รีวิว Xiaomi Mi Mix 2s สานต่อสมาร์ทโฟน (เกือบ) ไร้ขอบ อัพเกรดกล้องหลัง และ Snapdragon 845

หัวข้อกระทู้ ใน 'เทคโนโลยี' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 13 มิถุนายน 2018.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    Xiaomi Mi Mix 2s เป็นการสานต่อสมาร์ทโฟน (เกือบ) ไร้ขอบที่พัฒนาขึ้นจาก Xiaomi Mi Mix 2 มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์เล็กน้อย แต่ยังคงเอกลักษณ์เดิมไว้อย่างเด่นชัด เสริมด้วยสเปกที่ให้ประสิทธิภาพในการใช้งานที่แรงยิ่งขึ้น

    [​IMG]

    ตัวเครื่อง


    ภายนอกของ Xiaomi Mi Mix 2s ด้านหน้าเป็นกระจก หน้าจอแสดงผล Full Screen ขนาด 5.99 นิ้ว อัตรส่วน 18:9 ความละเอียด FHD+ 2160 x 1080 พิกเซล (เท่ากับรุ่น Xiaomi Mi Mix 2) กรอบทั้งสี่ด้านเป็นอลูมิเนียม

    [​IMG]

    ตัวเครื่องด้านหลังยังใช้เซรามิคเป็นวัสดุหลักเหมือนรุ่นก่อน ที่สะท้อนความเงางามและเกิดรอยนิ้วมือได้ง่ายหากไม่ใส่เคส โดยจุดหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงชัดเจนที่สุด คือ กล้องหลัง ที่อัพเกรดมาเป็นกล้องคู่และขยับมาชิดด้านซ้าย คล้ายกับ iPhone X แผงของกล้องหลังและแฟลชจะนูนออกมาเล็กน้อย กรอบเคลือบด้วยสีทองที่ตัดกับสีดำได้อย่างลงตัว เพิ่มความสวยงามและน่าสัมผัส นอกจากนี้ด้านหลังยังมาพร้อมปุ่มสแกนลายนิ้วมือสำหรับปลดล็อกหน้าจอ

    [​IMG]

    พอร์ทสำหรับชาร์จและโอนถ่ายข้อมูลเป็น USB Type-C และมีลำโพงเดียว ซึ่งเปลี่ยนไปจากเดิมใน Xiaomi Mi Mix 2 ที่เป็นลำโพงคู่

    [​IMG]

    ด้านขวาของตัวเครื่องเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง กับปุ่ม Power/ปิดหน้าจอ

    [​IMG]

    ถาดใส่ซิมอยู่ด้านซ้ายของตัวเครื่อง รองรับซิมประเภท Nano SIM ได้ 2 ซิม แต่หากต้องการใส่ microSD card ก็จะใช้ได้แค่ซิมเดียวเท่านั้น

    [​IMG]

    ใน Xiaomi Mi Mix 2s จะไม่มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ติดมากับตัวเครื่อง อย่างไรก็ตามภายในกล่องบรรจุตัวเครื่องยังมีตัวแปลงหูฟังขนาด 3.5 มม. แถมมาให้

    การใช้งาน


    Xiaomi Mi Mix 2s ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 845 แรม 6GB มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo ครอบทับด้วย MIUI 9 ซึ่งในภาพรวมของการใช้งานทั่วไป อาทิ การเปิดปิดแอพจำนวนมากไม่ปรากฏอาการหน่วงให้เห็น หรือการใช้ Facebook เลื่อน News Feed เร็วๆ ทำได้อย่างลื่นไหล

    [​IMG]

    ส่วนฟีเจอร์ใน MIUI 9 หลักๆ ก็ยังมีมาให้เหมือนกับในสมาร์ทโฟน Xiaomi ส่วนใหญ่ ทั้ง Second Space (พื้นที่ทับซ้อน) การสร้างพื้นที่การใช้งานใหม่ที่แยกอิสระจากหน้าการใช้งานหลัก ซึ่งสามารถสลับใช้ไปมาได้, Dual apps (แอพโคลน) เป็นการแยกแอพออกมาอีกหนึ่งตัว สำหรับในกรณีที่เราต้องการใช้งานแบบที่แตกต่างจากแอพตัวหลัก แยกคนละบัญชี รองรับทั้งแอพ Facebook, PowerPoint, Word, ROV, Excel และอื่นๆ อีกหลายแอพ

    [​IMG]

    ขณะที่การเล่นเกมยอดฮิตอย่าง ROV อันนึ้หายห่วงครับ จัดว่าลื่นไหล ไม่พบอาการสะดุดหรือหน่วง เฟรมเรตในระหว่างต่อสู้ค่อนข้างสูง อยู่ระดับ 60 FPS ขึ้นไป บางครั้งสังเกตว่าพุ่งขึ้นถึงระดับ 68 FPS

