หุ้นร้อนร่วงรับมาตรการเข้ม

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 23 กันยายน 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    ราคาหุ้นร้อนเริ่มโชว์สัญญาณร่วง หลังตลาดออกมาตรการสกัด ผสมข่าวลือผ่านห้องค้า "ก.ล.ต" จี้ขอตรวจสอบข้อมูล

    สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นขนาดเล็ก และมีการเคลื่อนไหวของราคาร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมานั้น พบว่า เริ่มมีแรงเทขายออกมาต่อเนื่อง หลังจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้เชิญบริษัทหลักทรัพย์ มาหารือเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อหามาตรการควบคุมหุ้นที่มีความร้อนแรง

    จากการตรวจสอบพฤติกรรม การเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มพบว่า วานนี้ (22 ก.ย.) เริ่มมีการปรับตัวลดลง โดยเฉพาะบริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) หรือ DIMET ปรับตัวลดลงมากที่สุด มาปิดที่ 6.70 บาท ลดลง 1.70 บาท หรือลดลง 20.24% มูลค่าซื้อขาย 150.81 ล้านบาท บริษัทสิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S ปิดที่ 6.75 บาท ลดลง 0.95 บาท หรือ 12.34% มูลค่าซื้อขาย 89.97 ล้านบาท และบริษัทเพิ่มสินสตีลเวิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PERM ปิดที่ 2.80 บาท ลดลง 0.34 บาท หรือลดลง 10.83% มูลค่าซื้อขาย 193.32 ล้านบาท

    โบรกเกอร์รายหนึ่ง กล่าวว่า นอกจากมาตรการที่ตลาดหลักทรัพย์ และสำนักงานก.ล.ต.ที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ในการสกัดหุ้นซื้อขายร้อนแรงได้ โดยราคาหุ้นเก็งกำไร หรือหุ้นขนาดเล็กเริ่มปรับตัวลดลงในบางหลักทรัพย์แล้ว วานนี้ยังมีกระแสข่าวลือตามห้องค้าว่า สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เข้าทำการตรวจสอบการซื้อขายในหุ้นที่มีความผิดปกติในหลายหลักทรัพย์ ส่งผลให้ราคาหุ้นร้อนแรงบางตัวเริ่มมีอาการปรับตัวลดลง

    ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้รายงานว่า หุ้นร้อนแรงอย่าง บริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) มีแรงขายจากผู้บริหารบริษัทออกมาในเดือน ก.ย.ต่อเนื่องจำนวน 9 รายการ คิดเป็นหุ้นทั้งหมด 4,033,212 หุ้น มูลค่า 24,505,784.91 บาท โดย น.ส.สยมพร บัวภูมิ กรรมการ ทำรายการ 4 รายการ จำนวนหุ้น 750,541 หุ้น มูลค่า 6,175,069 บาท นายชัชวาล อัศวกนกศิลป์ กรรมการ จำนวน 2 รายการ รวม 400,000 หุ้น มูลค่า 3,770,000 บาท นางเสาวลักษณ์ โชคอาภรณ์ชัย รองประธานกรรมการ จำนวน

    2 รายการ รวมขายหุ้น 1,782,671 หุ้น มูลค่า 10,595,715.91 บาท และนางอัจฉรา โมมินทร์ กรรมการ ขายหุ้นรวม 500,000 หุ้น มูลค่า 3,965,000 บาท

    นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ความร้อนแรงของหุ้นที่เกิดขึ้นมีลักษณะคล้ายคลึงกับปี 2556 ที่ภาวะตลาดในช่วงเวลาดังกล่าวราคาหุ้นก็ร้อนแรงในลักษณะเดียวกัน แต่ความต่างสำหรับในปีนี้ คือ การปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นเกินปัจจัยพื้นฐาน ในบริษัทที่มีขนาดเล็กลงจากเดิม ตลาดหลักทรัพย์จึงต้องการให้นักลงทุนดูสิ่งที่เกิดขึ้นจากความร้อนแรงของราคาหุ้นในอดีต

    "การปรับเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นในปีนี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับปีที่ผ่านมา แต่ไม่เหมือนกันทั้งหมด ปีนี้เราพบว่า หุ้นที่เคลื่อนไหวร้อนแรงเป็นหุ้นที่มีขนาดบริษัทเล็กลง ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ ต้องการให้นักลงทุนได้ดูถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตอย่างในปี 2556 ที่ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นร้อนแรงเหมือนกันและผลที่ตามมานั้นเกิดอะไรขึ้น"

    ราคาหุ้นที่ปรับตัวร้อนแรงนั้น มักจะเกิดขึ้นจากความคาดหวังนักลงทุน ที่มีความเชื่อมั่นในการฟื้นตัวของกิจการ ก่อนที่พื้นฐานเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างแท้จริง ซึ่งมาตรการที่เราดูแลหุ้นผิดปกติ ปัจจุบันเป็นการดูแลความเคลื่อนไหวของหุ้นในระดับหนึ่ง และมีความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสอบถามพัฒนาการบริษัทจดทะเบียน ที่มีความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่ไม่ปกติ และ ยังพิจารณาจากภาพรวมของทั้งตลาดหุ้น โดยไม่ได้เจาะจงไปยังหุ้นใดหุ้นหนึ่ง

    ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ ยังไม่ได้เพิ่มมาตรการพิเศษเพื่อเข้าไปดูแล ซึ่งการจะเพิ่มมาตรการหรือไม่ ต้องพิจารณาความเหมาะสม เพราะต้องไม่เข้าไปดูแลนักลงทุนจนมากเกินไป มาตรการที่จะออกมา ต้องช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับนักลงทุน ให้มีภูมิคุ้มกันอย่างไรก็ตาม

    "การหามาตรการเพิ่มเติมเข้ามาดูแลนั้น ตลาดหลักทรัพย์ ได้มีการหารือกับบริษัทหลักทรัพย์ โดยเราให้บริษัทหลักทรัพย์ไประดมความคิดในการหามาตรการเข้ามาดูแล ส่วนจะสรุปผลในช่วงใดนั้นยังไม่สามารถระบุได้"

    Tags : ตลาดหลักทรัพย์ • เกศรา มัญชุศรี • ก.ล.ต. • มาตรการสกัดหุ้นร้อน

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้