กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รายงานสถิติยานยนต์ที่ไม่ค่อยดีนักในช่วงม.ค.-ส.ค. ที่ผ่านมา โดยพบว่าการผลิต เฉพาะ ส.ค.1.4 แสนคัน ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 27% และเมื่อรวม 8 เดือน ทำได้ 1.24 ล้านคัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 28% รถยนต์นั่ง เป็นกลุ่มที่ลดลงมากที่สุดทั้งรายเดือน และรวม 8 เดือน คือ 34% และ 36% ตามลำดับ ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการที่ลดลงไปมาก รวมถึงผลพวงจากกำลังซื้อที่ถูกไปใช้ล่วงหน้าจากโครงการรถคันแรกที่ยังไม่ฟื้นตัว และทำให้ยอดขายในเดือน ส.ค.ก็ยังคงลดลง 31% ด้วยยอด 6.88 หมื่นคัน ซึ่งถือว่าผิดไปจากความคาดหวังของค่ายรถพอควร ที่คิดว่าตลาดจะกระเตื้องขึ้น หลังจากที่เห็นสัญญาณที่ดีเกิดขึ้น รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภค แต่ก็ทำให้นึกถึงคำพูดของผู้บริหาร บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด พิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ ที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า"ความเชื่อมั่นกลับมาแล้ว แต่กำลังซื้อยังไม่กลับมา" รวม 8 เดือน ตลาดรถยนต์ไทยทำได้ 5.79 แสนคัน ลดลง 38% แม้จะดูดีกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ซึ่งอัตราถดถอยสูงกว่า 40% แต่ก็ต่ำกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ และอาจจะมีผลต่อเป้าหมายปีนี้ที่ล่าสุดตั้งเป้าว่าอยู่ที่ 1 ล้านคัน "ช่วงนี้กำลังให้สมาชิกของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไปประเมินกันอีกครั้ง เพื่อดูว่าตลาดปีนี้จะอยู่ที่เท่าไร ก่อนที่จะประชุมกันในช่วงเดือนหน้า"สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์รองประธานและโฆษกกลุ่มฯ กล่าว ดังนั้นก็ต้องลุ้นกันอีกครั้งว่าการประเมินตลาดรวมจะอยู่ที่เท่าไร และมีผลต่อการปรับเป้าหมายอุตสาหกรรมโดยรวมอย่างไรบ้าง เพราะจะเกี่ยวเนื่องกับการผลิตโดยตรง ซึ่งที่ผ่านมา การผลิตก็ได้ปรับลดไปแล้วจาก 2.4 ล้านคัน เหลือ 2.2 ล้านคัน ข้าว-ยางราคาร่วงฉุดตลาด สำหรับตัวเลขที่ยังคงลดลงนั้น ผู้ประกอบการมองว่าเป็นผลมาจากเดือน ส.ค.ที่ผ่านมามีวันหยุดหลายวัน นอกจากนี้ยังเป็นเพราะไม่ต้องผลิตเพื่อส่งมอบรถคันแรก เศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว ราคาสินค้าการ เกษตรยังไม่ดี โดยเฉพาะสินค้าหลัก อย่างเช่น ยาง หรือ ข้าว รวมไปถึงการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐที่ยังไม่ถึงเป้าหมาย "แต่เราก็ยังเชื่อมั่นว่า ไตรมาส 4 ทุกอย่างจะดีขึ้น เพราะรัฐก็บอกแล้วว่าจะเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณ และให้เบิกจ่ายให้มากที่สุดในช่วงเริ่มต้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ นอกจากนี้ก็ยังมีงาน มหกรรมยานยนต์ ซึ่งแต่ละปีจะช่วยสร้างยอดขายได้มาก" ทั้งนี้คาดว่าช่วงปลายปีนี้ และในงานมหกรรมยานยนต์ ค่ายรถต่างๆ จะต้องพยายามกระตุ้นตลาด เพื่อทำตัวเลขยอดขายให้พลาดเป้าน้อยที่สุด ผ่านการจัดแคมเปญที่ร้อนแรง ตลาดใหญ่ส่งออกขยายตัว อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ยังสามารถที่จะประคองตัวอยู่ได้ แม้ยอดขายลดลง 38% เนื่องจากไทยมีตลาดส่งออกที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง และที่สำคัญ มีความยืดหยุ่น จากการที่มีตลาดที่หลากหลาย กระจายไปหลายภูมิภาคทั่วโลก ทำให้สามารถบริหารจัดการการผลิตได้ดี เมื่อตลาดหนึ่งตลาดใดชะลอตัว ช่วง 8 เดือนแรกที่ผ่านมา ไทยส่งออกรถยนต์ 7.41 แสนคัน เพิ่มขึ้น 1.69% คิดเป็นมูลค่า 3.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% นอกจากนี้ก็มีการส่งออกในรูปแบบของเครื่องยนต์ 2.05 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% ชิ้นส่วน 1.36 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% และอะไหล่ 1.22 หมื่นล้านบาท ลดลง 2% รวมการส่งออกทั้งอุตสาหกรรม 5.19 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% อย่างไรก็ตามการส่งออกเฉพาะเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาก็มีความผันผวนเช่นกัน โดยลดลง 14% ซึ่งเป็นผลมาจากบางตลาด เช่น เอเชียที่ติดลบ 9% และออสเตรเลีย ที่เศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ติดลบ 20% รวมไปถึงแอฟริกา ซึ่งเติบโตต่อเนื่องมาโดยตลอดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 4% เป็น 5% ของตลาดส่งออกทั้งหมด โดยทางกลุ่มยังไม่แน่ใจว่ามีผลกระทบจากปัญหาไวรัส อีโบลา ที่กำลังระบาดอยู่ในหลายประเทศหรือไม่ ในขณะที่การลดลงของเอเชีย และออสเตรเลีย ก็ส่งผลต่อภาพรวมอุตสาหกรรมเช่นกัน เนื่องจากเป็นตลาดขนาดใหญ่ โดยเอเชีย มีสัดส่วนส่งออกอันดับ 2 อยู่ที่ประมาณ 25% ขณะที่ออสเตรเลียอยู่ในอันดับ 3 สัดส่วน 20% แต่อุตสาหกรรมได้แรงหนุนที่ดีจากตลาดส่งออกอันดับหนึ่งคือตะวันออกกลาง ซึ่งมีสัดส่วนการส่งออก 27% และยังคงมีทิศทางการเติบโต โดยช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ขยายตัว 30% ทำให้สามารถชดเชยตลาดที่หดตัวลงได้ ส่วนตลาดอื่นๆ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ไม่ว่าจะเป็นยุโรป ซึ่งฟื้นตัวจากวิกฤติเศรษฐกิจแล้ว เช่นเดียวกับตลาดอเมริกา ที่มีทิศทางที่ดี "อเมริกาถือว่าเป็นตลาดที่เป็นความหวัง เพราะขยายตัวดีมาโดยตลอด และก่อนหน้านี้ เรารวมข้อมูลทั้งอเมริกา แต่ล่าสุดปรับใหม่ โดยแยกอเมริกาเหนือ ซึ่งประกอบไปด้วย แคนาดา สหรัฐ และเม็กซิโก ออกมาจาก อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ แต่ก็พบว่าทั้ง 2 ตลาดยังเติบโต" ทั้งนี้อเมริกากลางและใต้มีสัดส่วนส่งออก 12% และขยายตัว 11% ขณะที่อเมริกาเหนือมีสัดส่วน 3% สำหรับอเมริกาเหนือที่เพิ่งแยกออกมา เป็นตลาดใหม่ที่เริ่มต้นส่งออกไม่นาน โดยสหรัฐเริ่มในปีที่ผ่านมา ขณะที่เม็กซิโก เริ่มต้นปีนี้ โดยเป็นการส่งออกรถอีโค คาร์ ของมิตซูบิชิ Tags : ยานยนต์ • อุตสาหกรรม • ส่งออก • รถยนต์ • ตลาดรถยนต์ • ตลาด