รีวิว Galaxy Buds กับความพยายามเป็นหูฟังไร้สายแอนดรอยด์แถวหน้าของซัมซุง

หัวข้อกระทู้ ใน 'เทคโนโลยี' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 4 มีนาคม 2019.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    หากพูดถึงหูฟังไร้สาย (true wireless) ของฝั่งแอนดรอยด์ตัวท็อป คำตอบส่วนใหญ่อาจเป็นแบรนด์หูฟังและราคาสูง ที่ความโดดเด่นอาจมีแค่เรื่องเสียงเท่านั้น ขณะที่ฝั่งแอปเปิลมี AirPods ที่ทำงานร่วมกับอุปกรณ์แอปเปิลได้อย่างไร้รอยต่อ (seamless) ราคาไม่แพงเกินและฟีเจอร์ต่างๆ ค่อนข้างครบครันและสมบูรณ์พร้อมสำหรับการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน

    ซัมซุงเองก็ทำหูฟังไร้สายออกมาแล้ว 2 รุ่นในชื่อ Gear IconX ก่อนที่รุ่นล่าสุดจะรีแบรนด์จาก Gear ที่เป็นสายฟิตเนสมาเป็น Galaxy Buds ซึ่งสะท้อนว่าซัมซุงดันเอาหูฟังไร้สายรุ่นนี้มาเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์หลักคู่กับสมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy แล้ว ขณะที่ดีไซน์และการเชื่อมต่อก็ปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วย และเมื่อพิจารณาเทียบเรื่องราคากับรุ่นเก่าแล้ว พอจะทำให้ Galaxy Buds ไปอยู่แถวหน้าของหูฟังไร้สายแอนดรอยด์ได้อย่างไม่เคอะเขินเลยทีเดียว

    [​IMG]

    ดีไซน์และการเชื่อมต่อ


    ภาพรวมของ Galaxy Buds ยังคงมีความคล้าย Gear IconX ทั้งตัวเคสและหูฟังแต่ปรับขนาดให้เล็กลง ดูไม่เทอะทะเท่าเก่า ภายในกล่องเปิดมาจะพบตัวเคส ร่วมกับกล่องใส่สายชาร์จ (USB-A to USB-C) และยางซิลิโคนสำหรับเปลี่ยนจุกหูฟังและ fin ที่ล็อกเข้ากับร่องหูเอาไว้ให้

    [​IMG]

    ขนาดของเคสสั้นลงกว่าเดิมมาก ขนาดพอๆ กับกุญแจรถยนต์ น้ำหนักเบา ส่วนการเชื่อมต่อก็ถือว่าง่ายกว่าเดิม มีความ seamless มากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต่อกับ Galaxy S10 เพียงแค่เปิดบลูทูธ เปิดฝาเคส จะมีหน้าจอสำหรับเชื่อมต่อขึ้นมาให้อัตโนมัติ หากเป็นแอนดรอยด์รุ่นอื่น (ผมใช้ Pixel 2 XL) อาจวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย กระบวนการจะคล้ายกับการเชื่อมต่ออุปกรณ์บลูทูธปกติ เพราะต้องโหลดแอป Galaxy Wear เและกดเลือกผลิตภัณฑ์ที่จะเชื่อมต่อจากในแอป

    และเมื่อเชื่อมต่อแล้ว ทุกครั้งที่เปิดฝาเคสและหยิบตัวหูฟังออกมาใส่หู หูฟังจะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนให้อัตโนมัติและค่อนข้างเร็วทีเดียว

    [​IMG]

    การใช้งานจริง


    เห็นดีไซน์ตัวหูฟังอาจดูเป็นตุ่มๆ นูนๆ แต่เอาเข้าจริงแล้ว Galaxy Buds พอใส่เข้าไปแล้วกลับดูพอดีกับใบหู ไม่ดูเทอะทะหรือยื่นออกมาจนน่าเกลียด ขณะเดียวกันก็ค่อนข้างแน่นแบบพอดีกับรูหู ไม่อึดอัดหรือเจ็บหู ใส่วิ่งหรือแม้แต่ขึ้นมอเตอร์ไซค์ที่มีลมตีแรงๆ ก็ยังไม่หลุด

