'ธ.โลก'หั่นจีดีพีไทยลดลงต่ำสุดอาเซียน

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 7 ตุลาคม 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    "ธ.โลก"หั่นจีดีพีไทยลดลงต่ำสุดอาเซียน ผลจากการบริโภคการลงทุนฟื้นตัวช้า การส่งออกต่ำคาด

    ธนาคารโลกปรับลดจีดีพีไทยปีนี้เหลือ 1.5% จากเดิมให้3% เป็นระดับต่ำสุดในอาเซียน ผลจากการบริโภคการลงทุนฟื้นตัวช้า การส่งออกได้รับผลกระทบเศรษฐกิจโลกไม่ขยายตัวเร็วอย่างที่คาดหวัง ส่วนปีหน้าหวังการท่องเที่ยวกับลงทุนภาครัฐหนุนจีดีพีขยายตัวได้ 3.5% จากเดิมให้ไว้ 4,5%

    หลังจากช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) และฟิทช์ เรทติ้ง ได้ปรับลดจีดีพีไทยปีนี้ลงเหลือประมาณ1.2% ล่าสุดวานนี้(6ต.ค.) ธนาคารโลก หรือ เวิลด์แบงก์ ได้ปรับลดจีดีพีไทยปีนี้ลงเหลือ 1.5% เช่นกัน

    นายอูลริค ซาเกา ผู้อำนวยการธนาคารโลก ประจำประเทศไทย กล่าวหลังการแถลงรายงานอัพเดท “แนวโน้มเศรษฐกิจเอเชียตะวันออก แปซิฟิก”ว่าธนาคารโลกได้ปรับลดจีดีพีของไทยปีนี้ลงเหลือ 1.5% จากระดับเคยคาดไว้ในเดือนมิ.ย.ปีนี้ที่ระดับ3% และปีหน้าเหลือ 3.5%จากเดิมให้ 4.5% เนื่องจากภาพรวมการบริโภคกับการลงทุนฟื้นตัวช้า และขยายตัวช้าอย่างต่อเนื่อง

    ในเอกสารของธนาคารโลกให้ไทยปีนี้โต 1.5% ต่ำสุดเทียบกับประเทศเศรษฐกิจใหญ่อื่นในอาเซียน เช่น อินโดนีเซียคาดว่าโต 5.2% มาเลเซีย 5.7% และฟิลิปปินส์ 6.4% ขณะที่เวียดนามขยายตัว5.4% กัมพูชา 7.2% ลาวโต 7.5% และพม่า 8.5%

    ทั้งนี้นายซาเกากล่าวว่าการบริโภคเอกชนที่เป็นส่วนประกอบใหญ่ของจีดีพีโตลดลงครึ่งแรกปีนี้ และครึ่งหลังปีนี้โตได้แค่2% ทำให้การบริโภคทั้งปีโตไม่มากที่ 0.3% ที่ผ่านมาไทยเผชิญแต่ความไม่แน่นอน ผู้บริโภคต้องปรับตัวเรื่องการใช้จ่าย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญทำให้จีดีพีโตช้า ขณะที่การส่งออกในอดีตเคยเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ แต่ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาส่งออกก็กลับโตช้าลง ซึ่งธนาคารโลกคาดว่าครึ่งหลังปีนี้ส่งออกของไทยโตได้แค่1.2% ทำให้ภาพรวมส่งออกปีนี้จะโตแค่0.8% ส่วนปีหน้าน่าจะโต5.2%

    สอดคล้องกับนางสาวกิริฎา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของธนาคารโลก ประจำประเทศไทย ที่ว่าการปรับลดจีดีพีปีนี้ เป็นการลดจากระดับ 3%เคยให้ไว้ในเดือนมิ.ย. เพราะการบริโภคกับการลงทุนครึ่งหลังปีนี้ไม่ฟื้นตัวเร็วอย่างที่คาดไว้ โดยการส่งออกครึ่งหลังปีนี้ก็ไม่ได้ฟื้นตัวเร็วอย่างที่คาดไว้ เพราะเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวก็จริงแต่ไม่ได้ขยายตัวเร็วอย่างหวังไว้เช่นกัน ซึ่งตอนนี้สหรัฐฟื้นตัวได้ดีที่สุด ขณะที่ยุโรปกับญี่ปุ่นยังค่อยๆฟื้นตัว ทำให้เศรษฐกิจพัฒนาแล้วส่วนใหญ่จะโตช้ามีเพียงสหรัฐโตได้เร็วกว่าเพื่อน เศรษฐกิจโลกตอนนี้เลยฟื้นตัวแบบช้าๆอย่างค่อยเป็นค่อยไป

