Adobe ออกอัพเดต Lightroom CC และ Lightroom Classic ใหม่รอบเดือนพฤษภาคม โดยมาพร้อมระบบสอนการใช้งานในแอปแบบทีละขั้นตอน, เพิ่มฟีเจอร์แชร์อัลบั้ม และเครื่องมือปรับแต่งรูปภาพใหม่ สำหรับระบบสอนการใช้งานของ Lightroom คือจะมีบทเรียนแบบอินเตอร์แอคทีฟกว่า 60 รูปแบบบน iOS และ Android ส่วนบนเดสก์ท็อปจะมี 6 รูปแบบในตอนเริ่มต้น แต่จะมีเมนูที่มีรายละเอียดเพื่อช่วยแนะนำผู้ใช้และอธิบายฟังก์ชันของเครื่องมือ การเพิ่มระบบสอนการใช้งานแบบอินเตอร์แอคทีฟใน Lightroom เลยนั้น จะทำให้ผู้ใช้สะดวกมากขึ้น เพราะไม่ต้องเปิด YouTube เพื่อดูวิดีโอสอนการใช้งานอีกหน้าต่าง ซึ่งอาจจะใช้ Lightroom คนละเวอร์ชันทำให้เมนูอยู่คนละที่ รวมถึงอาจใช้คนละภาษากับผู้ใช้ด้วย ถัดไปเป็นฟีเจอร์ด้านการปรับแต่งรูปภาพ มีหลายอย่าง ดังนี้ Texture บน Lightroom for Mac, Windows, iOS, Android และ ChromeOS, Lightroom Classic และ Camera Raw ระบบควบคุมภาพแบบใหม่ที่จะแยกเฉพาะรายละเอียดระดับกลาง ๆ ให้ดูเด่นหรือสมูทขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ทำให้ผิวเรียบโดยไม่ส่งผลกับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือจะทำให้เปลือกไม้หรือผมเด่นขึ้นมาโดยไม่ทำให้เกิด noise หรือส่งผลต่อโบเก้ในภาพ สามารถใช้ร่วมกับ Clarity และ Dehaze ได้ Defringe บน Lightroom for Mac และ Windows เป็นเมนูภายใต้ส่วน Optics ช่วยลบขอบเขียวขอบม่วงที่เกิดจากการเหลื่อมสีของเลนส์ ซึ่ง Adobe แนะนำให้ติ๊ก Remove Chromatic Aberrations ก่อน จากนั้นถ้ายังมีการเหลื่อมสีอยู่จึงใช้เครื่องมือ eyedropper เลือกพื้นที่และใช้ Defringe Batch Editing บน Lightroom for Android คัดลอกค่าที่ตั้งไว้จากภาพหนึ่งไปแปะในอีกหลาย ๆ ภาพ เพื่อประหยัดเวลาในการทำภาพ Flat-Field Correction บน Lightroom Classic ช่วยจัดการคาแรคเตอร์ของเซนเซอร์และเลนส์ที่ทำให้สีบนภาพเพี้ยน โดยจะต้องมีรูปภาพอ้างอิงไว้สำหรับคาลิเบรต และเครื่องมือนี้จะวิเคราะห์ภาพที่ใช้คาลิเบรตจากนั้นทำการปรับภาพให้ใหม่ และบันทึกเป็นไฟล์ DNG โดยแต่เดิมฟีเจอร์นี้เป็นปลั๊กอินแยก แต่ Lightroom เวอร์ชันนี้รวมเข้ามาในตัวให้เรียบร้อย ส่วนสุดท้ายคือ ระบบแชร์ภาพ โดย Lightroom for Mac, Windows, iOS, Android และ Chrome OS สามารถเชิญให้ผู้อื่นมาเพิ่มรูปภาพลงอัลบั้มได้แล้ว โดยไปที่เมนู Share & Invite ที่มา - Adobe Topics: LightroomAdobe