    พื้นผิวด้านนอกของหูฟังที่เป็น 3 เหลี่ยมเหงาๆ คือทัชแพด มีคำสั่งรองรับไว้แล้ว ไม่สามารถปรับได้ กดครั้งเดียวเพื่อเล่น/หยุดเพลง กดสองครั้งเพื่อเปลี่ยนเพลง หรือรับสาย/วางสาย กดสามครั้งเพื่อเล่นเพลงก่อนหน้า

    [​IMG]

    ส่วนกดค้างสามารถตั้งได้ผ่าน Galaxy Wear ว่าจะให้เพิ่มหรือลดเสียง (ซ้ายลด ขวาเพิ่ม), สั่ง Voice Command ด้วยการกดค้างแล้ว Google Assistant (บน Pixel 2 XL) จะเด้งขึ้นมา หรือเปิด Ambient Mode ช่วยให้ได้ยินเสียงรอบข้างและเสียงพูดคุย (Ambient Mode จะทำงานเมื่อกดค้างเอาไว้เท่านั้น หากจะเปิดตลอดเวลาต้องไปเลือกเปิดเฉพาะในแอป) หรือจะใช้ปฏิเสธการรับสายตอนมีสายเข้าก็ได้

    เรื่องคุณภาพเสียง สำหรับหูฟังไร้สายเล็กๆ อย่างนี้อาจคาดหวังคุณภาพเสียงไม่ได้มากขนาดนั้น (หากไม่ใช่รุ่นท็อปๆ ที่แบรนด์หูฟังผลิตเอง) ซึ่งส่วนตัวไม่ใช่คนเล่นหูฟังหรือหูเทพขนาดแยกเสียงได้ขนาดนั้น แต่พอบอกได้ว่าเสียงของ Galaxy Buds อยู่ในระดับกลางๆ ไม่เด่นแต่ก็ไม่แย่ รายละเอียดเสียงค่อนข้างครบ เสียงเบสมีแต่อาจไม่แน่นสะใจใครหลายๆ คน การปรับ equalizer ผ่านในแอปก็พอช่วยได้อยู่บ้าง

    [​IMG]

    ส่วนประเด็นที่ว่า Galaxy Buds ผ่านการปรับจูนจาก AKG มาแล้วนั้น ส่วนตัวมองว่าเป็นกลยุทธทางการตลาดมากกว่าที่จะเป็นตัวบ่งชี้คุณภาพเสียง (AKG เป็นแบรนด์ในเครือ Harman ที่ซัมซุงเป็นเจ้าของ)

    Noise Cancellation ของ Galaxy Buds ทำได้ค่อนข้างดี แทบไม่ได้ยินเสียงรบกวนรอบข้างเลย ขณะที่หากเปิด Ambient Mode (ได้ยินเสียงรอบข้างโดยเฉพาะเสียงพูด) ไว้ตลอดเวลา อาจสร้างความรำคาญสำหรับบางคนเพราะหูฟังจะจับเสียงพูดและเร่งเสียงให้ ทำให้บางทีได้ยินเสียงชาวบ้านที่เราไม่ได้อยากได้ยินแทรกเข้ามาตลอดเวลา โหมดนี้อาจเหมาะกับการเลือกเปิดเมื่อกดทัชแพดค้างเพื่อฟังเสียงคู่สนทนาเป็นครั้งคราวมากกว่า

    [​IMG]