    อย่างไรก็ตามนางสาวกิริฎาตั้งข้อสังเกตว่า หากมีเม็ดเงินที่ได้จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เพิ่งประกาศออกมานั้น และธนาคารโลกยังไม่ได้นำมาคำนวณไว้ในการปรับลดจีดีพีไทยครั้งล่าสุดนี้ เชื่อว่าเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาจะช่วยให้จีดีพีปีนี้เพิ่มขึ้นได้ 0.7%-0.8% ของจีดีพี

    นางสาวกิริฎาคาดด้วยว่าปีหน้าจีดีพีไทยโต 3.5% ลดลงจากระดับ 4.5%ให้ไว้ในเดือนเม.ย.ปีนี้นั้น การขยายตัวที่3.5% น่าจะได้จากการมาตรการกระตุ้นการลงทุนของภาครัฐ และการท่องเที่ยวน่าจะขยายตัวได้มากขึ้นเพราะการเมืองมีความมั่นคง ทำให้ท่องเที่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจน่าจะช่วยจีดีพีโตได้3.5% โดยภาคบริการอย่างท่องเที่ยวโตได้ 10%-11% อาจไม่กลับไปโต20%อย่างในปี2555-2556 แต่การโตที่ระดับ10%ถือว่าค่อนข้างดี เมื่อเทียบตัวอื่นในจีดีพีน่าจะช่วยดึงจีดีพีเพิ่มขึ้นได้

    ส่วนการลงทุนภาครัฐนั้นปีนี้อาจติดลบ2% ซึ่งตามปีปกติรัฐมีการเบิกจ่ายอยู่ที่ 75%-80% แต่หากผลักดันการลงทุนภาครัฐ และให้มีการเบิกจ่ายได้มากกว่า80% จะช่วยให้ตัวเลขลงทุนภาครัฐมากกว่าที่ประมาณการได้ โดยปีหน้าธนาคารโลกคาดว่าการลงทุนภาครัฐจะขยายตัว 10%

    เธอให้ความเห็นว่าการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ อย่างเงินให้ชาวนา 4 หมื่นล้านบาท และการใช้จ่ายของรัฐประมาณ 1.4%ของจีดีพี เป็นเงินใหม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นให้ขยายตัวได้ ส่วนปีหน้าคาดว่าการบริโภคในประเทศ ทั้งการบริโภคภาคเอกชนและภาคครัวเรือนคงขยายตัวไม่สูง เพราะผู้บริโภคยังไม่มั่นใจรายได้ที่มียังไม่แน่นอนว่าจะเป็นอย่างไร ภาคครัวเรือนยังมีหนี้ระดับสูงกว่า80%ของจีดีพี ทำให้การบริโภคเพิ่มขึ้นไม่มาก

    ส่วนการลงทุนภาคเอกชน เธอกล่าวว่าจะเพิ่มไม่มากนักแต่จะฟื้นจากติดลบปีนี้เป็นบวกปีหน้า ทั้งการบริโภคกับส่งออกโตช้า ขณะที่การใช้กำลังการผลิตของภาคเอกชนตอนนี้มีแค่ 60% เมื่อบริโภคกับส่งออกเพิ่มไม่มากก็ทำให้ภาคเอกชนยังไม่คิดลงทุนผลิตเต็ม100% ตรงนี้อาจใช้เวลากว่าภาคเอกชนจะคิดลงทุนอีก

    Tags : ธนาคารโลก • จีดีพีไทย • ธนาคารพัฒนาเอเชีย • เวิลด์แบงก์

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้