หุ้นไทยวานนี้'ปรับฐาน'รูด17จุด

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 3 ตุลาคม 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    ตลาดหุ้นไทยร่วง 17 จุดตามภูมิภาค เหตุนักลงทุนตื่นขาย หวั่นเศรษฐกิจกลุ่มประเทศยักษ์ใหญ่ชะลอ

    บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวานนี้ (2 ต.ค.) ดัชนีปิดที่ 1,569 จุด ลดลง 17.62 จุด หรือ 1.11% มีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 56,511.52 ล้านบาท โดยดัชนีทำจุดสูงสุดระหว่างวันที่ 1,587.54 จุด และจุดต่ำสุดที่ 1,565.29 จุด หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกคือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) PTT ราคาปิดที่ 369 บาท เพิ่มขึ้น 3 บาท หรือ 0.82% บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) TRUE ราคาปิดที่ 11.40 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ 1.72%และ บริษัท ไมด้า แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) MLDA ราคาปิดที่ 1.22 บาท เพิ่มขึ้น 0.21 บาท หรือ 20.79%

    การซื้อขายแยกรายกลุ่มนักลงทุน โดยนักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 1,920.26 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 150.44 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 610.42 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 2,681.12 ล้านบาท ทั้งนี้ในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติยังมียอดขายสุทธิ 2,232.67 ล้านบาท

    นางสาวอาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยที่ปรับลดลง 17.62 จุด ถือเป็นการปรับลดลงตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย โดยสาเหตุมาจากการความกังวลที่มีต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศชั้นนำ เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา จีน หรือประเทศในยุโรป นอกจากนี้ยังมีแรงกดดันจากหุ้นสายการบินในสหรัฐอเมริกา ภายหลังการพบผู้ติดเชื้ออีโบลารายแรก

    “ในเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ทางธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศซื้อพันธนบัตรรัฐบาล (คิวอี) เพิ่มเป็น 4.07 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากเดือน ส.ค. ที่มีวงเงินซื้อพันธบัตรอยู่ที่ 1.96 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนสาเหตุที่เฟดซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน อาจเป็นเพราะว่าเล็งเห็นถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในเดือนที่ผ่านมา ทั้งที่จริงๆ แล้ววงเงินคิวอีควรจะอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามการประชุมครั้งล่าสุด” นางสาวอาภาภรณ์ กล่าว

    สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นยังคงขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกเป็นหลัก โดยเฉพาะผลการประชุมเรื่องมาตรการคิวอีของธนาคารกลางยุโรป ซึ่งคาดว่าจะเริ่มใช้มาตรการคิวอีในเดือนนี้ แต่ในช่วง 2-3 เดือน ข้างหน้าตลาดน่าจะอยู่ในทิศทางเชิงบวก เป็นผลจากงบประมาณภาครัฐจะเริ่มกระจายไปถึงประชาชนอย่างทั่วถึง ช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งจะมาพร้อมกับการจับจ่ายใช้สอยในช่วงปลายปีต่อไปจนถึงปีใหม่

    “เป้าดัชนีของปีนี้ประเมินไว้ที่ 1,559 จุด แต่ถ้าหากนักลงทุนเข้าซื้อช่วงดัชนีใกล้ 1,600 จุด ควรจะเป็นการถือลงทุนในระยะ 1 ปี ขึ้นไป ส่วนปี 2558 บล.ดีบีเอส ตั้งเป้าดัชนีไว้ที่ 1,779 จุด” นางสาวอาภาภรณ์ กล่าว

    นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ASP กล่าวว่า หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กส่งสัญญาณการเกิดฟองสบู่ เป็นผลจากการที่นักลงทุนเล่นเก็งกำไร จนราคาหุ้นพุ่งเกินพื้นฐาน และถ้าปีหน้าธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นดอกเบี้ยจะส่งผลให้เงินทุนไหลกลับ อาจทำให้ตลาดหุ้นเข้าสู่ภาวะฟองสบู่อย่างเต็มตัว ซึ่งผู้ที่ซื้อขายแบบเก็งกำไร ก็จะได้รับผลกระทบกันอย่างกว้างขวาง

    "ตลาดหุ้นไทยเริ่มส่งสัญญาณภาวะฟองสบู่ในหุ้นขนาดกลางและเล็ก ซึ่งนักลงทุนมีการเข้ามาเก็งกำไรโดยไม่ดูปัจจัยพื้นฐานเข้ามาสนับสนุน อีกทั้งในปีหน้าหากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็จะยิ่งทำให้เงินทุนไหลกลับ และก็จะเสี่ยงเข้าสู่ภาวะฟองสบู่อย่างเต็มตัว ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่ชอบเก็งกำไรในหุ้นที่ราคาเกินพื้นฐานไม่ได้พิจารณาหุ้นพื้นฐานดีบางตัวที่ราคาถูก ซึ่งเป็นปัญหาของนักลงทุนไทยในตอนนี้"นายก้องเกียรติ กล่าว

    นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (2 ต.ค.) ปรับตัวลงจากแรงกดดันของตลาดหุ้นต่างประเทศ ทั้งจากการปรับตัวลงของดัชนีดาวโจนส์และนิกเคอิ แต่มองว่าการปรับตัวลงในนี้เป็นไปตามธรรมชาติของตลาด เพราะปัจจุบันราคาหุ้นส่วนใหญ่ขึ้นมาสูงมาก และในระยะยาวตลาดหุ้นไทยยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีก ส่วนปัจจัยภายในประเทศแม้จะเพิ่งประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงโครงการที่ส่งผลบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจออกมา แต่ก่อนหน้านี้ตลาดได้รับรู้ไปหมดแล้ว

    ด้าน นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ประเทศไทยมีคณะรัฐมนตรีใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งรัฐบาลมีแผนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตั้งแต่แผนระยะสั้น ไปจนถึงการวางรากฐานการเติบโตของประเทศในระยะยาว ตลาดหลักทรัพย์ จึงจับมือหน่วยงานพันธมิตรเชิญผู้นำกระทรวงสำคัญด้านเศรษฐกิจ ตลอดจนผู้นำด้านตลาดเงินตลาดทุน เดินสายให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจและให้ผู้ลงทุนเกิดความมั่นใจในการลงทุน

    ทั้งนี้ในวันที่ 3 ต.ค. 2557 ตลาดหลักทรัพย์จะร่วมกับสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย ธนาคารแห่งอเมริกา เมอร์ริล ลินช์ และบล. ภัทร เชิญ ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายรัฐแก่นักลงทุนสถาบันชั้นนำในประเทศ 150 ราย ในวันที่ 8 ต.ค. 2557 เชิญนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้นำคณะ ไปพบผู้ลงทุนสถาบัน 60 รายที่กรุงนิวยอร์ก สหรัฐ

    Tags : ตลาดหุ้น • หุ้นร่วงแรง

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้