กสิกรไทยชะลอธุรกิจในจีน

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 19 กันยายน 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    กสิกรไทยชะลอธุรกิจในจีน ยอมรับกระทบคุณภาพสินเชื่อ-เน้นช่วยเหลือลูกค้าเต็มที่

    ปรับแผนธุรกิจในจีนหันไปเน้นการค้าระหว่างประเทศ โดยมียอดธุรกรรม 4 หมื่นล้านบาท

    ผลพวงจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัว ส่งผลให้ธนาคารกลางของจีน ออกมาตรการโดยการอัดฉีดสภาพคล่องให้กับธนาคารจีนขนาดใหญ่ 5 แห่ง รายละ 1 แสนล้านหยวน หรือรวมทั้งหมด 8 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อให้ธนาคารจีนสามารถปล่อยกู้สภาพคล่องให้กับธุรกิจเอกชนของจีน

    นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยถึงมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องผ่านสถาบันการเงินของจีนว่า บทบาทของสถาบันการเงิน ต้องเอื้อต่อการเจริญเติบโต และการสร้างเสถียรภาพของเศรษฐกิจ ให้มีเงินทุนหมุนเวียนในระบบอยู่แล้ว แต่ต้องมีมาตรการอื่นมาสนับสนุนการเติบโตอีกด้วย ทั้งการกระตุ้นการค้าขายการลงทุน เช่นเดียวกับประเทศไทย ที่ต้องเร่งเบิกจ่ายงบประมาณผ่านท่อให้เร็วที่สุด

    ในส่วนของธนาคารกสิกรไทย ยังคงดำเนินธุรกิจในประเทศจีน ไปตามครรลองเศรษฐกิจ โดยขณะนี้ธนาคารยังคงแผนการยกฐานะ เป็นธนาคารท้องถิ่นของประเทศจีน (Lii - Locally Incorporated Institution) ในขณะนี้ยังต้องใช้เวลาสร้างประวัติ เนื่องจากทางการจีน จะให้ความสำคัญกับความแข็งแกร่งของสถาบันการเงินในทุกๆ ด้านเป็นสำคัญ ส่วนการขยายสาขาเพิ่มเติมนั้น คงต้องรอระยะเวลาประมาณ 1 ปีหลังจากเปิดดำเนินการสาขาไปก่อนหน้านี้

    "เราคงต้องรอพิสูจน์ฝีมือกันก่อน เพราะต้องสร้างเรคคอร์ดที่ดีให้ทางการจีน เพราะไม่มีรัฐบาลใด เปิดให้แบงก์ที่มีปัญหา เพราะต้องมั่นใจว่ามีความแข็งแกร่งมากเพียงพอ ในแง่การเติบโตเราก็โตไปกับเศรษฐกิจจีนจะดีที่สุด เมื่อเศรษฐกิจชะลอเราก็ต้องชะลอไป"

    ทั้งนี้ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ธนาคารกสิกรไทย ได้เปิดสาขาย่อยหลงกั่ง ซึ่งเป็นสาขาของธนาคารกสิกรไทยแห่งที่ 2 ในเมืองเซินเจิ้น และถือเป็นสาขาแห่งที่ 4 ในประเทศจีน เพื่อรองรับการขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจ และเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ลูกค้าท้องถิ่น รวมทั้งเรื่องการค้าการลงทุนระหว่างประเทศของลูกค้าจีนในกวางตุ้งกับอาเซียน

    นายบัณฑูร ยังกล่าวด้วยว่า ในแง่การเติบโตของธุรกิจจีนในปีนี้คงเติบโตไม่มากนัก โดยเศรษฐกิจที่ชะลอตัวการทำธุรกิจของธนาคารก็ต้องชะลอตามไปด้วยเช่นกัน เพราะความเสี่ยงยังมีอยู่เป็นการทั่วไปจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะธนาคารพาณิชย์เป็นแหล่งเงินออมของประเทศ จึงควรทำธุรกิจด้วยความระมัดระวัง ไม่ให้เกิดความเสียหายตามมา

    แต่ยอมรับว่าการชะลอตัวทางเศรษฐกิจจีนในช่วงที่ผ่านมากระทบกับคุณภาพสินเชื่อบ้าง แต่ธนาคารจะพยายามรักษาการเติบโตให้มีคุณภาพ ขณะเดียวกันก็ต้องให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างเต็มที่

    นายพิพิธ เอนกนิธิ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ปีนี้ธนาคารไม่เน้นการเติบโตในจีน โดยเน้นการรักษาระดับสินเชื่อที่ระดับ 1 หมื่นล้านบาท หรือไม่มีการเติบโต ขณะเดียวกัน หันไปเน้นการค้าระหว่างประเทศ หรือเทรดไฟแนนซ์ โดยมียอดธุรกรรม 4 หมื่นล้านบาท

    ทั้งนี้ยอมรับว่าสถานการณ์เศรษฐกิจในจีนที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา มีผลต่อระบบสถาบันการเงิน รวมถึงคุณภาพสินเชื่อ แต่เอ็นพีแอลของธนาคารในจีน ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ และรักษาระดับการทำกำไรที่เลี้ยงตัวเองได้ โดยไม่ขาดทุน ส่วนการให้สินเชื่อใหม่ จะต้องดูวงจรห่วงโซ่ธุรกิจของลูกค้าที่ชัดเจน

    "ในเรื่องของการอัดฉีดเม็ดเงินให้กับแบงก์ในจีน ถือเป็นการเพิ่มน้ำมันหล่อลื่นให้กับระบบเศรษฐกิจ แต่เชื่อว่าทางการจีนจะดูแลในระดับที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับสถาบันการเงิน เนื่องจากจีนมีความระมัดระวังในการเติบโตเช่นกัน"

    ทั้งนี้รูปแบบธุรกิจสำหรับในจีนที่ธนาคารกสิกรเข้าไปมี 3 ลักษณะด้วยกัน คือ 1.การเข้าไปลงทุนตั้งสาขาและทำธุรกิจในจีนโดยเน้นไปที่ลูกค้าเอสเอ็มอีจีจีน โดยในปี 2554 ธนาคารได้ทำการปล่อยสินเชื่อในจีนจำนวน 800 ล้านหยวน และมีแผนที่จะปล่อยเพิ่มในปี 2556 จำนวน 2000 ล้านหยวน ทั้งนี้ โอกาสที่จะมีธนาคารอื่นๆ ที่ยังไม่ได้เข้าไปจะเข้าไปทำธุรกิจในจีนนั้นต้องถือว่าแทบจะไม่มีแล้ว

    2.การจัดตั้งทีมงาน และการมี Business Model ที่เหมาะสมในการตอบสนองต่อความต้องการของบริษัทจีนที่ต้องการมาลงทุนในไทย ตั้งแต่ก่อนการตัดสินใจมาลงทุน จนถึงการให้บริการทางการเงินเมื่อมาลงทุนในประเทศไทยแล้ว

    3.การให้บริการทางการเงินสำหรับการขยายตัวทางการค้าระหว่างสองประเทศที่อยู่ในอัตราที่สูง ซึ่งธนาคารมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการตลาดการค้าไทยจีนให้เป็น 30% ภายในปี 2558


    Tags : จีน • กสิกรไทย • บัณฑูร ล่ำซำ

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้