ประธานตลาดหลักทรัพย์ หวังโรดโชว์สหรัฐสัปดาห์นี้ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นกลับตลาดหุ้นไทย หลังดัชนีไหลลงต่อเนื่อง นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า การปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในรอบนี้ น่าจะเกิดระดับราคาปิดกำไรต่อหุ้น (พี/อี) ที่มากกว่าปกติโดยอยู่ที่ 15-16 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 12 เท่า ทำให้เกิดแรงเทขายลงมา แต่หากพิจารณาตลาดหุ้นในระยะยาว ยังถือว่าไม่น่าห่วง และพอจะมีพื้นฐานรองรับ "ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันถือว่าเกินมูลค่าพื้นฐาน ประกอบกับธนาคารโลกได้ปรับลดการเติบโตเศรษฐกิจไทยปีนี้ และปีหน้าลง จึงเกิดแรงขายขึ้น ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของการซื้อขายหุ้น โดยหลังจากนี้ผมมองว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะผันผวนไปอีกระยะหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะมีการออกมาตรการเพื่อมากระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นและน่าจะส่งผลให้การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในอนาคตมีมากขึ้น ส่งผลต่อการเติบโตของตลาดหุ้นไทย" ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติ ยังให้ความสนใจในตลาดหุ้นไทยแม้ไทยมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทำให้นักลงทุนสถาบันต่างชาติบางกองทุนไม่เชื่อมั่น เกิดการขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยขึ้น แต่หลังจากหลายภาคส่วนออกไปให้ข้อมูลโดยการเดินทางโรดโชว์กับนักลงทุนต่างชาติ เริ่มได้รับเสียงตอบรับที่ดี และหลายกองทุนให้ความสนใจซื้อหุ้นไทย ส่งผลให้นับตั้งแต่เดือนก.ค.จนถึงปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท และจากต้นปีถึงปัจจุบัน นักลงทุนต่างชาติมีสถานขายสุทธิเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งตลาดหลักทรัพย์พยายามประชาสัมพันธ์กับนักลงทุนต่างชาติต่อเนื่อง โดยในสัปดาห์นี้ตลาดหลักทรัพย์จะมีการจัดการโรดโชว์ในสหรัฐ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนด้วย สำหรับความคืบหน้ามาตรการควบคุมหุ้นเก็งกำไรสูงนั้น หลังจากตลาดหลักทรัพย์ได้ให้ข่าวถึงแนวคิดดังกล่าวออกไป ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในตลาดหุ้น ผู้ลงทุนเริ่มระมัดระวังการซื้อขาย ผู้กระทำผิดเริ่มหยุดพฤติกรรม ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี รวมทั้งมาตรการที่มีอยู่ในขณะนี้ยังมีประสิทธิภาพมากพอ ตลาดหลักทรัพย์จึงยังไม่ออกมาตรการใดเพื่อมาป้องกันการเก็งกำไรผิดปกติ นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กล่าวว่า ปัจจุบันกบข.ยังไม่มีการปรับพอร์ตการลงทุนแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง และขึ้นไปแตะระดับ 1,600 จุดแล้วก็ตาม ทั้งนี้ ประเมินว่าระดับดัชนีปัจจุบันที่ประมาณ 1,570 จุด เป็นระดับที่มีพื้นฐานด้านเศรษฐกิจรองรับ ทั้งเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจไทยซึ่งยังสามารถคาดหวังการเติบโตในระยะ 6-12 เดือนต่อจากนี้ได้ ปัจจุบัน สัดส่วนการลงทุนของกบข.อยู่ในพันธบัตรรัฐบาล 60% พันธบัตรต่างประเทศ 4% ตลาดหุ้นไทย 11.5% ตลาดหุ้นต่างประเทศ 14% และอสังหาริมทรัพย์ 5% "สัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยของกบข. มีไม่มาก เพียง 11.5% คิดเป็นมูลค่าการลงทุนประมาณ 50,000 ล้านบาทเท่านั้น และยังคงเน้นการลงทุนในตราสารทุนอยู่ เพื่ออิงกับผลตอบแทนที่เติบโตตามเศรษฐกิจโลก โดยในปีนี้ กบข.เชื่อว่าการเติบโตของจีดีพีไทยจะอยู่ที่ 3.5% ส่วนปี 2558 กบข.มีมุมมองใกล้เคียงกับหลายฝ่ายที่ประเมินการเติบโตของจีดีพีที่ 4.5-5%" เขากล่าวอีกว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหลักทรัพย์มาจากหลายปัจจัย นอกเหนือจากความคาดหวังทางเศรษฐกิจแล้ว ยังมีเรื่องของความเชื่อมั่นของนักลงทุนเข้ามาเกี่ยวข้อง กลุ่มที่ได้รับความสนใจเข้าลงทุนต้องเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี และราคาไม่แพงเกินไป ขณะเดียวกัน ยังเชื่อว่าบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปัจจุบันยังน่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างประเทศอยู่ แม้จะมีการขายสุทธิออกไปบ้างแต่ก็ยังเชื่อว่าภาพรวมจะยังเป็นการซื้อสุทธิอยู่ ด้านนางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวในทิศทางเดียวกันว่า ภาพตลาดหุ้นไทยในปัจจุบัน แม้จะมีการปรับตัวลดลงมาบ้างจากปัญหาเศรษฐกิจต่างประเทศ แต่เชื่อว่านักลงทุนต่างประเทศยังเชื่อมั่นและสนใจลงทุนในตลาดหุ้นไทยอยู่ เห็นได้จากการซื้อสุทธิต่อเนื่อง ไม่มีความกังวลมากนัก และมองว่าการปรับตัวลดลงของดัชนีรอบนี้จะเป็นภาพระยะสั้น ขณะที่ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ปิดตลาดที่ระดับ 1,539.39 จุด ลดลง 3.74 จุด คิดเป็น 0.24% มูลค่าการซื้อขายรวม 4.81 หมื่นล้านบาท Tags : สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ • ตลาดหลักทรัพย์ • โรดโชว์ • ความเชื่อมั่น • ตลาดหุ้น