'บางจาก'ทุ่มงบ9พันล้านลุยธุรกิจ

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 26 กันยายน 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    "บางจาก" ทุ่มงบลงทุนปีหน้ากว่า 9,000 ล้านบาท ส่วนปีนี้มีเจรจาซื้อแท่นขุดเจาะน้ำมันในอาเซียนเพิ่ม

    บริษัท บางจาก ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ได้วางแผนขยายธุรกิจในปี 2558 พร้อมกับวางงบลงทุนในปีดังกล่าวควบคู่กันไป

    โดยนายวิเชียร อุษณาโชติ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า บริษัทวางงบประมาณลงทุนปี 2558 ไว้กว่า 9,000 ล้านบาท โดยแบ่งมาขยายธุรกิจใหม่กว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งคงเป็นธุรกิจในกลุ่มพลังงาน อาทิ โรงกลั่น โซลาฟาร์ม สำรวจและผลิตน้ำมัน

    ส่วนงบลงทุนอีก 4,000 ล้านบาท จะใช้ในการบริหารงานปกติ ทั้งด้านการตลาด การปรับปรุงและซ่อมบำรุงโรงกลั่น โดยเงินลงทุนจะมาจากเงินสด 6,000 ล้านบาท จากการออกหุ้นกู้เมื่อต้นปี และส่วนที่เหลือจะมาจากรายได้จากการดำเนินงาน

    สำหรับปีนี้ บริษัทกำลังเจรจาซื้อกิจการแท่นขุดเจาะน้ำมันแห่งหนึ่งในอาเซียน ซึ่งเข้ามาเสนอขายให้กับบริษัท คาดจะเห็นความชัดเจนสิ้นปีนี้ มูลค่า 3,200 ล้านบาท

    นอกจากนี้ บริษัทยังมีการเจรจาเพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจอื่นๆ อยู่อีกหลายโครงการ แต่บริษัทไม่ได้เร่งเจรจา เพื่อจะให้สำเร็จอย่างรวดเร็ว เพราะโดยปกติหากบริษัทจะเข้าซื้อกิจการต้องผ่านการพิจารณาเป็นอย่างดี และต้องสามารถอธิบายให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคนส่วนเข้าใจได้

    ในส่วนของความคืบหน้าของการเสนอขอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมด (Tender Offer) ของบริษัท นิโด้ ปิโตรเลียม โดยบริษัท BCP Energy International PTE.LTD ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ได้รับการตอบรับการเสนอซื้อมากกว่า 62% ของจำนวนหุ้นทั้งของ นิโด้ ปิโตรเลียม แล้ว ซึ่งบริษัทจะรับซื้อหุ้นทั้งหมดที่มีการเสนอขาย จนถึงวันที่ 3 ต.ค. นี้

    ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงขณะนี้ เป็นผลมาจากราคาน้ำมันเริ่มสะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริง หลังจากก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากความขัดแย้งในภูมิภาคที่ผลิตน้ำมัน อาทิ ลิเบีย ซีเรีย ยูเครน ประกอบกับเศรษฐกิจของยุโรปและประเทศจีนที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้ปริมาณการใช้น้ำมันเริ่มปรับราคาตามปริมาณความต้องการซื้อและขายที่แท้จริง

    นายวิเชียร กล่าวต่อว่า ถึงแม้ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะปรับตัวลดลงจากช่วงก่อนหน้า แต่บริษัทคาดราคาขายปลีกในประเทศ อาจจะไม่ได้ปรับตัวลดลงตามโดยทันที เนื่องจากปัจจุบันกองทุนน้ำมันในประเทศมีตัวเลขติดลบ ทำให้ผู้ประกอบการน้ำมันต้องรอนโยบายของภาครัฐ ว่าจะมีการเก็บภาษีน้ำมันเพิ่มขึ้นหรือไม่ หากรัฐบาลเก็บภาษีน้ำมันเพิ่มบริษัทก็จะมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น จึงไม่สามารถที่จะปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันตามตลาดโลกได้

    ทั้งนี้บริษัทคาดว่า ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงจะไม่เกิน 1 บาท ต่อลิตร เนื่องจากความขัดแย้งในไตรมาส 4 จะเป็นช่วงที่ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มสูงสุดเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งจะช่วยพยุงราคาน้ำมันเอาไว้ได้

    ส่วนนโยบายในธุรกิจพลังงานทดแทน บริษัทพยายามหาโอกาสเข้าไปลงทุนในธุรกิจไบโอแมสและไบโอแก๊ส ซึ่งบริษัทมีความเห็นว่ารัฐบาลควรจะส่งเสริมในส่วนนี้มากกว่าแก๊สธรรมชาติ เพราะในปัจจุบันประเทศไทยต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เป็นส่วนมากเพื่อใช้ในการผลิตแก๊สธรรมชาติ ทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น

    "ขณะนี้บริษัทเห็นว่าค่าแอดเดอร์สำหรับธุรกิจไบโอแมสและไบโอแก๊สยังอยู่ในระดับต่ำเกินไป ทำให้สัดส่วนพลังงานจากธุรกิจนี้ยังไม่ถึงเป้าที่วางไว้ ทั้งนี้ บริษัทเห็นว่ารัฐบาลควรหันมาส่งเสริมธุรกิจไบโอแมสและไบโอแก๊สมากยิ่งขึ้น เพราะจะช่วยลดต้นทุนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวได้ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมรายได้ให้กับชาวนาที่จะหันมาปลูกพืชพลังงานเพิ่มเติม" นายวิเชียร กล่าว

    สำหรับปีนี้ บริษัทคงเป้าหมาย Ebitda กว่า 1 หมื่นล้านบาท แต่หากรวม Stock Loss อาจจะมี Ebitda อยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 3 ผลการดำเนินปกติจะดีขึ้นมาก หากยังไม่รวมผลขาดทุนจากการสต็อกน้ำมันดิบ และจะดีที่สุดในช่วงไตรมาส 4 ของปี จากความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มมากขึ้น

    Tags : วิเชียร อุษณาโชติ • บางจาก • งบลงทุน • แท่นขุดเจาะน้ำมัน

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้