว่า นโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนภาคธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญมาก ส่วนหนึ่งเห็นว่าประเด็นการปรับตัวทางการเมืองเป็นเรื่องภายในประเทศ แต่ด้วยขนาดของเศรษฐกิจไทย รวมทั้งการเป็นส่วนหนึ่งของอาเซียน ไทยยังเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดเกิดใหม่ ส่วนในระยะปานกลางความคืบหน้าในการปฏิรูปเศรษฐกิจ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การลดความเหลื่อมล้ำในการกระจายรายได้ และนโยบายที่เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของไทยจะเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ "ระหว่างการพบปะหารือ นักลงทุนได้แสดงความสนใจที่จะลงทุนต่อเนื่องในตราสารการเงินไทย ซึ่งทีมไทยชี้แจงว่าจะมีการออกตราสารเพื่อไฟแนนซ์ การลงทุนภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐานเป็นสำคัญ นอกจากนี้ นักลงทุนยังแสดงความสนใจในตราสารภาคเอกชนที่ออกเป็นเงินตราต่างประเทศด้วย" นายจิรเทพกล่าว หวังรัฐออกบอนด์ลงทุนโครงการใหญ่ นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวต่อว่า ผลตอบรับดี มีนักลงทุนสถาบันต่างชาติ โดยเฉพาะผู้จัดการกองทุนขนาดใหญ่ เข้าร่วมรับฟังข้อมูลกันอย่างคึกคัก โดยนักลงทุนคาดหวังรัฐบาลไทยออกตราสารหนี้ภาครัฐในสกุลเงินดอลลาร์ เพื่อใช้ในการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ "การโรดโชว์สหรัฐครั้งนี้ หากคิดมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมของผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ พวกเขารู้จักประเทศไทยดีอยู่แล้ว แต่ต้องการคำยืนยันถึงการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในอนาคตว่าจะออกมาดีหรือไม่ โดยการโรดโชว์ครั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ได้เชิญ นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยร่วมให้ข้อมูล" การให้ข้อมูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวถึงเหตุผลของการเข้ามาบริหารประเทศของรัฐบาลปัจจุบัน และแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น รวมถึงการปฏิรูประบบภาษี ทั้งภาษีมรดก และภาษีที่ดิน ส่วนภาษีมูลค่าเพิ่มนั้นยังอยู่ระหว่างการพิจารณาใน 3 แนวทาง ทั้งการคงอัตราภาษีในระดับเดิม การเพิ่มภาษี 1% หรือเพิ่มภาษีในระดับ 2-3% ตปท.ติดใจบริหารงาน1ปีแก้ศก.ได้หรือ ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติได้ตั้งคำถามว่า รัฐบาลมีแผนจะบริหารประเทศในระยะเวลา 1 ปี จะเพียงพอกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจตามแผนที่วางไว้ทันกำหนด หรือไม่ นอกจากนี้ยังต้องการให้ภาครัฐบาลออกตราสารหนี้เป็นเงินสกุลดอลลาร์ เพราะนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในตราสารหนี้ไทยจำนวนมาก "รมว.คลังได้ตอบข้อซักถามดังกล่าวว่า รัฐบาลมีความตั้งใจมาแก้ปัญหาระบบกฎหมาย เป็นผลดีกับประเทศไทยในระยะยาว และรัฐบาลมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจวางกรอบเวลาทำงานชัดเจน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทุกท่าน มีความตั้งใจทำงาน ทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามเป้าที่วางไว้"นางเกศรา กล่าว ส่วนความต้องการที่จะให้ออกตราสารหนี้ภาครัฐเป็นเงินสกุลดอลลาร์นั้น รัฐบาลได้วางแผนการลงทุนและงานประมาณไว้หมดแล้ว และการดำเนินการก่อสร้างเป็นรูปแบบ พีพีพี ซึ่งเงินทุนในประเทศมีความเพียงพอ แต่อาจเป็นทางเลือกหนึ่งหากจะต้องมีการลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต ระยะสั้นตปท.เมินลงทุนไทยเหตุแพง ขณะที่นักลงทุนต่างชาติ รู้จักตลาดทุนไทยเป็นอย่างดี เพราะปีนี้หุ้นไทยให้ผลตอบแทนติดอันดับ 2 ของโลกระดับ 20% รองจากตลาดหุ้น อินเดีย แต่ต้องยอมรับว่า ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบัน ถ้าเทียบกับปัจจัยพื้นฐานแล้ว หุ้นไทยไม่ได้ราคาถูกเหมือนในอดีต ทำให้ต่างชาติยังรีรอ และไม่น่าเข้าลงทุนตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น แต่รอจังหวะการเข้าซื้อและเลือกซื้อหุ้นเป็นรายตัวมากกว่า แม้ในระยะต่อไปจะมีการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3 ที่จะทยอยประกาศออกมาหลังสิ้นไตรมาส 45 วันกินเวลาไปในกลางเดือนพ.ย. เวลาดังกล่าวนักลงทุนสถาบันส่วนใหญ่ จะไม่ปรับพอร์ตการลงทุน เพราะพวกเขาต้องการรักษาผลตอบแทนทั้งปีของพอร์ตลงทุนไว้ แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงในด้านดีอาจส่งผลให้พวกเข้าสนใจเข้าลงทุนได้ Tags : แบงก์ชาติ • ธปท. • ปฏิรูปเศรษฐกิจ • โครงสร้างพื้นฐาน • บอนด์ • ประสาร ไตรรัตน์วรกุล • ค่าเงินผันผวน • เกศรา มัญชุศรี