คลังเตรียมปรับเป้าจีดีพีปีนี้ คาดค่ำกว่า 2% หลังตัวเลขส่งออกเดือนส.ค.ร่วงหนัก 7.40% ติดลบมากสุดรอบ 32 เดือน รวม 8 เดือนติดลบ 1.36% ส่งออกทองคำลดลงมากสุด 92.9% เหตุราคาตลาดโลกร่วง ขณะนักวิเคราะห์ผิดหวังตัวเลข เตรียมปรับประมาณการใหม่ ตัวเลขการส่งออกเดือนส.ค. 2557 ลดลง 7.40% สะท้อนให้เห็นว่าสินค้าส่งออกของไทยเผชิญกับการแข่งขันมากขึ้น ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ทำให้ภาคส่งออกมีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปีนี้ลดลง ก่อนหน้านี้ รายงานนโยบายการเงินเดือนก.ย. 2557 ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ระบุว่า การส่งออกสินค้าจะลดบทบาทในการเป็นแรงขับเคลื่อนของเศรษฐกิจ และศักยภาพการผลิตในระยะสั้นต่ำกว่าที่เคยคาดไว้ เนื่องจากปัญหาการส่งออกของไทยส่วนใหญ่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างและต้องใช้เวลาในการแก้ไข ซึ่งเป็นข้อจำกัดด้านการผลิตของไทย และราคาสินค้าส่งออกที่อยู่ระดับต่ำ ธปท.ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของการส่งออกไทยในปีนี้เหลือ 0% หรือไม่เติบโตเลย จากเดิมที่เคยประเมินว่าจะเติบโตได้ราว 3% และปรับลดตัวเลขคาดการณ์ปีหน้าลงมาเหลือ 4% จากเดิมที่ 6% นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่าขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (จีดีพี) ในปีนี้จะต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2% หลังจากเครื่องชี้เศรษฐกิจในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา มีสัญญาณชะลอ โดยเฉพาะภาคการส่งออกที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อการขยายตัวเศรษฐกิจไทย รวมถึงการบริโภค และการลงทุนภาคเอกชน "สศค.ประเมินจีดีพีปีนี้ จะขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมาย 2% แต่ไม่ต่ำกว่า 1.6% จากเดิมคาดการณ์ว่าการส่งออกจะขยายตัวได้ประมาณ 1.5% ทำให้คาดการณ์จีดีพีปีนี้ที่ 2% โดยครึ่งหลังของปีเศรษฐกิจจะขยายตัวได้กว่า 4% แต่ตอนนี้คาดว่าการส่งออกจะขยายตัวได้ไม่ถึง 1% ทำให้จีดีพีทั้งปีเราไม่น่าจะขยายถึง 2% กรณีต่ำสุดจะอยู่ที่ 1.6%" นายกฤษฎา กล่าว ในการแถลงภาวะเศรษฐกิจประจำเดือนส.ค. 2557 นายกฤษฎา กล่าวว่าภาพรวมจีดีพีทั้งปีนี้ สศค.ยังไม่ได้นับรวมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่จะออกมาในช่วงนี้ ซึ่งรวมถึงมาตรการการเร่งรัดการเบิกจ่ายในส่วนของงบประมาณที่ค้างท่อนับตั้งแต่ปี 2548-2556 รวมถึงงบเหลื่อมปีในปีงบ 2557 ที่คาดว่า จะมีงบเหลื่อมปีกว่าแสนล้านบาท และ งบปี 2558 ที่รัฐบาลได้สั่งการให้มีการเร่งรัดการเบิกจ่าย "สศค.ยังหวังว่า การเร่งรัดการเบิกจ่ายจะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้บ้าง โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี แต่วงเงินการเบิกจ่ายจริง อาจจะไม่มากเมื่อเทียบกับวงเงินงบประมาณที่มี หรืออาจจะเบิกจ่ายได้ประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาทเท่านั้น" นายกฤษฎา กล่าวว่า สศค.