สศค.ชี้หนี้เสียแบงก์รัฐ7เดือนพุ่งแตะ'2แสนล้าน'

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 29 กันยายน 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    "สศค." เผยผลประกอบการแบงก์รัฐ 7 เดือนแรกกำไรแล้ว 2หมื่นล้าน ยอดเอ็นพีแอลพุ่งแตะ 2 แสนล้านบาท

    "สศค." เผยผลประกอบการแบงก์รัฐ 7 เดือนแรกกำไรแล้ว 2หมื่นล้าน เพิ่มขึ้น 4 พันล้านจากเดือนก่อน สินเชื่อยังขยายตัวได้ดี ยอดเอ็นพีแอลพุ่งแตะ 2 แสนล้านบาท คิดเป็น 5.5% ของสินเชื่อรวม แต่ฐานะเงินกองทุนไม่น่าห่วง เพียงพอต่อการดำเนินงาน

    ภาพรวมผลการดำเนินงานของสถาบันการเงินเฉพาะกิจในเดือนก.ค. พบว่า มีกำไรสุทธิสะสม 2.07 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 4 พันล้านบาท จากเดือนมิ.ย.ที่มีกำไรสะสม 1.66 หมื่นล้านบาท แต่ลดลง 2.88% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

    แหล่งข่าวจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมการให้สินเชื่อของสถาบันการเงินเฉพาะกิจในเดือนก.ค.ขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1.1% จากเดือนก่อนหน้า ส่วนเงินรับฝากขยายตัวเพิ่มขึ้น 8.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 0.6% จากเดือนก่อนหน้า

    ขณะที่มูลค่าของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ที่ 2.13 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.4หมื่นล้านบาท จากเดือนก่อนหน้าที่มียอดหนี้เอ็นพีแอลรวม 1.99 แสนล้านบาท คิดเป็น 5.5% ของสินเชื่อรวม และมีการตั้งสำรองเอ็นพีแอลไว้ที่ 150% ของหนี้เอ็นพีแอล

    สัดส่วนด้านสภาพคล่องของธนาคารรัฐปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 100.3% จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ ขณะที่อัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (บีไอเอส เรโช) ในเดือนก.ค.อยู่ที่ระดับ 10.88% ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และอยู่ในระดับที่เพียงพอต่อการดำเนินงานในระยะต่อไป

    ทั้งนี้ภาพรวมผลการดำเนินงานของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐบาลในช่วงไตรมาส 2 พบว่า ระบบสถาบันการเงินมีสเถียรภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดี กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น แม้ว่าสินเชื่อขยายตัวในอัตราที่ลดลง แต่คุณภาพสินเชื่อยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยสิ้นไตรมาส 2 ของปีนี้ สถาบันการเงินเฉพาะกิจมีกำไรสุทธิ 1.66 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 9.4 พันล้านบาท เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ย และรายได้อื่นๆที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย และมีอัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (NIM) ลดลงเล็กน้อยจาก 2.7% ในไตรมาสแรก เป็น 2.5%

    ขณะที่อัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง หรือ บีไอเอส เพิ่มขึ้นจาก 10.5% มาอยู่ที่ 10.9% อยู่ในระดับเพียงพอต่อการดำเนินงานในระยะต่อไป นอกจากนี้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ ยังได้มีการกันสำรองอยู่ในระดับที่สูง เพื่อรองรับผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจ

    สำหรับสินเชื่อช่วงไตรมาส 2 ขยายตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศมีความไม่แน่นอน โดยแบ่งเป็น 1.สินเชื่ออุปโภคบริโภค คิดเป็น 63.8% ของสินเชื่อรวม ขยายตัวลดลง 3.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2. สินเชื่อธุรกิจ คิดเป็น 36.2% ของสินเชื่อรวม ปรับลดลง 3.5% ซึ่งลดลงแทบทุกธุรกิจ ยกเว้นสินเชื่อเกษตรกรรม และสินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ที่ยังคงมีการขยายตัวเล็กน้อย

    ส่วนบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)มีภาระค้ำประกันเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนในอัตรา 21.8% จากการดำเนินโครงการค้ำประกันสินเชื่อในลักษณะ Portfolio Guarantee Scheme (PGS) ระยะที่ 5 อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2556

    Tags : สศค. • เอ็นพีแอล • บีไอเอส • ธนาคารรัฐ

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้