'บัวหลวง'ทุ่ม90ล.รุกธุรกิจจ่ายเงินอิเล็กทรอนิกส์

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 17 กันยายน 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    "แบงก์กรุงเทพ" ทุ่มเงิน 89.98 ล้านบาท ซื้อธุรกิจระบบชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เสริมศักยภาพธุรกิจธนาคารพาณิชย์

    นายเดชา ตุลานันท์ รองประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพ ได้เข้าถือหุ้นสามัญในบริษัทไทย เพย์เมนต์ เน็ตเวิร์ก จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 899,820 หุ้น จากจำนวนหุ้นของบริษัทไทยเพย์เมนต์ เน็ตเวิร์ก ทั้งหมด 1.8 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัท หุ้นละ 100 บาท เป็นสัดส่วนการเข้าถือหุ้น 49.99% โดยใช้เงินลงทุนทั้งหมด 89.98 ล้านบาท

    ทั้งนี้ รายการดังกล่าวไม่ใช่รายการเกี่ยวโยงกันของธนาคารตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ และขนาดของรายการ ไม่เข้าข่ายที่จะต้องรายงานสารสนเทศตามหลักเกณฑ์การได้มาและจำหน่ายไป ซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน

    สำหรับความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นธนาคารกรุงเทพ วานนี้ (16 ก.ย.) มีรายงานการซื้อขายรายการใหญ่ทั้งสิ้น 3 รายการ จำนวน 1,983,400 หุ้น คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด 412.99 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 208.23 บาท ส่วนราคาปิดการซื้อขาย ณ สิ้นวัน ของธนาคารกรุงเทพ อยู่ที่ 206.00 บาท ลดลง 3 บาท หรือลดลงคิดเป็น 1.44% โดยมีราคาสูงสุดระหว่างวันอยู่ที่ 210.00 บาท ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 206.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 970.50 ล้านบาท

    ด้านผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2557 ของธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิจำนวน 9,029 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64 ล้านบาท จากไตรมาส 1 ปี 2557 โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 895 ล้านบาท รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 612 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 1,549 ล้านบาท

    ในส่วนของเงินให้สินเชื่อ ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2557 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 1.76 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้น ปี 2556 จำนวน 1.18 หมื่นล้านบาท หรือ 0.7% เนื่องจากสินเชื่อผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อสาขาต่างประเทศยังคงขยายตัวได้ตามเป้าหมายของธนาคาร

    ด้านบล.เอเชียพลัส มองว่าแนวโน้มการเติบโตของกำไรสุทธิ ปี 2557-2558 เท่ากับ 12% และ 9.1% ตามลำดับ โดยเชื่อว่าทิศทางเศรษฐกิจที่เห็นแววกระเตื้องขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ จะส่งผลบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อสุทธิในกลุ่มรายใหญ่ และเอสเอ็มอี ที่จะเข้าสู่ช่วงไฮซี่ซั่น และส่งผลบวกต่อเนื่องต่อการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียม ที่ยังต่ำกว่าเป้าหมายอยู่มากในปัจจุบัน แรงกดดันของผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง ที่จะเกิดขึ้นควบคู่ไปด้วยคือ แนวโน้ม NIM ที่อาจจะเห็นแรงกดดันมากขึ้น เนื่องจากต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายที่จะทยอยปรับขึ้น จากภาพรวมเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ทำให้การแข่งขันด้านเงินฝากกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง

    ส่วนภาพรวม บล. เอเชียพลัส ให้คำแนะนำซื้อ ราคาเหมาะสมในปี 2557 ที่ 220 บาท อิงจากมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นที่ 1.31 เท่า ภายใต้การคาดการณ์ผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้นที่ 13.70% และยังมองว่าราคาหุ้นในปัจจุบันยังเคลื่อนไหวช้ากว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มอุตสาหกรรมและค่าเฉลี่ยของตลาดหุ้นของไทย

    Tags : เดชา ตุลานันท์ • บัวหลวง • ธนาคารกรุงเทพ

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้