วีพีโอ และ ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป เตรียมขายไอพีโอเข้ากลุ่มเกษตร หวังนำเงินระดมทุนลดหนี้เงินกู้ นายกฤษดา ชวนะนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ VPO ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ รวมทั้งผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากสิ่งเหลือใช้จากการผลิตน้ำมันปาล์ม กล่าวว่า บริษัทเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หมวดธุรกิจการเกษตร โดยบริษัทได้แต่งตั้ง บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัท เดอะ ควอนท์ กรุ๊ป จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน “ในปี 2558 กำไรสุทธิน่าจะเติบโตประมาณ 30-40% หลังบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการขายไอพีโอในครั้งนี้ไปชำระคืนหนี้เงินกู้ประมาณ 70% ซึ่งจะช่วยให้ดอกเบี้ยลดลงกว่า 20 ล้านบาทต่อปี จากที่เสียดอกเบี้ยอยู่ประมาณ 55 ล้านบาทต่อปี ประกอบกับแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของผลผลิตปาล์มจากพื้นที่ปลูกเก่าและใหม่ ซึ่งจะช่วยเสริมกำลังการผลิตเป็นเกือบ 600,000 ตันต่อปี จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 560,000 ตันต่อปี อีกทั้งกำลังการผลิตในปัจจุบันสามารถรองรับการเติบโตได้อีก 3-5 ปีข้างหน้า โดยที่ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม ส่วนเงินจากไอพีโอที่เหลือประมาณ 30% จะใช้เป็นเงินหมุนเวียนในการปลูกต้นปาล์มใหม่ทดแทนต้นเก่าที่ครบอายุแล้ว” นายกฤษดา กล่าว นายกฤษดา กล่าวต่อว่า หลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จะช่วยเสริมการส่งออกของบริษัทในอนาคตและจะช่วยให้แรงเก็งกำไรในอุตสาหกรรมปาล์มลดลง เนื่องจากปริมาณการซื้อขายจะหมุนเวียนเพิ่มมากขึ้น แต่ในปัจจุบันบริษัทเน้นการขายในประเทศเป็นส่วนใหญ่ เพราะราคาขายในประเทศปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 24,000 บาทต่อตัน ซึ่งมากกว่าราคาในตลาดโลกซึ่งอยู่ที่ประมาณ 21,000 บาทต่อตัน เนื่องจากผลผลิตปาล์มในประเทศลดลงจึงเกิดแรงเก็งกำไรขึ้นมามากขึ้น ในส่วนของโรงไฟฟ้าจากสิ่งเหลือใช้ในกระบวนการผลิตน้ำมันปาล์ม ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 3% ของรายได้รวม มีกำลังการผลิตรวม 8.4 เมกะวัตต์ โดยแบ่งขายให้กับภาครัฐ 7 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลือผลิตไว้ใช้เองในโรงงาน ส่วนครึ่งปีหลังของปี 2557 บริษัทจะเติบโตขึ้นจากครึ่งปีแรกเพียงเล็กน้อย หลังครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้ 1,445.50 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 173.32 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกบริษัทมีอัตรากำไรสุทธิ 11.99% คาดว่าอัตรากำไรสุทธิในปีนี้จะลดลงจากปัจจุบันเล็กน้อย แต่จะดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านๆ มาซึ่งอยู่ที่ประมาณ 5-6% และหลังไอพีโอบริษัทจะมีหนี้สินต่อทุนลดลงเหลือ 0.7 เท่า จาก 1.19 เท่า ในปัจจุบัน นายยุทธ วรฉัตรธาร ประธานคณะกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้นำในการจัดจำหน่าย เปิดเผยว่า บริษัทวิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์ จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 236 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นที่ออกใหม่จำนวนไม่เกิน 140 ล้านหุ้น คิดเป็น 14.90% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และหุ้นที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 96 ล้านหุ้น คิดเป็น 10.21% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 800 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 800 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยจะเข้าทำการซื้อขายได้ภายในเดือน พ.ย. หลังจากจะเดินสายโรดโชว์ในช่วงเดือน ต.ค. นี้ สำหรับเงินที่ได้จากไอพีโอในครั้งนี้ จะนำไปขยายธุรกิจไก่และสุกร เช่น การก่อสร้างฟาร์มไก่พันธุ์และฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อเพิ่มเติม นอกจากนี้ จะลงทุนก่อสร้างฟาร์มสุกรทวดพันธุ์ ฟาร์มสุกรพ่อแม่พันธุ์และโรงเชือดสุกร รวมไปถึงโครงการลงทุนอื่นๆ ในอนาคต ส่วนที่เหลือจะนำไปชำระหนี้เงินกู้เพื่อลดต้นทุนทางการเงินและเป็นเงินทุนหมุนเวียนต่อไป ด้านนายวินัย เตียวสมบูรณ์กิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิตอีก 82,000 ตัว ภายในปี 2559 ปัจจุบันบริษัทมีฟาร์มเพาะพันธุ์เลี้ยงไก่พ่อแม่พันธุ์จำนวน 15 ฟาร์ม กำลังการผลิต 1,644,000 ตัว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขยายอีก 2 ฟาร์ม คาดแล้วเสร็จ 1 ฟาร์มภายในสิ้นปีนี้และอีก 1 ฟาร์มภายในไตรมาส 2 ปี 2558 รวมทั้ง บริษัท ยังมีเครือข่ายเกษตรกรทำสัญญากับบริษัทกว่า 600 ราย รวมกว่า 1,400 ฟาร์ม มีกำลังการผลิตไก่ได้ 2,800,000 ตัว ส่วนธุรกิจสุกรนั้น บริษัทมีฐานการผลิตทั้งในไทยและเวียดนาม โดยบริษัทมีแผนขยายฟาร์มสุกรพ่อแม่พันธุ์ในประเทศอีก 3 ฟาร์ม คาดแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ ส่งผลให้กำลังการผลิตสุกรพ่อแม่พันธุ์เพิ่มเป็น 17,400 ตัว จากปัจจุบันมีกำลังการผลิต 15,050 ตัว นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คอมเซเว่นอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจนำเข้าและค้าส่ง ค้าปลีกสินค้าไอที เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมยื่นไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายหุ้นไอพีโอ ภายในปีนี้ จำนวน 25% ของทุนจดทะเบียนภายหลังจากการเพิ่มทุนจดทะเบียนอีกครั้งหนึ่ง และคาดว่าจะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ในปี 2558 โดยมี บล.เอเชียพลัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้นำการจัดจำหน่าย ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 225 ล้านบาท มีมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นเท่ากับ 100 บาทต่อหุ้น (ราคาพาร์) ซึ่งคาดว่าจะมีการลดราคาพาร์ในช่วงการแปรสภาพเป็นมหาชน และคาดว่าจะขายหุ้นเพิ่มทุนอีกราว 25% ของทุนจดทะเบียน โดยบริษัท ต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 75 ล้านบาท เพื่อให้เข้าเกณฑ์ในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Tags : วิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์ • ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป • ไอพีโอ • ตลาดหุ้น • เกษตร