    [​IMG]

    กล้องถ่ายภาพ


    เริ่มกันที่กล้องหลังคู่ มากับความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล, มีกันสั่น OIS แบบ 4 แกน แฟลช Dual-tone LED เลนส์ตัวหลักใช้เซนเซอร์ Sony IMX363, รูรับแสง f/1.8 เลนส์รองใช้เซนเซอร์ Samsung S5K3M3, รูรับแสง f/2.4

    จุดเด่นของกล้องหลังมาพร้อม AI ที่ช่วยถ่ายภาพ สามารถแยกแยะประเภทของวัตถุ, สัตว์, สภาพแสงต่างๆ ได้หลากหลาย เพื่อให้ภาพถ่ายออกมาดีที่สุด ซึ่ง AI จะไม่ได้เปิดให้ใช้ทันทีโดยอัตโนมัติ ผู้ใช้ต้องแตะที่ปุ่ม AI ที่อยู่ด้านบนซะก่อน

    [​IMG]

    เมื่อเปิดใช้ AI แล้ว ทันทีที่เราจะถ่ายรูปใดก็ตาม สัญลักษณ์ AI จะเปลี่ยนไปตามประเภทของสิ่งนั้น เช่น เมื่อถ่ายภาพอาหาร สัญลักษณ์จะเปลี่ยนเป็นรูปช้อนส้อม หรือถ่ายภาพในช่วงกลางคืน สัญลักษณ์ก็จะเปลี่ยนเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว เป็นต้น

    โดยจากที่ผมได้ทดสอบถ่ายภาพ สังเกตความแตกต่างระหว่างเปิดกับปิด AI พบกว่าการเปิดโหมด AI จะช่วยเพิ่มความเข้มของสีและความสว่างให้มากขึ้นจากโหมดปกติเล็กน้อย แต่สำหรับภาพบางประเภท เช่น ภาพสถานที่ตอนกลางคืน เมื่อเปรียบเทียบระหว่างเปิดกับปิดโหมด AI รู้สึกว่าแทบไม่มีความแตกต่างกันสักเท่าใดนัก

    ตัวอย่างภาพถ่ายด้วย AI

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    โหมด Portrait หรือถ่ายภาพบุคคล มีให้ใช้กับกล้องหลังด้วย ซึ่งการใช้โหมดนี้จะมีตัวหนังสือแสดงขึ้นมาบอกระยะที่เหมาะสม ช่วยให้เกิดภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ฟิลเตอร์ที่มีให้เลือกหลายแบบ เฉพาะการใช้กับโหมด Portrait อีกด้วย

    [​IMG]

    กล้องหน้าให้ความละเอียดมาเพียง 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ซึ่งการหมุนตัวเครื่องเพื่อให้กล้องหน้าอยู่ในมุมปกติเหมือนสมาร์ทโฟนทั่วไปก่อนเซลฟี่ นับเป็นการสร้างความลำบากอย่างหนึ่ง ขณะที่การเซลฟี่ดูจะเหมาะกับสภาพแสงที่ดีในบางช่วงเวลาเท่านั้น หากใช้ในที่แสงน้อยหรือในห้องนอนที่เปิดไฟปกติ ภาพจะติด noise หรือมีจุดรบกวนบนภาพอย่างเห็นได้ชัด

    ส่วนโหมดที่ใช้ร่วมกับกล้องหน้าได้จะมีโหมด Dept effect หรือการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ, โหมด Beauty ที่ปรับระดับความเนียนบนใบหน้าได้ถึง 5 ระดับ รวมไปถึงสามารถปรับความสวยชั้นสูงที่ปรับได้ทั้งความเรียวของใบหน้าและขนาดของดวงตา

    สรุป


    ในแง่ของดีไซน์ต้องยอมรับว่า Xiaomi Mi Mix 2s ยังคงเอกลักษณ์ของการเป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้พื้นที่หน้าจอมากเป็นพิเศษรุ่นหนึ่ง (เกือบไร้ขอบ) การใช้งานทั่วไปภายใต้ชิปเซ็ต Snapdragon 845 ถือว่าหายห่วง มั่นใจได้ว่าเล่นเกมได้ลื่นไหล ส่วนกล้องหลังที่ใช้เลนส์คู่และเพิ่มคุณสมบัติของ AI เข้าไป เป็นตัวช่วยที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้ที่ไม่ชำนาญด้านการถ่ายภาพ แต่อยากให้ภาพออกมาดูดี ขณะที่กล้องหน้ายังเป็นจุดที่ต้องปรับปรุง

    และในรุ่นนี้ยังรองรับ Wireless chaging หรือชาร์จไร้สาย ที่ใช้งานร่วมกับแท่นแท่นชาร์จไฟไร้สายตามมาตรฐาน Qi ได้อีกด้วย

    Topics: XiaomiReviewMobile
     

แบ่งปันหน้านี้