แกะกล่องลองเล่น Google Pixel 3 แบบใช้งานทั่วไป

หัวข้อกระทู้ ใน 'เทคโนโลยี' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 31 ตุลาคม 2018.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    หลังจาก Google เปิดตัวมือถือ Google Pixel 3 ไปเมื่อต้นเดือนและเปิดให้พรีออเดอร์ผ่านทางออนไลน์ในวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ผมเองก็มีโอกาสกดพรีออเดอร์และมารับของเองที่อเมริกา เลยมีโอกาสได้แกะกล่องและลองเล่นดูว่าการใช้งานเป็นอย่างไรบ้าง

    [​IMG]

    คำเตือน : รูปประกอบบทความเยอะ

    แกะกล่องดูของข้างใน


    ตัวเครื่องที่ผมแกะกล่องในครั้งนี้เป็น Google Pixel 3 สีขาว (Clearly White) ตัวเครื่องด้านหลังส่วนบนเป็นกระจกเงาๆ พื้นที่ประมาณ 1/5 ของเครื่อง ที่เหลือเป็นอะลูมิเนียม ส่วนกล้องเป็นกล้องเดี่ยวที่ยังนูนออกมาเช่นเคย มีปุ่มเปิดปิดเครื่องเป็นสีเขียวมิ้นท์ด้านขวามือ รวมถึงมีปุ่มเพิ่มลดเสียงที่ด้านขวานี้เช่นกัน

    [​IMG][​IMG]

    ด้วยความเป็นเพียง Pixel 3 จึงไม่มีติ่ง (notch) โผล่มา มีกล้องคู่หน้าด้านซ้าย ลำโพงด้านหน้า 2 ตัวบนสุดและล่างสุดของหน้าจอ

    [​IMG]

    ซอฟต์แวร์เป็น Android 9 Pie ตัวเครื่องมาเป็นแบบ unlock ไม่ผูกกับเครือข่ายมือถือแล้ว สามารถนำไปใช้งานได้ทั่วโลก ถาดใส่ซิมจะอยู่ด้านล่างของเครื่อง ข้างๆ รู USB C ทำให้ด้านข้างซ้ายของเครื่องไม่มีอะไร

    [​IMG][​IMG]

    ถ้าให้เทียบกับ Google Pixel 2 แล้วขนาดเครื่องเท่ากัน ต่างกันที่น้ำหนัก เพราะ Pixel 3 เบากว่า และจอก็สูงเพิ่มมาอีก 0.5 นิ้ว แสดงผลได้มากขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าเปิด YouTube หรือเล่นเกมเช่น RoV ก็ยังมีพื้นที่ด้านข้างเหลือ ด้วยเหตุผลเรื่องจากอัตราส่วนจอนั่นเอง

    [​IMG][​IMG][​IMG]

    ด้านในกล่องเปิดมาจะเจอกล่องคู่มือ มีที่จิ้มถาดซิม, คู่มือการใช้งานแบบง่าย, คู่มืออธิบายเรื่องการรับประกันแบบละเอียดและสติกเกอร์ตัวโลโก้ G และสติกเกอร์คำว่า #teampixel แถมมาให้

    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    หูฟังที่แถมมา หน้าตาคล้าย Pixel Buds แต่เป็นแบบสายที่มีหัวแบบ USB Type-C ส่วนที่เป็นวงๆ จะช่วยดันให้หูฟังไม่หลุดออกจากหู รองรับการสนทนาและควบคุมเพลงได้

    [​IMG]

    สุดท้ายมีสาย USB หัวแบบ Type-C 2 ฝั่ง, ตัวแปลง USB Type-C เป็น USB type-A, ตัวแปลง USB Type-C เสียบกับหูฟังที่มีสายแบบ 3.5 มิลลิเมตร และหัวปลั๊ก AC Adapter แบบขาตะเกียบมาให้

    [​IMG][​IMG]

    ทดสอบการใช้งานกล้องคู่ใจ


    หลังจากใช้งานจริงมาได้สองวัน เน้นการถ่ายรูปเป็นหลัก ผลออกมาสำหรับผมพอใจครับ จากตอนแรกที่เอากล้อง DSLR ไป ถ่ายไปได้ 4 รูปก็เลิกเลย ใช้ Pixel 3 ถ่ายสะดวกกว่ามาก จุดเด่นที่ Google นำเสนอคือเรื่องการถ่ายในพื้นที่แสงน้อย ปรากฎว่ามันทำงานได้จริงครับ ตัวอย่างคือ 3 ภาพนี้

    ภาพนี้ถ่ายด้วยโหมดปกติ

    [​IMG]

    ภาพนี้ถ่ายด้วยโหมด HDR+

    [​IMG]

    ภาพนี้ถ่ายด้วยโหมด HDR+ enhanced

    [​IMG]