จะมีการปรับประมาณการจีดีพีในปีนี้ใหม่ในเดือนต.ค.นี้ "สมหมาย"หวังปีหน้าโต4.5% ด้านนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เศรษฐกิจในปีนี้น่าขยายตัวไม่ถึง 2% เพราะในช่วงต้นปี ประเทศไทยมีปัญหาการเมืองภายใน ขณะที่เศรษฐกิจโลกก็ชะลอตัวในหลายประเทศ แต่ในปีหน้า มีความมั่น ใจว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวได้ถึง 4.5% สูงกว่าประมาณการของหลายสำนักวิเคราะห์ เนื่องจากรัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกปีหน้า นายสมหมายกล่าวว่ารัฐบาลพยายามเร่งการใช้จ่ายเงินงบประมาณ โดยเฉพาะงบค้างท่อและตั้งแต่ต้นเดือนต.ค.เป็นต้น การเบิกจ่ายงบประมาณปี 2558 จะเริ่มอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบมากขึ้น รวมถึงงบลงทุนรัฐวิสาหกิจและการอนุมัติโครงการต่างๆ จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนในปีหน้าปีกว่าปีนี้อย่างแน่นอน ส่งออกส.ค.ติดลบมากสุดรอบ32เดือน ด้านนางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่าในเดือนส.ค. 2557 ไทยมีมูลค่าการส่งออก 18,943.3 ล้านดอลลาร์ ติดลบ 7.40% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นการติดลบมากที่สุดในรอบ 32 เดือน นับจากเดือนธ.ค. 2554 ที่ติดลบถึง 8.15% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 17,791.1 ล้านดอลลาร์ ติดลบ 14.17% ส่งผลให้มีดุลการค้าเกินดุล 1,146.3 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) มีมูลค่าการส่งออก 150,543.9 ล้านดอลลาร์ ติดลบ 1.36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้ามีมูลค่า 150,263.1 ล้านดอลลาร์ ติดลบ 12.69% ส่งผลให้มีดุลการค้าขาดดุลมูลค่า 1,146.3 ล้านดอลลาร์ นางนันทวัลย์ กล่าวว่าสาเหตุทำให้มูลค่าการส่งออกของไทยเดือนส.ค.ติดลบ 7.40% มาจากการส่งออกของกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ลดลง 8.7% จากการลดลงของ เครื่องใช้ไฟฟ้า 2.6%, ยานพาหนะอุปกรณ์ และส่วนประกอบ 8.9% ซึ่งหดตัวสูงในตลาดส่งออกสำคัญ คือ อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย รวมถึงตลาดใหม่บางประเทศ ที่ขยายตัวสูงในช่วง 6 เดือนแรก โดยในตลาดอินโดนีเซีย ลดลงมาก เพราะรัฐบาลมีนโยบายผลิตยานยนต์ในประเทศ และลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ ราคาทองร่วง ส่งออกลด92.9% "โดยเฉพาะทองคำ ที่ลดลงถึง 92.9% เพราะราคาตลาดโลกลดลง ทำให้มูลค่าการส่งออกของไทยเหลือเพียง 72 ล้านดอลลาร์จากเดือนส.ค. 2556 ที่สูงถึง 1,029 ล้านดอลลาร์" สำหรับ ตลาดส่งออกในเดือนส.