เปิดหุ้น "บ้านปู" เดือนเดียวต่างชาติพาเหรดทยอยลดสัดส่วนลงทุน ยกเว้น "นอร์แบกซ์-เชส นอมินี" ทิ้งเกลี้ยงพอร์ต สวนทาง "จีไอซี" ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในโครงสร้างผู้ถือหุ้น บริษัทบ้านปู (BANPU) ณ วันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา เทียบกับ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา พบว่า ในช่วงเวลาเดือนเดียวนอมินีต่างชาติลดสัดส่วนการถือครองหุ้นบ้านปู โดยนอร์แบกซ์ เคยถืออหุ้น 18 ล้านหุ้น และเชส นอมินี เคยถือ 17.59 ล้านหุ้น ล่าสุดไม่พบการถือครองหุ้น ด้านโซเมอร์ (ยู.เค.) ลดการถือครอง โดยการขาย 1.46 ล้านหุ้น สเตรท สตรีท แบง ยุโรป ขายออก 1.57 ล้านหุ้น สเตรท สตรีท แบงก์ แอนด์ ทรัสต์ คอมพานี ลดการถือหุ้น 3.06 ล้านหุ้น เอส ฟอร์เทียน ลิมิเต็ต ลดการถือครอง 1.11 ล้านหุ้น เชส นอมินี ลิมิเต็ด 28 ลดการถือหุ้น 1.32 ล้านหุ้น ขณะที่กองทุนจีไอซี เพิ่มการถือครอง 0.2 ล้านหุ้น และเอชเอสบีซี (สิงคโปร์) นอมินีเพิ่มสัดส่วนถือครองหุ้น 2.35 ล้านหุ้น สำหรับการเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัทบ้านปู ช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.14% ขณะที่ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยคาดกำไรไตรมาสปรกปีนี้ฟื้นตัวเด่น และจะเป็นจุดสูงสุดของปี โดยคาดกำไรสุทธิไตรมาสแรกปีนี้ อยู่ที่1,393 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.6%จากงวดเดียวกันปีก่อน และ 116% จากไตรมาส 4 ปี 2556 และจะเป็นจุดสูงสุดของปีนี้ เนื่องจากมีกำไรจาก Coal Swap สูงถึง 18 ล้านดอลลาร์ ITM คาดมีกำไรอ่อนลงตามปริมาณขายที่ลดลงตามฤดูกาลเป็น 7.1 ล้านตัน ราคาขายเฉลี่ยทรงที่ประมาณ 71 ดอลลาร์ต่อตัน ธุรกิจถ่านหินในจีนอ่อนแอลงตามราคาขาย ราคาถ่านหินที่ลดลง ส่งผลบวกต่อธุรกิจไฟฟ้าที่มีต้นทุนต่ำลง ขณะที่อุปสงค์ยังดีต่อเนื่องจากอยู่ในฤดูหนาว โรงไฟฟ้า BLCP กลับมาเดินเครื่องเต็มที่ หลังหยุดซ่อมบำรุงในไตรมาส 4 ปี 2556 ซึ่งคาดกำไรจากบริษัทร่วมที่ 662 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังคาดหวังราคาเริ่มปรับขึ้นในครึ่งปีหลังของปีนี้ ซึ่งราคาถ่านหินอ่อนตัวลงต่อเนื่อง หลังแตะจุดสูงสุดของรอบนี้ในเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา การอ่อนตัวสอดคล้องกับมุมมองที่เชื่อว่า ราคาจะชะลอตัวในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ หลังเข้าสู่ช่วงอุปสงค์อ่อนตัวตามฤดูกาลและปริมาณถ่านหินสำรองที่โรงไฟฟ้าในจีน ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย ราคามีโอกาสฟื้นตัวได้ในครึ่งปีหลัง แต่เชื่อว่าการฟื้นตัว จะมีไม่มากใกล้เคียงกับในครึ่งหลังปี 2556 เพราะตลาดยังอยู่ในภาวะอุปทานส่วนเกิน หลังผู้ผลิตส่วนใหญ่เลือกที่จะผลิตมากขึ้น เพื่อลดต้นทุนต่อหน่วยมากกว่าลดการผลิต ทำให้ภาวะดังกล่าวอาจยาวนานต่อเนื่องไปถึงต้นปี 2558 ส่วนบล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า จากโมเมนตัมเชิงบวกของผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ และแนวโน้มการเติบโตของกำไร คาดจะเห็นชัดเจนในปี 2558 ด้วยความแข็งแกร่งของกำไร ซึ่งคาดจะเพิ่มสูงขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนกำไรจากโรงไฟฟ้า รวมทั้งราคาหุ้นที่ปัจจุบันซื้อขายไม่แพงในเชิงมูลค่าพื้นฐาน "ฝ่ายวิจัยคาดกำไรสุทธิแรกปีนี้ ที่ 1.3 พันล้านบาท หลักๆ เป็นผลมาจากกำไรปรับตัวดีขึ้นจากธุรกิจถ่านหิน จากปริมาณการขายถ่านหินอยู่ในระดับสูง และอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่ง และส่วนแบ่งกำไรสูงขึ้นจาก BLCP รวมทั้งคาดจะมีกำไรจาก Coal Swap ราว 650 ล้านบาท หากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน คาดบริษัทมีกำไรปกติ 758 ล้านบาท ในไตรมาสแรกของปีนี้ คิดเป็นการเติบโต 51% จากงวดเดียวกันของปีก่อน Tags : บ้านปู • หุ้น • ต่างชาติ