แอปเปิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท เดือนกรกฎาคม-กันยายน รายได้รวม 62,900 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 14,125 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 32% โดยรายได้จากตลาดต่างประเทศนอกอเมริกา คิดเป็น 61% ของรายได้ทั้งหมด ไฮไลท์สำคัญของไตรมาสนี้คือรายได้จากธุรกิจบริการ (Apple Music, iTunes, App Store, Apple Pay ฯลฯ) ที่มีรายได้เพิ่มขึ้นทุกไตรมาส โดยไตรมาสนี้อยู่ที่ 9,981 ล้านดอลลาร์ หากปัดตัวเลขหน่อยก็ถือว่าแตะระดับ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ แล้ว iPhone ไตรมาสที่ผ่านมาขายได้ 46.9 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นเพียง 0.4% แต่รายได้เพิ่มขึ้น 24% เป็น 37,185 ล้านดอลลาร์ ส่วน iPad ขายได้ 9.7 ล้านดอลลาร์ ลดลง 6% และรายได้ก็ลดลง 16% และ Mac ขายได้ 5.3 ล้านเครื่อง มีประเด็นสำคัญเพิ่มเติมในช่วงแถลงผลประกอบการดังนี้ Apple Pay มีจำนวน transaction เพิ่มขึ้นสามเท่าตัว รายได้จากอุปกรณ์สวมใส่ (Apple Watch, หูฟัง) เพิ่มขึ้น 50% มีแอปมากกว่า 30,000 แอปที่มี subscription แอปที่ทำเงินมากที่สุด ทำเงิน 0.03% ของรายได้รวมส่วนนี้ของแอปเปิล แอปเปิลจะเลิกรายงานจำนวนเครื่อง iPhone, iPad, Mac ที่ขายได้ ตั้งแต่ไตรมาสถัดไป โดยรายงานจะแยกเป็นรายได้จากการขายอุปกรณ์ และธุรกิจบริการแทน ซีเอฟโอ Luca Maestri ให้เหตุผลว่า การให้ข้อมูลตัวเลขจำนวนเครื่องที่ผ่านมา ไม่ได้สะท้อนถึงคุณค่าและจุดแข็งของแอปเปิล ที่มา: แอปเปิล และ MacRumors Topics: AppleFinancial Report