'ทิสโก้'ลุ้นตลาดรถปี58ฟื้น!

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 29 กันยายน 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    "กลุ่มทิสโก้" ลุ้นตลาดรถปี58 ฟื้น! หนุนสินเชื่อเช่าซื้อโตเกิน 10%

    ผลประกอบการของธุรกิจเช่าซื้อในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลดลงอย่างถ้วนหน้า ทั้งในแง่สินเชื่อที่ลดลง ขณะที่หนี้เสียหรือเอ็นพีแอลต่างปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สาเหตุหลักยังคงเป็นผลจากราคารถยนต์มือสองที่ปรับลดลงต่อเนื่อง หลังราคารถยนต์ใหม่ยังต้องลดแลกแจกแถมเพื่อดึงกำลังซื้อ ที่ชะลอตัวลงจากปัญหาการเมืองในช่วงต้นปีและอุปทานที่ล้นตลาดในช่วง 2 ปีหลังมาตรการรถคันแรกสิ้นสุดลง

    ทิสโก้ถือเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวเช่นเดียวกับระบบ ด้วยพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อที่มีอยู่กว่า 70% ของฐานสินเชื่อรวม โดย "อรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร "กลุ่มทิสโก้" ยอมรับว่า ธุรกิจในช่วงครึ่งแรกของปีชะลอตัวตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เธอไม่ได้หวั่นไหวมากนัก เนื่องจากมองว่าปีนี้เป็นปีปรับฐานหลังจากยอดขายรถยนต์พุ่งเป็นประวัติศาสตร์ในปี 2555 และต่อเนื่องมาปี 2556

    ในส่วนของเอ็นพีแอลที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากราคารถตกลงมามาก ทำให้ลูกค้าบางส่วนทิ้งรถ โดยเฉพาะรถมือสองที่ราคาตกมากกว่ารถใหม่ ซึ่งทิสโก้มีสัดส่วนรถมือสองไม่ถึง 20% ขณะที่สัดส่วนเอ็นพีแอลที่ปรับเพิ่มขึ้นจาก 1.2% ในสิ้นปีมาอยู่ที่ 2% กว่า เป็นผลจากฐานสินเชื่อที่ปรับขึ้นลงมากในช่วงก่อนหน้านี้ เนื่องจาก 2-3 ปีก่อนหน้านี้สินเชื่อธนาคารโตปีละ 33% ทำให้สัดส่วนเอ็นพีแอลดูน้อย แต่ในปีนี้ที่สินเชื่อไม่มีการเติบโตและอาจปรับลดลงทำให้สัดส่วนเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้น ดังนั้นเชื่อว่าหากสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติหรือกลับมาเติบโตได้ปีละ 10% เศษ ก็จะเห็นระดับของเอ็นพีแอลกลับเข้าภาวะปกติที่ระดับ 2.3-2.4%

    “ปีนี้ไม่ใช่แค่ไม่โต แต่ติดลบเพราะเป็นปีปรับฐาน กลายเป็นว่าตัวหารเล็กลงทำให้สัดส่วนเอ็นพีแอลขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา เราดูที่การเปลี่ยนเป็นเอ็นพีแอล และรีบเข้าไปดูทำให้เอ็นพีแอลยังนิ่ง เราต้องเข้าใจปัญหา ที่กลัวคือเกิดวิกฤติทั้งระบบ คนตกงาน จะกลายเป็นเอ็นพีแอล แต่ตอนนี้คนยังมีงานทำ หากเศรษฐกิจดี กำลังซื้อจะกลับมาในที่สุด ขณะที่ฐานลูกค้าของทิสโก้ส่วนใหญ่เป็นมนุษย์เงินเดือน และมีลูกค้าจากภาคเกษตรเพียง 10% เท่านั้น ดังนั้นหากไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจจนมีคนตกงาน ก็ไม่ถือว่าน่าเป็นห่วง”

    อย่างไรก็ตามราคารถที่ปรับลดลงยังกระทบกับภาระการตั้งสำรองเมื่อต้องยึดรถมาขายต่อและรับผลขาดทุน เพราะในช่วงที่ปล่อยสินเชื่อจะพิจารณาจากราคารถช่วงปกติ แต่เมื่อยึดรถราคาได้ปรับลดลงไป เธอคาดว่าผลขาดทุนจากฐานของราคาที่ต่างกันนี้จะหมดไปในปีหน้า

    อรนุช ยืนยันว่ายอดการเติบโตสินเชื่อไม่ใช่เป้าหมายหลักของทิสโก้ เพราะนโยบายของเธอคือการเลือกธุรกิจที่มีผลตอบแทนคุ้มความเสี่ยง ซึ่งก็ยังเป็นรถอยู่ สำหรับสินเชื่อรายใหญ่ที่ธนาคารเข้ามารุกตลาดมากขึ้นในปีนี้อาจจะมีการเติบโตที่ดี แต่คงไม่สามารถทดแทนการหดตัวของสินเชื่อเช่าซื้อได้ เนื่องจากสัดส่วนเช่าซื้อยังเป็นพอร์ตหลัก โดยปัจจุบันสัดส่วนสินเชื่อของธนาคารมาจากสินเชื่อเช่าซื้อ 70% ลดลงจากช่วงก่อนหน้านี้ที่มี 85%

