ทริสฯคาดรัฐประหารฉุดศก.ช่วงสั้น

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 23 พฤษภาคม 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    ทริสเรทติ้ง คาด รัฐประหารกระทบเศรษฐกิจไทยช่วงสั้น ชี้ท่องเที่ยว-สายการบินกระทบมากสุด

    ทริสเรทติ้ง ระบุว่า การบังคับใช้กฎอัยการศึกในไทย น่าจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของธุรกิจต่างๆ ในระยะสั้น หลังจากการประกาศบังคับใช้กฎอัยการศึก เมื่อวันที่ 20 พ.ค.57 ได้ยกระดับมาเป็นการรัฐประหารยึดอำนาจการปกครอง โดยกองทัพ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.57

    ทั้งนี้ แม้การรัฐประหารจะส่งผลกระทบในด้านลบต่อเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ในระยะยาว อาจส่งผลดีหากการรัฐประหารสามารถยุติความขัดแย้งทางการเมือง ที่ยืดเยื้อมานานลงได้

    ความวุ่นวายทางการเมืองที่ยืดเยื้อมานาน ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาวะ เศรษฐกิจของประเทศ โดยธุรกิจทุกประเภทมีผลการดำเนินงานที่ค่อยๆ ถดถอยลงตั้งแต่ ปีที่ผ่านมา ความวุ่นวายทางการเมืองส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง การจัดทำงบประมาณภาครัฐล่าช้า โดยงบประมาณส่วนใหญ่เป็นงบประมาณสำหรับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทั้งสิ้น

    นอกจากนี้ บรรยากาศในการลงทุนก็สูญเสียไป โดยในไตรมาสแรกของปี 2557 การลงทุนของภาครัฐและเอกชน โดยรวมลดลงกว่า 9.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน

    ขณะที่ มูลค่าโครงการลงทุนใหม่ๆ ที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2557 ก็ลดลงไปถึง 87% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน ของปีก่อน โดยลดลงจากประมาณ 328,500 ล้านบาทในปี 2556 เหลือเพียง 43,500 ล้านบาท ในปี 2557

    ในมุมมองของทริสเรทติ้ง คาดว่า ธุรกิจท่องเที่ยว และสายการบิน จะได้รับ ผลกระทบมากที่สุดในระยะสั้น จากการประกาศกฎอัยการศึกและรัฐประหาร

    อย่างไรก็ตาม ธุรกิจดังกล่าวคาดว่าจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วจากความต้องการ ของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการให้บริการของสายการบินต้นทุนต่ำที่เป็นที่นิยมในขณะนี้

    สำหรับธุรกิจบางประเภทอาจจะไม่ได้รับผลกระทบในทันที แต่ก็น่าจะได้รับผลกระทบในไม่ช้า โดยคาดว่าธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และ ธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้าง น่าจะได้รับผลกระทบในระยะปานกลาง

    ทั้งนี้ เนื่องจาก ณ สิ้นปี 2556 บริษัทหลายแห่งในธุรกิจเหล่านี้มียอดขาย ที่รอการรับรู้รายได้ค่อนข้างมาก ดังนั้น ผลกระทบด้านลบอาจจะเห็นชัดเจนมากขึ้นในปี 2558 เมื่อยอดขายสะสมล่วงหน้าดังกล่าวมีการทะยอยรับรู้รายได้และค่อยๆหมดไป

    ในส่วนของภาคธนาคาร คาดว่า จะเห็นสัดส่วนของสินเชื่อด้อยคุณภาพที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากกลุ่มลูกค้ารายย่อย และกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม

    ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2557 สัดส่วนของสินเชื่อด้อยคุณภาพเทียบกับสินเชื่อ ทั้งหมดของธนาคาร 11 แห่ง ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 3.02% จาก 2.88% ณ สิ้นปี 2556

    อย่างไรก็ดี ทริสเรทติ้งเชื่อว่า ธนาคารเหล่านี้มีการคงปริมาณสำรองเพียงพอที่จะรองรับความสูญเสียที่เกิดจากคุณภาพสินทรัพย์ที่ด้อยลง โดย ณ สิ้นไตรมาสแรก ของปี 2557 ปริมาณสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญโดยรวมของธนาคารทั้ง 11 แห่ง คิดเป็น 133% ของสินเชื่อด้อยคุณภาพ

    อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยน่าจะช้ากว่า ช่วงหลังการรัฐประหารเมื่อปี 2549 ทั้งนี้ เนื่องจากภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงกว่าในอดีต ค่อนข้างมาก โดยสัดส่วนหนี้ภาคครัวเรือนเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ณ สิ้นปี 2556 สูงถึง 82.3% จากที่ระดับ 47.6% ในปี 2549

    นอกจากนี้ การจัดทำงบประมาณภาครัฐก็มีความล่าช้ากว่ามาก จากการที่ ประเทศไม่มีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มบริหารงานมาเป็นเวลานาน รวมถึงการส่งออกที่มี แนวโน้มจะเติบโตในอัตราที่น้อยกว่าในช่วงปี 2549

    โดยมูลค่าการส่งออกในไตรมาสแรกของปี 2557 หดตัวลง 0.8% เมื่อ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คาดว่าการส่งออกในปีนี้น่าจะเติบโตเพียง 3.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในขณะที่ ในปี 2549 การส่งออกเติบโตถึง 17%

    Tags : ทริสเรทติ้ง • รัฐประหาร

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้