    ส่วนเรื่องคุณภาพของการพูดคุยผ่านโทรศัพท์ ส่วนตัวผมเองได้ยินเสียงชัดเจนตลอดทุกครั้ง แต่คู่สนทนากลับไม่ค่อยได้ยินเสียงเป็นบางครั้ง (ตัวคู่สนทนาบอกว่าเสียงเหมือนผมเปิดลำโพงแล้วตะโกนคุยจากที่ไกลๆ มา) แต่ส่วนใหญ่ก็ได้ยินชัดเจน ปกติ โดยไม่จำเป็นต้องตะโกนหรือพูดเสียงดัง เพราะ Galaxy Buds มีไมโครโฟนที่คอยรับเสียงพูดจากภายในช่องหูของเราอยู่แล้ว

    ขณะที่ระยะการเชื่อมต่อระหว่าง Galaxy Buds กับสมาร์ทโฟนกลับพบปัญหาเสียงขาดไปจนถึงบลูทูธหลุด หากเปลี่ยนห้องแล้วมีกำแพง โลหะหรือสัญญาณรบกวนเกิน แต่ถ้าเป็นที่ว่างๆ ระยะเชื่อมต่อก็ค่อนข้างไกล (Galaxy Buds ใช้ Bluetooth 5.0) ไม่แน่ใจว่าหากต่อกับ Galaxy S10 จะดีกว่านี้หรือไม่ ทั้งนี้ตัวหูฟังมีเซ็นเซอร์ Proximity ในตัว หากเราถอดหูฟังออก เพลงจะหยุดให้อัตโนมัติ (แต่หากถอดข้างเดียว ข้างที่ถอดก็ยังเล่นเพลงต่อไป)

    [​IMG]

    แบตเตอรี่


    ซัมซุงบอกว่าตัวหูฟังสามารถใช้งานได้ 6 ชั่วโมงและชาร์จจากแบตเตอรี่ได้อีก 7 ชั่วโมง ขณะที่การใช้งานจริง ถึงแม้จะไม่ได้เปิดเพลงฟังตลอดทั้งหมดจนแบตหมดเกลี้ยง เพราะถอดๆ ใส่ๆ แต่ก็พูดได้ว่าเพียงพอต่อการใช้งานตลอดทั้งวัน โดยตัวเคสของ Galaxy Buds รองรับการชาร์จไร้สายด้วย (แต่เสียบสายเถอะ เร็วกว่าเยอะ ร้อนน้อยกว่าด้วย)

    ขณะที่การชาร์จผ่านฟีเจอร์ PowerShare กับ Galaxy S10 พบว่าทิศทางการวางเคสต้องวางตั้งฉากกับ Galaxy S10 ถึงจะสามารถชาร์จได้ (Galaxy S10 วางแนวนอน Galaxy Buds วางแนวตั้ง) หากวางแนวนอนเหมือนกันจะชาร์จไม่เข้า

    [​IMG]

    สรุป


    ด้วยฟีเจอร์ ความสามารถในการเชื่อมต่อที่ seamless ความสบายในการใส่ไปจนถึงความสวยงาม ส่วนตัวมองว่า Galaxy Buds เป็นตัวเลือกหูฟังไร้สายที่ค่อนข้างน่าสนใจสำหรับผู้ใช้งานแอนดรอยด์ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับราคาที่ 129.99 เหรียญ (ยังไม่ประกาศราคาและวันวางจำหน่ายในไทย) ซึ่งถูกกว่า Gear IconX และ AirPods ที่ 199.99 และ 159.99 ตามลำดับ

    [​IMG]

    ข้อดี

    • ราคาถูกลง
    • ใส่สบาย ไม่หลุดและไม่เทอะทะ
    • เชื่อมต่อง่าย
    • แบตเพียงพอต่อการใช้งานทั้งวัน

    ข้อด้อย

    • เสียงพูดคุยของผู้ใส่ไม่ชัดเป็นครั้งคราว
    • แบตเตอรี่ของเคสค่อนข้างน้อย (AirPods ชาร์จได้มากกว่า 1 รอบ)
    Topics: SamsungSamsung GalaxyEarphonesReview
     

แบ่งปันหน้านี้