นักวิเคราะห์มองกลุ่มส่งออกยังโตรับอานิสงส์กำลังซื้อต่างประเทศยังสูง-ค่าบาทอ่อนค่า นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป กล่าวว่ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์จะมีผลประกอบการที่โดดเด่นในไตรมาส 4/2557 เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซัน อีกทั้งค่าเงินบาทที่ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มนี้ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าราคาหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์หลายๆ บริษัทได้ปรับเพิ่มขึ้นมาเยอะแล้ว อาจจะมีแรงขายทำกำไรเข้ามากดดัน นักวิเคราะห์ บล.เคเคเทรด กล่าวว่า แม้ว่าตัวเลขส่งออกเดือน ส.ค.2557 จะปรับตัวลดลง แต่ฝ่ายวิจัยยังเชื่อว่าในระยะสั้นตลาดจะกลับมาให้ความสนใจกับหุ้นกลุ่มส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อีกครั้ง โดยมองว่ากลุ่มนี้มีแนวโน้มจะแข็งแกร่งกว่าตลาดเนื่องจากรายได้อิงกับตลาดต่างประเทศ ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากปัจจัยฤดูกาลและการเติบโตของอุตสาหกรรม โดยตัวเลขดุลการค้าเดือน ส.ค. สินค้าอิเล็กทรอนิกส์มีการส่งออกเติบโตถึง 7.4% เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน สวนทางกับสินค้าอื่นๆ นอกจากนี้ การฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจสหรัฐที่เป็นผู้บริโภครายใหญ่ของผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ แข็งแกร่งกว่าเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป รวมทั้งได้ผลบวกจากแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินบาท จากการที่เฟดจะยุติการทำคิวอีในเดือน ต.ค. และมีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในระยะถัดไป จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องเทียบเงินสกุลอื่น และอุตสาหกรรมอยู่ในช่วงของการเติบโต สังเกตจากอัตราส่วน SEMI book-to-bill ratio ทรงตัวอยู่ในระดับที่มากกว่า 1 เท่าตั้งแต่ต้นปี ซึ่งเป็นอัตราส่วนบอกรายการขายเทียบกับรายการสั่งซื้อทางฝั่งต้นน้ำในแต่ละงวดยังอยู่ในภาวะอุปสงค์ส่วนเกิน ทั้งนี้ ตัวเลขดุลการค้าไทยเดือน ส.ค. พบว่าการส่งออกยังคงติดลบเป็นเดือนที่สองติดต่อกันที่ -7.4% มากกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดที่ -3.2% และติดลบสูงสุดในรอบ 32 เดือน โดยมีเพียง 3 รายการจากทั้งหมด 10 รายการ ที่เติบโต คือข้าว, อิเล็กทรอนิกส์, และวัสดุก่อสร้าง ส่วนที่เหลืออีก 7 รายการยังหดตัว อีกทั้งยอดนำเข้าสินค้าทุน และวัตถุดิบ ยังติดลบ ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงการหดตัวภาคส่งออกอย่างต่อเนื่องในระยะ 1-3 เดือนข้างหน้า ทั้งที่ช่วงปลายปีมักเป็นฤดูกาลสูงของธุรกิจส่งออกของไทย จึงเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจไทยที่อิงกับการส่งออกอย่างมากยังไม่มีแนวโน้มฟื้นตัวเร็วอย่างที่ตลาดคาดจึงอาจนำไปสู่การปรับลดคาดการณ์จีดีพี และกำไรบริษัทจดทะเบียน และกระตุ้นให้เกิดความเสี่ยงที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะปรับฐานอย่างที่เคยคาดได้ นางสาวอาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า การส่งออกของไทยฟื้นตัวช้ากว่าคาด ซึ่งทำให้มูลค่าส่งออกทั้งปี 2557 จะเป็นแค่ทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้ อุตสาหกรรมส่งออกที่โดดเด่นในปี 2557 และคาดว่าจะขยายตัวได้ดีต่อเนื่องในปี 2558 คือ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์, สื่อสาร และเครื่องมือแพทย์ ซึ่งบริษัทที่ดำเนินธุรกิจส่วนนี้และเป็นหุ้นเด่น คือบริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ และบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) รวมทั้งอุตสาหกรรมส่งออกไก่สดและปรุงสุกแช่แข็งที่มีปริมาณการส่งออกเติบโตสดในปีนี้ โดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่นที่มีการขยายตัวดีมาก หุ้นเด่น คือ บริษัท จีเอฟพีที สำหรับกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์มีแนวโน้มว่าปริมาณการผลิตรถยนต์ในปี 2560 มีโอกาสที่จะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 3 ล้านคัน เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวช้า รวมทั้งการส่งออกเติบโตได้ไม่มาก ส่วนหนึ่งมาจากการปรับมาตรการของประเทศคู่แข่งขันและผู้นำเข้าที่ทำให้มีการนำเข้ายานยนต์จากไทยน้อยลง เช่น การให้สิทธิประโยชน์ส่งเสริมให้มีการผลิตและใช้รถยนต์ที่ผลิตภายในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า, การเปลี่ยนมาตรฐานของรถยนต์ที่นำเข้าเพื่อให้มีการประหยัดพลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม Tags : ตลาดหุ้น • กำไร • หุ้นส่งออก