    ต่อมาคือการถ่ายแบบภาพซูมที่กูเกิลเคลมว่าคมชัดมาก จากการทดสอบพบว่า ถึงแม้ว่าซูมแบบสุดๆ สำหรับผมก็ไม่ชัดอยู่ดี มันเบลอๆ แต่ก็มีรายละเอียดอยู่ เช่นภาพนี้ครับ

    [​IMG]

    ส่วนโหมด Top Shot ที่เอาไว้เลือกภาพที่ดีที่สุด มันคือการเอาฟีเจอร์ Motion มาใช้งานให้เป็นประโยชน์ เช่นผมจะถ่ายรูปตัวเองกระโดด แต่ดันกะจังหวะผิด ก็ได้รูปนี้มา

    [​IMG]

    พอจะใช้งาน Top Shot ในแอพ Google Photos จะมีให้เลือก Select shots เราก็เลื่อนภาพที่ต้องการ ทีนี้แอพจะบอกว่าตรงไหนที่ recommend ตรงนั้นภาพจะชัด แต่หากเลือกนอกเหนือจากนั้น มันเหมือนแคปภาพจาก Motion มาให้เราครับ แบบนี้

    [​IMG][​IMG]

    ฟีเจอร์ Portrait และ Group Selfies ที่ใช้ประโยชน์จากกล้อง เรียกได้ว่าทำออกมาดีมาก เบลอหลังได้สวยและสามารถปรับความกว้างของภาพได้ดีสุดๆ

    [​IMG][​IMG]

    ดูอัลบั้มรูปทั้งหมดบน Google Photos ของผมที่นี่ครับ (ภาพส่วนใหญ่ผมเปิด HDR+ ไว้ตลอดครับ)

    ปัญหาการใช้งานตลอดทั้งวัน


    ปัญหาที่เจออยู่ตอนนี้มีด้วยกัน 4 อย่างคือ

    • เครื่องร้อนเร็วจนมีการแจ้งเตือน โดยผมเปิดเกม RoV ทิ้งไว้เฉยๆ ในอุณหภูมิห้องก็แจ้งเตือน รวมไปถึงถ่ายวิดีโอติดต่อกันนาน 10 นาทีขึ้นไป เครื่องก็ร้อนเช่นกัน
    • ใช้งาน Google Lens ไม่ได้ แอพจะเด้งออกทันทีเมื่อแตะเมนู Lens ผมไม่แน่ใจว่าอาจจะเป็นที่ซอฟต์แวร์ของผมเองรึเปล่า เพราะเข้าร่วมโครงการเบต้าแอพ Google อยู่ รวมไปถึงพอใช้ Google Account ของอเมริกาก็ทำงานได้ปกติ
    • บันทึกวิดีโอแล้วก็เจอปัญหาเรื่องเสียงที่ดูแปลกๆ มันไม่ค่อยชัดเท่าไหร่
    • ลองมาใช้ Wireless Charger ที่ Starbucks โดยให้บริการเป็นยี่ห้อ powermat ก็เจอปัญหาเดียวกับที่มีรายงานเรื่องการโดนจำกัดไฟแค่ 5W หน้าจอขึ้นว่า Charging rapidly แต่เวลาโดยประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งไม่น่าจะใช่แล้ว

    [​IMG]

    ส่วนปัญหาจุกจิกๆ อื่นๆ คือหน้าจอเป็นรอยนิ้วง่ายมาก ส่วนบอดี้หลังเครื่องโดนสะกิดก็เป็นรอยข่วนแล้ว รวมไปถึงผมเพิ่งทำเครื่องตกพื้น ก็ได้รอยแผลมาแล้วหนึ่งจุด เรียกได้ว่าบอบบางพอสมควร หาเคสหรือกระจกใส่ก็อาจจะดีกว่าครับ

    สำหรับการใช้งานทั่วไป โทรเข้า โทรออก ใช้เน็ต เปิด GPS ทำงานได้ปกติดี ไม่มีปัญหาอะไร แบตเตอรี่ผมลองเปิดเล่น Pokemon Go แล้วก็สลับเปิด Google Maps ตั้งแต่เช้าชาร์จเต็ม ประมาณบ่าย 3 ก็เหลือ 30% ถือว่าทำงานได้ทั้งวันอยู่ครับ

    ทั้งหมดนี้คือการแกะกล่องและรีวิวมือถือ Google Pixel 3 ของผมเองครับ ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมในการใช้งานนะครับ สามารถรับชมคลิปแกะกล่องของผมเองได้ที่คลิปด้านล่างนี้เลยครับ


    ใครมีคำถามสงสัยตรงไหนก็ถามได้ที่คอมเมนท์เลยนะครับ

    Topics: Google Pixel 3ReviewMobile
     

แบ่งปันหน้านี้