    เธอ เชื่อว่าในขณะนี้ราคารถเริ่มทรงตัวแล้ว โดยราคารถเก่าหายไป 40% อาจดูว่าสูง แต่ในความเป็นจริงราคารถเก่าปรับลดใกล้เคียงกับรถใหม่ที่ปรับลดลงไป 15-20% แต่สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2554 ทำให้รถใหม่ผลิตไม่ทัน ราคารถเก่าจึงปรับขึ้นมา 20% ผ่านมาถึงเวลานี้จึงดูเหมือนว่าราคาปรับลดลง 40-50%

    “ที่ผ่านมาตลาดมือสองพอราคาตกเรื่อย ๆ คนไม่กล้าซื้อมือสอง เพราะไม่รู้จะตกไปเท่าไร ราคาเพิ่งนิ่ง แต่ จะกลับมาช้าๆ จบสิ้นปีนี้เราก็ไม่คิดว่าจะโต เพราะพอตร์ตใหญ่เราคือรถซึ่งปรับฐานลงเยอะ ขณะเดียวกันรถเก่าเราก็อยากระวังคุณภาพ ไม่อยากกระโดดเข้าไปเร็วนัก ตลาดเพิ่งเริ่มขยับนิด ๆ สินเชื่อก็คงติดลบ เพราะชำระคืนเร็วมาก ปล่อยใหม่ไม่ทัน”

    อย่างไรก็ตามแม้สินเชื่อจะไม่โต แต่ในปีนี้ทิสโก้จะรักษาความสามารถในการทำกำไรและรักษาอัตราส่วนผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นไว้ที่ระดับ 16-17% ได้

    อรนุช คาดว่าในปี 2558 ธุรกิจเช่าซื้อจะกลับคึกคักอีกครั้ง หลังบรรยากาศโดยรวมเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และนโยบายต่างๆ ที่ภาครัฐผลักดันออกมาจะเป็นแรงส่งให้เศรษฐกิจฟื้นตัวและมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น โดยทิสโก้คาดว่าจะกลับมาเติบโตได้ในระดับปกติที่ 10% ต้น ๆ จากตลาดรถที่จะเติบโตตามปกติที่ระดับ 1.5-2 เท่าของจีดีพีหรือประมาณ 7-10% ในส่วนของ หนี้ครัวเรือนที่มองว่าสูงนั้น อยากให้พิจารณาสัดส่วนหนี้ต่อครัวเรือนมากกว่าหากยังอยู่ในระดับ 40% ธนาคารพาณิชย์ก็ไม่กังวล

    นางอรนุช ยังกล่าวถึงการล้างข้อมูลหนี้เอ็นพีแอลในเครดิตบูโรหากเป็นหนี้มาครบ 8 ปีว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียดายเพราะธนาคารถือข้อมูลในการศึกษาพฤติกรรมลูกค้า และข้อมูลเหล่านี้ทำให้ลูกหนี้ประพฤติดีต่อไป ซึ่งธนาคารพาณิชย์ที่เห็นข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้ปิดกั้นการให้สินเชื่อหากลูกหนี้มีพฤติกรรมที่ดีหลังจากนั้น และยังให้สินเชื่ออยู่เนื่องจากธนาคารต่างก็ต้องการทำธุรกิจ แต่เมื่อมีการลบทิ้ง แม้จะมองว่าเป็นการให้โอกาสคนดี แต่อาจจะมีคนที่ฉวยโอกาสสร้างพฤติกรรมไม่ดีได้

    “แบงก์ยังไงก็อยากให้สินเชื่อ เราธุรกิจ ไม่ใช่จะมานั่งจ้องจับผิดเพื่อไม่ปล่อย ทุกแบงก์มีมาตรฐาน เราต้องดูตามหลักการและเหตุผล เราดูพฤติกรรม หากเคยติดบูโรเราก็เข้าไปดู เขาอาจจะติดปัญหา เราก็ปล่อยสินเชื่อได้ ที่เราสนใจคือเรื่องพฤติกรรม บางคนพฤติกรรมดีแต่โชคไม่ดี ที่ห่วงคือคนจะฉวยโอกาสสร้างพฤติกรรมไม่ดี จึงควรเก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้เพื่อทำให้คนต้องทำดี ที่สำคัญคือการส่งเสริมให้คนมีพฤติกรรมที่ดี ถ้าพฤติกรรมไม่ดี เราไม่ควรส่งเสริม”

    อรนุช ยังกล่าวถึงโอกาสในการเข้าสู่ตลาดอาเซียนว่าในส่วนของทิสโก้มองว่าการขยายตัวในประเทศยังเป็นโอกาสอยู่ รวมถึงธุรกิจตามแนวชายแดนที่ธนาคารอาจนำสินเชื่อเช่าซื้อออกไปขยายตลาด ส่วนธุรกิจหลักทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมาธนาคารให้บริการร่วมกับดอยช์แบงก์เพื่อให้ลูกค้าซื้อขายหุ้นระหว่างประเทศอยู่แล้ว

    Tags : อรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล • ทิสโก้ • สินเชื่อ • รถยนต์

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้