"ซีไอเอ็มบี" คาดปีหน้าธุรกิจไอบีกลับมาคึกคัก คาดมีดีลกว่า 2.3 หมื่นล. จากปลายปีนี้ที่ยังมีดีลอีก 1.8 หมื่นล. นายสิทธิไชย มหาคุณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สาย Corporate Finance ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะมีดีลเสนอขายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์อีกอย่างน้อย 2 ดีล การเสนอขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ครั้งแรก( IPO) อีก 2 ดีล และการควบรวมกิจการ (M&A) อีก 4 ดีล มูลค่ารวมกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท เมื่อรวมกับช่วงต้นปีแล้ว ทำให้ในปีนี้ธนาคารจะมีงานวาณิชธนกิจมูลค่ารวมกว่า 2.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีมูลค่าประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท ส่วนทิศทางปีหน้ายังเอื้อต่อการเติบโตของธุรกิจ ทำให้คาดจะมีมูลค่าธุรกรรมสูงกว่าปีนี้ เบื้องต้นธนาคารมีดีลในมือแล้วแบ่งเป็นไอพีโอ 3 ดีลและกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) 1 ดีล รวมมูลค่ากว่า 7-8 พันล้านบาท มีดีลซื้อและควบรวมกิจการอีก 3 ดีล รวมมูลค่ากว่า 7-8 พันล้านบาท และยังมีดีลที่อยู่ระหว่างการเจรจาอีกหลายดีล เช่น กองรีทอีก 2-3 ดีล มูลค่ากว่า 6,000-7,000 ล้านบาท "ปีนี้ภาพรวมตลาดต้นปีค่อนข้างนิ่ง เราหันมาเตรียมงานด้าน M&A จนจบไป 2 ดีล ในช่วงที่เหลือของปีคาดจะจบไอพีโอหุ้นได้ 2 ดีล กองทุนอสังหาอีก 2 ดีล และควบรวมกิจการอีก 4 ดีล" ธนาคารคาดว่าสัดส่วนรายได้ของธุรกิจวาณิชธนกิจในปีหน้าจะมีสัดส่วนรายได้จากการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินสัดส่วน 50% และที่เหลือจะมาจากการเป็นผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ เทียบกับปีนี้ที่สัดส่วนรายได้กว่า 60% มาจากการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน นายสิทธิไชย กล่าวว่า แม้สถานการณ์ในปีนี้จะมีความชัดเจนมากขึ้น แต่ทิศทางในปี 2558 มีตัวแปรจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในประเทศจะมีการผลักดันการลงทุนในโรงสร้างพื้นฐานที่จะมีผลต่อกำลังซื้อในประเทศและเป็นตัวกำหนดทิศทางเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่ปัจจัยภายนอกจะต้องติดตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่างประเทศ ทั้งสหรัฐและยุโรป ที่ยังฟื้นตัวไม่เร็วนัก และยังมีมาตรการคิวอีของยุโรปที่จะมีเม็ดเงินเข้ามาในประเทศพอควร ซึ่งส่วนใหญ่จะเข้ามาในตลาดพันธบัตรเป็นหลัก "การผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่จะมีแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตไปได้ ในขณะนี้ต่างประเทศก็ม่ความมั่นใจในประเทศไทยมากขึ้น ทำให้เริ่มมีความต้องการเข้ามาขยายธุรกิจในประเทศไทยต่อเนื่อง ถือเป็นสัญญาณที่ดี ตลาดหุ้นเริ่มร้อนแรง ทำให้เจ้าของกิจการมองว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะระดมทุน ทำให้ไอพีโอปีหน้าคงคึกคักมากขึ้นกว่านี้ ที่เริ่มกลับเข้ามาต่อเนื่องในช่วงท้ายตลาด" จุดแข็งของธนาคาร คือ การใช้เครือข่ายในภูมิภาคของกลุ่มซีไอเอ็มบีในการเชื่อมโยงธุรกิจระหว่างประเทศ โดยที่ผ่านมาดีลการควบรวมกิจการส่วนใหญ่จะเป็นดีลที่เกิดขึ้นระหว่างภูมิภาคเช่นการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด ในการเข้าซื้อโรงไฟฟ้าของกลุ่มไซม์ ดาร์บี้ของประเทศมาเลเซีย เนื่องจากในขณะนี้ลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่มีความต้องการไปลงทุนในหลายๆ ประเทศ เช่น มาเลเซีย หรืออินโดนีเซียเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารได้มีการพาลูกค้าออกไปหาโอกาสในต่างประเทศ ส่วนปีหน้าดีลควบรวมกิจการที่เกิดขึ้น จะมาจากลูกค้าญี่ปุ่นที่ต้องการเข้ามาลงทุนในไทย และลูกค้าไทยที่ต้องการเพิ่มทุนได้ออกไปมองหาพันธมิตรในต่างประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในอีก 3 ปีข้างหน้า ขณะที่อุตสาหกรรมที่ต่างชาติให้ความสนใจได้แก่ธุรกิจคมนาคม ขนส่ง อาหารและเครื่องดื่ม สุขภาพและประกันเป็นต้น Tags : สิทธิไชย มหาคุณ • ซีไอเอ็มบีไทย • วาณิชธนกิจ • ไอบี