กนง.คงดอกเบี้ยเอื้อศก.ฟื้นตัว

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 18 กันยายน 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    กนง. มติเอกฉันท์ 5 ต่อ 0 เสียง "คง" ดอกเบี้ย 2% ย้ำนโยบายการเงินผ่อนคลายยังจำเป็น

    นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) เปิดเผยว่า กนง.มีมติเอกฉันท์ 5 ต่อ 0 เสียง ให้คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2% ขณะเดียวกัน กนง.ยังได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจ ทั้งปีนี้และปีหน้าใหม่ รวมถึงตัวเลขการส่งออก โดยจะประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 ก.ย.นี้

    การประชุมครั้งนี้มี กรรมการ 2 ท่าน ไม่ได้เข้าร่วมประชุมโดยแจ้งว่าติดภารกิจ ซึ่งทั้ง 2 ท่าน คือ นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

    "กนง. ประเมินว่า นโยบายการเงินที่ผ่อนปรนในปัจจุบันยังมีความจำเป็นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยังอยู่ในระยะเริ่มแรก โดยไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพการเงิน กนง. จึงมีมติเอกฉันท์ให้คงดอกเบี้ยไว้ที่ 2% ต่อปี" นายเมธีกล่าว

    ภาพรวมเศรษฐกิจโลกถือว่าฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่คาดเล็กน้อย โดยมีความแตกต่างระหว่างภูมิภาค การฟื้นตัวของเศรษฐกิจกลุ่มประเทศยูโรและญี่ปุ่นยังอ่อนแอ แต่น่าจะได้รับแรงสนับสนุนเพิ่มเติมจากนโยบายเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในระยะต่อไป ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐ ฟื้นตัวได้ตามคาด และเศรษฐกิจเอเชียโดยรวมยังขยายตัวได้ใกล้เคียงเดิม

    การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวช้าๆ

    ข้อมูลล่าสุดชี้ว่าความเชื่อมั่น และการใช้จ่ายในประเทศของครัวเรือน ธุรกิจ และภาครัฐเริ่มฟื้นตัวและส่งผลให้อุปสงค์ในประเทศปรับตัวดีขึ้น และจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ในระยะต่อไป

    ส่วนข้อจำกัดด้านการผลิต และปัญหาราคาสินค้าเกษตรมีผลต่อการส่งออกสินค้า ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆ ก่อนปรับเข้าสู่ระดับปกติ ส่วนระบบการเงินและอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในเกณฑ์ที่มีเสถียรภาพ

    "กนง.มีความเป็นห่วงส่งออกที่ต่ำกว่าคาดอยู่บ้าง ตัวเลข 7 เดือนแรกยังต่ำ ส่วนตัวเลขประมาณการส่งออกใหม่จะแถลงในสัปดาห์หน้า"

    แม้การส่งออกจะต่ำกว่าที่ กนง. คาดการณ์ไว้ แต่ได้อุปสงค์ในประเทศที่ดีขึ้นมาช่วยชดเชย สิ่งที่ กนง. จะติดตามดูจากนี้ไป คือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะไปได้ต่อเนื่องหรือไม่

    "เรายังมองเศรษฐกิจฟื้นตัวแบบวีเชฟ เพราะจากสัญญาณหลายตัวออกมาดีขึ้น ทั้งการใช้จ่ายภาครัฐ รวมทั้งการบริโภค แม้ยังไม่ฟื้นตัวกลับมาสู่ระดับปกติ แต่เห็นการบริโภคสินค้าไม่คงทนเริ่มกลับมาเติบโตดี รวมทั้งการค้าปลีก" นายเมธีกล่าว

    เสถียรภาพการเงินมีสัญญาณดีขึ้น

    สำหรับคำถามที่ว่าเศรษฐกิจไทยในเวลานี้มีความจำเป็นต้องกระตุ้นภาคการบริโภคหรือไม่นั้น นายเมธี กล่าวว่า คงต้องดูเป็นรายมาตรการ แต่ถ้าดูภาพรวมความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเองก็เริ่มกลับมาแล้ว และรายได้ของผู้มีงานทำนอกภาคเกษตรเองก็ยังอยู่ระดับที่ดี เชื่อว่าทั้ง 2 ตัวนี้น่าจะพยุงให้การบริโภคขยายตัวได้

    "การฟื้นตัวคงต้องใช้เวลาบ้าง แต่การไปกระตุ้นนั้น ถ้าเป็นการกระตุ้นเกินจริง ในอดีตมีให้เห็นอยู่แล้วว่ามันไม่ยั่งยืน กระตุ้นได้เพียงแค่เล็กน้อยสุดท้ายก็กลับมาชะลอเหมือนเดิม"

    ถ้ามองภาพรวมเสถียรภาพการเงินในขณะนี้ ถือว่าเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น ทั้งหนี้ครัวเรือนที่เริ่มชะลอตัว ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ก็เริ่มกลับมาได้ ซึ่งการกลับมาของอสังหาริมทรัพย์ในรอบนี้เป็นลักษณะของการระบายสินค้าเดิมที่มีอยู่ออกไป

    นโยบายการเงินโลกที่เริ่มจะมีความแตกต่างในระยะข้างหน้าว่า แม้เวลานี้จะเริ่มเห็นความแตกต่าง แต่ผลกระทบที่มีต่อประเทศไทยยังไม่ได้มากนัก คงต้องรอดูอีกระยะว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป

    อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นเสมอไปที่ นโยบายการเงินโลกที่มีความแตกต่างจะทำให้อัตราแลกเปลี่ยนของไทยผันผวนมาก เพราะเงินทุนเคลื่อนย้ายอาจไปยังภูมิภาคอื่นที่ไม่เกี่ยวกับของไทยก็ได้ เพียงแต่ยังต้องติดตามดู และเท่าที่ดูในขณะนี้ประเทศไทยยังไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว

    เริ่มเห็นสัญญาณดอกเบี้ยขาขึ้น

    ด้านนายกำพล อดิเรกสมบัติ หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ถ้อยแถลงของ กนง. ที่ออกมาครั้งนี้ เริ่มเห็นสัญญาณที่บ่งบอกของทิศทางดอกเบี้ยนโยบายที่เป็นจะปรับขึ้นได้ในระยะต่อไป โดยเฉพาะที่ระบุว่า นโยบายการเงินที่ผ่อนปรนยังมีความจำเป็นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่อยู่ในระยะเริ่มแรก ซึ่งถ้าตีความในส่วนนี้ อาจบอกได้ว่า กนง. จะเริ่มพิจารณาถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยได้ในระยะข้างหน้า

    ในมุมมองของ ศูนย์วิเคราะห์ บล.ทิสโก้ ยังมองว่า ดอกเบี้ยนโยบายคงจะปรับขึ้นได้ในไตรมาสสองของปีหน้า โดยเรามองว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ การเติบโตจะยังอยู่ที่ระดับ 3-4% แต่จะเริ่มเห็นการเติบโตที่มากขึ้นในไตรมาส 1 ปีหน้าที่ระดับ 5-6% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานที่ต่ำ ซึ่งตัวเลขเหล่านี้จะทราบผลคือในไตรมาส 2 ของปีหน้า ดังนั้นถ้าเศรษฐกิจออกมาดีตามที่คาดไว้จริง ก็คงได้เห็น กนง. เริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย

    ระบุเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ

    นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี ผู้อำนวยการศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย กล่าวว่า ต้องจับตาดูในระยะต่อไป คือ การประสานนโยบายระหว่างนโยบายการเงินกับนโยบายการคลังว่าจะเป็นอย่างไร เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศไว้ชัดเจนว่า จะประสานนโยบายเหล่านี้เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ส่วนโอกาสที่ กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ย เชื่อว่าเป็นกลางปีหน้า

    นายเชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า สัญญาณจากการประชุม กนง. รอบนี้ถือว่ายังไม่มีอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมมากนัก โดย กนง. มองว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้ายังเติบโตได้ดีอยู่ ดังนั้นโอกาสที่จะลดดอกเบี้ยนโยบายลงจึงเป็นไปได้ยาก

    สำหรับแนวโน้มที่ดอกเบี้ยนโยบายจะปรับเพิ่มขึ้นนั้น นายเชาว์ มองว่า เร็วสุดคงช่วงกลางปีหน้า เพราะไม่ได้มีปัจจัยที่เร่งให้ กนง. ต้องรีบขึ้นดอกเบี้ย โดยเงินเฟ้อปัจจุบันต่ำราว 2.1% หรือถ้าจะดูเงินเฟ้อเฉลี่ย 7 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 2.2% ก็ยังเป็นระดับที่ต่ำกว่าที่ประเมินไว้

    Tags : เมธี สุภาพงษ์ • ธปท. • กนง. • คงดอกเบี้ย • เศรษฐกิจ

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้