ค. 2557 ลดลงเกือบทุกตลาด โดยตลาดหลัก ลดลง 4.3% จากการลดลงของญี่ปุ่น 7.6% สหรัฐฯ 0.3% และยุโรป (15ประเทศ) 5.4% ส่วนตลาดศักยภาพสูง ลดลง 5.2% จากการลดลงของอาเซียนเดิม (5 ประเทศ) 5.0% จีน ลดลง 14.4% เอเชียใต้ ลดลง 2.9% ตลาดศักยภาพระดับรอง ลดลง 10.1% จากการลดลงของทวีปออสเตรเลีย 16.4% ตะวันออกกลาง 9.3% ลาตินอเมริกา 11.1% ฯลฯ และตลาดอื่นๆ ลดลง 65.1% “เดิมทีเราคิดว่า เศรษฐกิจโลก และประเทศคู่ค้าหลักๆ จะกลับมาฟื้นตัวเร็ว แต่กลับฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ ตลาดหลักๆ ก็ยังไม่ดี ขณะที่มูลค่าทองคำ และน้ำมันสำเร็จรูปลดลง ทำให้เราส่งออกลดลง ขณะที่แนวโน้มการลงทุนทองคำชะลอตัว รวมทั้งจีน นำเข้าทองคำจากฮ่องกงลดลง ทำให้การส่งออกทองคำของไทยไปตลาดหลักทั้งฮ่องกงลดลง 91.9% และสวิตเซอร์แลนด์ ลดลง 95.7% แต่ถ้านับเฉพาะกลุ่มสินค้าส่งออกหลัก ที่ไม่รวมทองคำและน้ำมันสำเร็จรูปแล้ว มูลค่าการส่งออกเดือนส.ค.2557 จะติดลบเพียง 1.48%”นางนันทวัลย์ กล่าว ขณะนี้ ก็ยังมีความหวังว่า มูลค่าการส่งออกของไทยในปีนี้น่าจะขยายตัวได้ 0.5-1% จากเป้าหมายขยายตัวที่ 3.5% เพราะกรมฯได้พยายามจัดกิจกรรมส่งเสริมและผลักดันการส่งออกอย่างเต็มที่ และมากที่สุดเท่าที่จะดำเนินการได้ โดยเน้นการเจาะตลาดใหม่ นักวิเคราะห์ผิดหวังตัวเลขส่งออก นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี ผู้อำนวยการศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย กล่าวว่า ตัวเลขส่งออกเดือนส.ค.ที่ออกมา ถือว่าน่าผิดหวังมาก เพราะนอกจากปัญหาเก่าที่ทำให้การส่งออกของไทยออกมาไม่ค่อยดีแล้ว ยังมีปัญหาใหม่เพิ่มเข้ามา จึงยิ่งทำให้การส่งออกของไทยหดตัวมากกว่าที่คาดไว้เดิม "นอกจากจะมีปัญหาเก่า ที่ทำให้การส่งออกของไทยไม่ค่อยดีนักในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคายางพาราที่ลดลง และปัญหาโรคระบาดในกุ้ง รวมทั้งการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นน้ำมันแล้ว ครั้งนี้ยังมีปัญหาใหม่เพิ่มเข้ามา นั่นคือ การส่งออกยานยนต์ที่ลดลง จึงยิ่งทำให้การส่งออกของไทยหดตัวมากกว่าที่เคยคาดเอาไว้" นายเบญจรงค์ กล่าว หากพิจารณาตลาดการส่งออกของไทยในเดือนส.ค. จะเห็นว่าแทบทุกตลาดออกมาไม่ดีนัก มีเพียงกลุ่มประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม(CLMV) ที่เติบโตได้เพียงกลุ่มประเทศเดียวเท่านั้น เตรียมปรับประมาณการส่งออกใหม่ นายเบญจรงค์ กล่าวว่าการส่งออกเดือนส.ค.ที่ยังออกมาไม่ดีนัก ทำให้ทางศูนย์วิเคราะห์ฯทหารไทย อาจพิจารณาปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของการส่งออกลง จากปัจจุบันที่มองการเติบโตของการส่งออกไทยในปีนี้ไว้ที่ 1% "เราอยู่ระหว่างปรับประมาณการภาพรวมเศรษฐกิจใหม่ทั้งหมด ในส่วนของการส่งออกก็คงต้องมีการปรับลง ส่วนจะเป็นเท่าไรนั้นขอประเมินภาพที่ชัดเจนก่อน แต่เบื้องต้นมองว่า หากเติบโตได้ 0% ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีแล้ว" นายเบญจรงค์ กล่าว Tags : ส่งออก • จีดีพี • ทองคำ • เศรษฐกิจ • นโยบายการเงิน • กฤษฎา จีนะวิจารณะ